Design a site like this with WordPress.com
เริ่มได้

ครีมบำรุงผิว หน้ายี่ห้อไหนดี ฉบับล่าสุดปี 2019

ครีมบำรุงผิว แม้จะมีคนบอกว่า จะคบใครสักคนต้องดูที่จิตใจหาใช่หน้าตา”แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าด่านแรกที่ทุกคนดูก่อนเข้าไปทำความรู้จักนั้นคือหน้าตานั่นเอง การดูแลผิวให้ดูดีอยู่เสมอก็เป็นอีกส่วนที่ทำให้หน้าตาสดใสดึงดูดผู้คนเข้ามาทำความรู้จักกับเรามากขึ้น ทั้งยังช่วยชะลออายุของผิวหน้าให้ดูอ่อนกว่าวัยเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้ดูแลผิวพรรณในวัยเดียวกัน นอกจากนี้ครีมบำรุงในปัจจุบันก็ไม่ได้มีคุณสมบัติแค่ชะลอการเกิดริ้วรอยต่าง ๆ เท่านั้น ผู้ผลิตมากมายยังได้ผลิตครีมหลากหลายชนิดมาเพื่อจัดการกับปัญหากังวลใจของสาว ๆ เช่น ผิวหมองคล้ำ ผิวแห้งหรือจุดด่างดำ

อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าครีมที่มีคุณสมบัติดังกล่าวจะแก้ปัญหาผิวของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพเสมอ เพราะผลิตภัณฑ์แต่ละอย่างนั้นเหมาะกับสภาพผิวที่แตกต่างกัน เพื่อนเราใช้แล้วว่าดี เราใช้เองอาจไม่ดีอย่างที่ว่าก็ได้ค่ะ หากเป็นเช่นนี้แล้วเราควรเลือกผลิตภัณฑ์แบบไหนกันล่ะ วันนี้ผู้เขียนได้นำวิธีการเลือกครีมบำรุงที่ดีที่สุดที่เหมาะกับผิวหน้าตัวเองและรวบรวม 10 อันดับครีมบำรุงยอดฮิตที่สาว ๆ ใช้แล้วโดนมาแนะนำเพื่อเป็นแนวทางให้คุณเลือกดูกันแล้วค่ะ ไปดูกันเลยสำหรับสาว ๆ ที่มีผิวแห้ง ก็คงต้องการผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นใช่มั้ยคะ ดังนั้นก่อนซื้อให้ดูที่ส่วนประกอบข้างกล่องว่ามีส่วนประกอบที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นหรือไม่ เช่น กรดไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) คอลลาเจน (Collagen) เซราไมด์ (Ceramide) และ อีลาสติน (Elastin) เป็นต้น ซึ่งจะต้องมีผสมเป็นส่วนประกอบหลัก ไม่ใช่ว่ามีปริมาณน้อยนิดจนไม่รู้สึกนะคะ

นอกจากนี้ถึงแม้จะเป็นสารที่เพิ่มความชุ่มชื้นเหมือนกัน แต่สารเหล่านี้ให้ประสิทธิภาพในตำแหน่งที่ต่างกัน โดยสารที่ทำงานบนผิวชั้นนอกสุด (ชั้นหนังกำพร้า) คือ เซราไมด์ (Ceramide), สารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ (์Natural Moisturizing Factor; NMF) เป็นต้น ในขณะที่กรดไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid ), คอลลาเจน (Collagen) และอีลาสติน (Elastin) ทำหน้าที่กระชับผิวและเพิ่มความยืดหยุ่นบริเวณหนังแท้ใต้ชั้นหนังกำพร้า

ดังนั้น เพื่อให้ผิวหนังของเรามีความนุ่มชุ่มชื้นอย่างสมดุล ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เติมเต็มสารอาหารให้ทั้งชั้นหนังแท้และชั้นหนังกำพร้าอย่างครบถ้วนและเพียงพอนะคะ

ขอบคุณแหล่งที่มา https://my-best.in.th

นิวซีแลนด์ 1-0 แพนด้า คัพ ชนะยับรุ่นอายุไม่เกิน19ปี

นิวซีแลนด์ ครึ่งหลัง เริ่มมาได้แค่สองนาที นิวซีแลนด์ ต้องเหลือผู้เล่นแค่สิบคน หลัง ไบร์ท ฌอน มาโดนใบแดงไล่ออกจากสนามไป

พอได้เปรียบเรื่องตัวผู้เล่น กลายเป็นไทยที่ครองเกมได้เหนือกว่า และมีโอกาสลุ้นหลายครั้ง โดยเฉพาะช่วงทดเจ็บ ที่ ภูชิสส์ เพ็ชรรัตน์ ได้ซัดฟรีคิก แต่บอลพุ่งไปชนคาน

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติมจบเกม ทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี เฉือนชนะ นิวซีแลนด์ 1-0 มีหกคะแนน โดยต้องไปลุ้นให้ จีน เอาชนะเกาหลีใต้ ในคู่หลังจากนี้ด้วยสกอร์ที่ห่างมากกว่าสี่ประตู ไทยจึงจะเป็นแชมป์

สำหรับทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี จะเดินทางกลับทันที โดยจะถึงท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมืองในวันที่ 30 พฤษภาคม 2562 เวลา 05.00 น.

รายชื่อ 11 ตัวจริงทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี
ถิรวุฑ สรวลสรรค์ (GK), นิติบดินทร์ มะคต, อนัชชา เทพศิริ, ณัชชา พรมสมบูรณ์, จิระพงค์ รักสงคราม, พงศกร ตรีศาสตร์, ภราดร พัฒนะผล, ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์, ภาณุวิชญ์ จิตเสนาะ, เนติธร แก้วเจริญ, อชิตพล คีรีรมย์

ขอบคุณแหล่งที่มา https://www.sanook.com/

เดิร์ก ดัลลัส นักแตะฟุตบอลเป็นได้แค่สัญญาจ้างกับลูกจ้าง

“แกต้องตัดสินใจเเล้วว่าแกจะออกไปเจอกับคนที่เก่งที่สุดในโลกหรือจะแค่เป็นฮีโร่แค่ในเยอรมัน ถ้าแกเลือกอย่างหลังเราจะหยุดซ้อมพิเศษกันตั้งแต่ตอนนี้ แต่ถ้าเเกอยากจะลองกับโลกกว้าง เราจะฝึกหนักกันในทุกวันๆ” นี่คือสิ่งที่ โฮลเกอร์ เกสช์วินด์เนอร์ นักบาสเก็ตบอลทีมชาติเยอรมัน และโค้ชของ โนวิตซกี้ ซึ่งตอนนั้นอยู่ในวัย 16 ปีกล่าวกับเขา ก่อนที่จะส่งผู้เล่นที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในประเทศออกไปเจอกับลีกที่ดีที่สุดในโลกอย่าง NBA ในอีก 4 ปีต่อมา

วันที่ 24 มิถุนายนปี 1998 ณ เจเนรัล มอเตอร์ เพลซ เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศเเคนาดา มีงานสำคัญสำหรับวงการบาสเก็ตบอล นั่นคือวันแห่งการดราฟต์ (ดราฟต์ เดย์) ที่เหล่าดาวเด่นจากทีมมัธยมศึกษา, มหาวิทยาลัย ทั่วฟ้าแดนมะกันจะมารวมตัวกัน ให้เหล่าทีมดังต่างๆใน NBA เลือกจั่วไพ่ขึ้นมาเป็นชื่อของพวกเขา เพื่อได้ไปร่วมทีมในสังเวียนที่เชี่ยวกราดที่สุดในโลกของวงการยัดห่วง

ในปีนั้น เดิร์ก โนวิตซกี้ เด็กหนุ่มวัย 20 ปี ชาวด๊อยท์ช เป็นเพียง 1 เดียวที่ไม่ได้มาจากโรงเรียน และมหาวิทยาลัยในอเมริกา เขามาจาก DJK เวิร์ซบวร์ก ทีมในระดับ 2 ของลีกบาสเก็ตบอลของ เยอรมัน และได้เข้าร่วมวินาทีแห่งประวัติศาสตร์นี้

ณ ตอนนั้น โนวิตซกี้ คือดราฟต์ลำดับที่ 9 ในจำนวนรุกกี้ทั้งหมด เขาถูก มิลวอกี้ บัคส์ เลือกนำมาสู่ทีม ทว่าการถูกเลือกของของเขาเกิดขึ้นเพราะทางฝั่ง บัคส์ ตั้งใจให้เป็น Sign and Trade (การดราฟต์ตามลำดับไปก่อนและค่อยไปเทรดกับผู้เล่นของทีมอื่น) ความหมายโดยนัยคือ … บัคส์ เองไม่ได้กะใช้งานแต่เเรกอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องการดึงเอา โนวิตซกี้ เข้ามาไว้ก่อน เพื่อจะใช้เป็นของแถมเทรดไปให้ ดัลลัส แมฟเวอริคส์ พร้อมๆ กับ พอล การ์ริตี้ ขณะที่ บัคส์ นั้นยิ้มหน้าชื่นตาบานเพราะพวกเขาได้ผู้เล่นที่เป็นดราฟต์ลำดับ 6 ของลีกอย่าง โรเบิร์ต เทย์เลอร์ ที่เป็นดาวเด่นจาก มิชิเเกน ที่ แมฟส์ ส่งมาให้ใช้แทนที่

ณ เวลานั้นทุกคนต่างพากันสงสัยว่า แมฟส์ เอา โนวิตซกี้ มาทำไม?

เอามาทำไม?

คำถามนี้ ดอน เนลสัน โค้ชของ แมฟส์ ให้เหตุผลที่เขายอมเสียดราฟต์อันดับ 6 อย่าง เทย์เลอร์ เพื่อเอา ดราฟต์อันดับ 9 ของ โนวิตซกี้ มาแทนก็ด้วยเหตุผลที่ว่า บัคส์ เป็นฝั่งจิ้มเอา โนวิตซกี้ ไปก่อนต่างหาก นั่นหมายความว่า โนวิตซกี้ คือ แผนที่ แมฟส์ วางไว้และเป็น 1 ในตัวเลือกในใจของ ดอน เนลสัน ตั้งแต่แรกเเล้ว เขายืนยันว่า โนวิตซกี้ คือสิ่งที่สามารถเรียกได้เต็มปากว่าเป็นบิ๊กดีล แต่แน่นอนวาเมื่อเจ้าหนุ่มจากเยอรมันยังไม่ได้พิสูจน์อะไรมันก็จึงเป็นเรื่องที่ใครต่อใครยากจะเชื่อ

โนวิตซกี้ ต้องพบกับสถานะที่เป็นเหมือนตัวแถมในเวลานั้น มันเป็นช่วงเวลาที่เขาต้องเข้าใจว่าเเต้มต่อของเขายังเป็นรองผู้เล่นหลายๆคนในการดราฟต์รุ่นเดียวกันกว่าที่ โนวิตซกี้ จะถูกเรียกว่าผู้เล่นของ ดัลลัส แมฟเวริคส์ ได้เต็มปากเขาต้องแสดงศักยภาพของตัวเองออกมาในเกมที่เรียกว่า พิคอัพ เกมส์ ซึ่งเป็นเหมือนเกมโชว์ฝีมือที่มีอยู่ให้ทีมงานที่คอยจับตาดูอยู่ได้เห็น

ก่อน พิคอัพ เกมส์ ของ แมฟส์ ก่อนฤดูกาล 1998-99 จะเริ่ม มีอดีตนักบาส NBA หลายคนมาอยู่ในสนาม เบย์เลอร์ เฮลต์ เซนเตอร์ เพื่อมาดูฟอร์มหน้าใหม่ โดยเฉพาะรุกกี้อย่าง โนวิตซกี้ ที่สูง 7 ฟุต แต่ตัวกลับผมกระหร่องจนไม่น่าจะทนแรงปะทะไหว

“ไอ้หมอนี่สูงเท่าไหร่” ชายคนแรกโพล่งถาม

“7 ฟุตเลยล่ะ” คำตอบจากชายคนที่สอง

“ไม่หรอกมั้ง? ดูแล้วไม่น่าถึง 7 ฟุตหรอก ทรงบอลไอ้หมอนี่ไม่ไหวเลย แถมยังดูขี้เกียจอีกต่างหาก ผมว่าเขาไม่น่าถึง 7 ฟุตนะ” ชายคนแรกเห็นแววไม่น่ารุ่งจึงตอบกลับไปเช่นนั้น

ระหว่างที่ทั้งสองคุยกัน มีเสียงแทรกมาจากชายคนที่ 3 ที่เห็นต่างออกไป “จะ 7 ฟุตหรือเปล่าไม่รู้ แต่เขาจะเป็นผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ได้แน่”

การถกเถียงจบลงด้วยความคิดเห็นของชายคนที่ 4 ซึ่ง “คุณจะบอกว่าเขาจะกลายเป็นผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ทั้งๆที่เขาเล่นแค่ พิคอัพ เกม ไม่ได้หรอก มันไม่เหมือนกับเกมจริง เราจะรู้ก็ต่อเมื่อได้ยินเสียงหอบของเขาหลังจากโดน สก็อตตี้ พิพเพ่น เผาเครื่องเป็นเวลา 40 นาที หรือการโดน ชาร์ลส์ โอ๊คลี่ย์ ไล่ถลุงนู่นแหละ”

แม้จะดูเป็นคำพูดที่โหดร้ายแทงใจ แต่เรื่องจริงก็เป็นเช่นนั้น โนวิตซกี้ มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการปรับสไตล์ของตัวเองให้ทันศึก NBA ที่มีความแตกต่างกว่าลีกเยอรมันที่เขาจากมาเยอะ ทั้งการเจอกับคู่แข่งที่ร่างกายที่แข็งแกร่งมากกว่า และสิ่งแปลกใหม่ที่ไม่เคยเจอ

ขอบคุณแหล่งที่มา https://www.sanook.com

หนุ่มโพสต์ตามหาเมีย หนีตามผู้ชาย 14 วัน พูดไม่ออกลูกสาวร้องไห้หาแม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความระบุว่า “ดูหน้ามันไว้ครับบุคคลอันตราย มันพาเมียผมหนี มันไม่เคยเห็นแก่ความเป็นมนุษย์ด้วยกัน มันทำลายครอบครัวผม มันทำให้ลูกผมไม่มีแม่ ลูกผมถามผมว่าแม่ไปไหน ร้องไห้ ผมได้แต่กอดลูกร้องไห้ ผมทำอะไรไม่ถูก มือไม้มันสั่นไปหมด ผมมีลูกสาวที่น่ารักทำไมมันทำอะไรไม่เคยสงสารเด็กตาดำๆ เลย ผมทำอะไรผิด ผมทำแต่งาน ไม่เคยห่วงตัวเองนอกจากครอบครัวผมไม่เคยแต่งตัว ผมคิดอยู่อย่างเดียวปากท้องลูกเมียผมต้องอิ่ม สุดท้ายคนที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขก็ทิ้งผมไปอยู่กับคนอื่น บ้านก็กำลังสร้างด้วยกัน เงินส่วนตัว ทองอีก เอ็งก็เอาไปหมด ทำไรไม่เคยคิดถึงลูกเลย ถ้าใครเจอแจ้งเบาะแสทีครับ ผมไปหอผู้ชาย เจ้าของหอบอกมันไม่ได้เข้าไปที่ห้อง”

ล่าสุดเวลา 09.30 น. (24 พ.ค. 62) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้าน หมู่ที่ 13 ต.ดงคอน อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท พบกับนางพันธิรา อายุ 51 ปี แม่ของ นางสาวโชติกา อายุ 23 ปี ลูกสาวที่หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค. 2562 นั่งกอด น้องแตงกวา หลานสาวอายุ 7 ขวบ ที่ลูกสาวทิ้งไว้ให้เลี้ยงด้วยความโศกเศร้า น้ำตาไหลตลอดเวลา ร้องรำพึงหวังให้ลูกกลับมา เบื้องต้นได้ทำการแจ้งความที่ สภ.สรรคบุรี แล้ว ตอนนี้รอเพียงตัวของลูกสาวกลับมา

นางพันธิรา เปิดเผยว่า ลูกสาวจะไปทำงานโรงงานที่ จ.ลพบุรี แบบเช้าไปเย็นกลับกับรถรับส่งของบริษัท แต่เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมาหลังออกไปทำงานตามปกติก็หายตัวไปไม่สามารถติดต่อเมื่อครอบครัวไปตามหาที่โรงงานก็ไม่พบเพื่อนร่วมงานบอกว่าลูกสาวไม่ได้ไปทำงานจึงเป็นห่วงมากยิ่งขึ้น เพราะได้ข่าวมาว่า ลูกสาวมีผู้ชายทำงานที่เดียวกันมาติดพันชอบพอกันแล้วชวนกันหนีไป

ตนอยากให้ลูกกลับมา เพราะเป็นห่วง ไม่รู้จะเป็นตายร้ายดีอย่างไร ถ้ายังมีลมหายใจอยู่ก็ติดต่อกลับมาบ้าง แต่อยากให้มาที่บ้านมากกว่า จะเอาอย่างไรก็เอา กลับมาคุยกันก่อน อย่าหนีหายไปแบบนี้ หลานก็ร้องหาแม่ทุกวัน บอกคิดถึง ก็ไม่รู้จะตอบอย่างไรไปโรงเรียนก็ไม่สดใสร่าเริง ซึมเศร้า ไม่เล่นกับเพื่อน หยุดเรียนมาหลายวันแล้ว ส่วนตัวเองโรคก็รุมเร้าทั้งความดัน เบาหวาน เครียดจนเป็นไมเกรน เฝ้ารอวันที่ลูกจะกลับมาหาแม่สักที

นายชาญณรงค์ อายุ 29 ปี สามีของนางสาวโชติกา เปิดเผยว่า เพื่อนที่ทำงานของภรรยา ให้เบาะแสว่าล่าสุดออกไปกับผู้ชายคนในภาพ ชื่อ นายแสงอรุณ ที่ทำงานอยู่ด้วยกัน ตนก็รีบไปหาที่หอพักของผู้ชาย ยามไม่ให้เข้าไปเพราะความเป็นส่วนตัว ตนก็รอจนถึงตี 2 ของวันที่ 12 พ.ค. ก็ไม่เจอ แค้นก็แค้นมือไม้สั่นไปหมด แต่คำว่าลูกค้ำคออยู่ ตนไม่รู้มาก่อนเลยว่าเขาคุยกันเพราะมัวแต่ทำงานจะสร้างบ้านอยู่ด้วยกัน มารู้อีกทีก็จากปากคนอื่น ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีปากเสียง ไม่ได้ทะเลาะกัน ตอนนี้อยากให้กลับบ้านกลับมาหาลูกหาครอบครัว ตนพร้อมที่จะให้อภัยเสมอ ขอแค่กลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมก็พอ

ขอบคุณแหล่งที่มา https://www.sanook.com/

เดอ บัวร์ คิดดีแล้วออกจากทีมบาร์ซ่า

โรนัลด์ เดอ บัวร์ อดีตตัวรุกระดับโลกชาวฮอลแลนด์ ออกมาเผยว่า เคยเกือบเซ็นสัญญากับ​ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2000 แล้ว แต่สุดท้ายเลือกย้ายจาก บาร์เซโลน่า ไปอยู่ กลาสโกว เรนเจอร์ส ในลีกสก็อตแลนด์ซะอย่างนั้น

“ตอนที่ผมตัดสินใจย้ายออกจากบาร์เซโลน่า เมื่อปี 2000 ผมเกือบจะเซ็นสัญญากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่แล้วนะ ซึ่งคนรอบข้างก็สังสัยกันใหญ่ว่าทำไมเลือกไป เรนเจอร์ส แทน” เดอ บัวร์ผู้น้องกล่าว

“คือตอนเจรจากับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เขาบอกว่าในแผงมิดฟิลด์ มีคนได้รับการการันตีตัวจริงแค่ รอย คีน กับ เดวิด เบ็คแฮม เท่านั้น ทำให้แข้งอื่นๆ รวมถึง พอล สโคลส์ จำเป็นต้องตกอยู่ในสถานะหมุนเวียนกันเล่น”

“ปีนั้นเป็นช่วงที่หัวเข่าผมมีปัญหาจากการบาดเจ็บรุนแรงพอดี ผมเลยรู้สึกว่าหากสภาพความฟิตไม่เต็มร้อย มีหวังโดนดองยาวอยู่ที่นั่นแน่ และด้วยความที่อยากลงสนามต่อเนื่องมากกว่าอยู่กับทีมใหญ่จึงเลือกไป เรนเจอร์ส

ขอบคุณแหล่งที่มา https://www.sanook.com

หลุดท็อปโฟร์?ตำนานแมนยูเป็นอะไรแต่งตัวเป็นหญิง ปาทริซเอวร่า

ปาทริซเอวร่า อดีตกองหลังทีมชาติฝรั่งเศส ขยันทำเรื่องประหลาดผ่าน “ไอจี” ล่าสุดแต่งองค์ทรงเครื่องเป็นสตรีสุดเซ็กซี่พร้อมกับเต้นอย่างเมามัน หลังจากที่ตัวเองมีข่าวพัวพันกับตำแหน่งผอ.กีฬา “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ปาทริซ เอวร่า ตำนานฟูลแบ็กแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำเอาแฟนบอล “ปีศาจแดง” ถึงกับอึ้ง เมื่อเจ้าตัวอัพโหลดวีดิโอผ่าน อินสตาแกรม เว็บไซต์ยอดฮิต ขณะที่สวมชุดผู้หญิง และเต้นไปพร้อมกับไม้ถูพื้น หลังมีข่าวว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่จะนั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการกีฬาสโมสร

อดีตดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศส ปัจจุบันอายุ 37 ปี แปลงโฉมตั้งแต่หัวจรดเท้าพร้อมกับทำก้นปลอมและสวมวิกผมสีดำ โดยการทำแบบนี้ทำให้เขาดูเหมือนกับสาวฮูล่า มากกว่าผู้ที่มีลุ้นจะได้รับตำแหน่งผอ.กีฬา แชมป์ลีกสูงสุดประเทศอังกฤษ 20 สมัย

เดอะ ไทม์ส สื่อดังในอังกฤษ รายงานว่า เอวร่า ซึ่งมักจะโพสต์อะไรแปลกๆ ผ่านสื่อออนไลน์เป็นประจำ เป็นหนึ่งในตำนานแข้ง “เร้ด เดวิลส์” ที่ถูกทาบทามเพื่อให้รับงานสำคัญของสโมสร โดยก่อนหน้าก็มี ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช และ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ที่ตกเป็นข่าวว่าได้เข้าไปสัมภาษณ์ตำแหน่งนี้เช่นกัน

ทั้งนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด พยายามที่จะนำบรรดาตำนานของสโมสรกลับมากอบกู้ทีมหลังจากที่กำลังเข้าสู่ยุคดำดิ่ง โดยพวกเขาดึง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีม โดยมี ไมเคิ่ล คาร์ริค เป็นหนึ่งในสตาฟฟ์โค้ชทีมชุดใหญ่ ขณะที่ นิคกี้ บัตต์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายศูนย์ฝึกเยาวชน “ผีแดง”

เป๊ป ชูแข้งอันตรายเลสเตอร์ที่แมนซิตี้ต้องระวัง

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ แมนฯ ซิตี้ เตือนลูกทีมต้องระวังดาวเตะ เลสเตอร์ ให้ดี เพราะกำลังฟอร์มฮอตยิงเป็นว่าเล่น พร้อมชม เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เข้ามาทำให้ “สุนัขจิ้งจอก” ทำผลงานเยี่ยม
โจเซป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอมรับว่า เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้า เลสเตอร์ ซิตี้ เป็นนักเตะอันตราย และแข้ง “เรือใบสีฟ้า” ต้องระวังให้ดี ก่อนที่ทั้งสองทีมจะเจอกันในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคมนี้

แมนฯ ซิตี้ ต้องการเก็บ 3 คะแนนเพื่อแซง ลิเวอร์พูล กลับขึ้นไปเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม วาร์ดี้ เป็นนักเตะที่มีสถิติยอดเยี่ยมในการยิงทีมใหญ่ และกำลังอยู่ในฟอร์มที่ร้อนแรง หลังทำไป 11 ประตูใน 11 เกมหลังสุด รวมทั้งเพิ่งกดไป 2 ลูก ในเกมเปิดรัง คิง เพาเวอร์ ไล่ถล่ม อาร์เซน่อล 3-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา

กวาร์ดิโอล่า เผยว่า “ผมคิดว่า เส้นทางค้าแข้งของเขา (วาร์ดี้) พิสูจน์ในตัวมันเองอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่ช่วงไม่กี่เกมที่ผ่านมา แต่ก็ต้องยอมรับว่า เขายิงประตูมาอย่างต่อเนื่อง เขาทำได้เยี่ยมในลีกแห่งนี้ เขาเป็นกองหน้าที่ยอดเยี่ยมอย่างไม่น่าเชื่อด้วยการเคลื่อนที่, จบสกอร์ และเป็นนักสู้”

“ผมเคยคิดก่อนหน้านี้ว่า พวกเขาเป็นทีมที่เล่นอาศัยการโต้กลับ แต่ตอนนี้จากการที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เข้ามาคุมทีม ทำให้พวกเขาเล่นในอีกแนวทาง และพวกเขาก็สามารถใช้มัน และควบคุมเกมเอาไว้ได้” กุนซือชาวสแปนิช ทิ้งท้าย

เทรนท์ ยันไม่เจตนาใช้แขนปัดบอล-คาร์ร่าชี้โชคดีไม่โดนแดง

เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็กดาวรุ่งของลิเวอร์พูล กล่าวชัดเจนว่าตนไม่ได้มีเจตนาที่จะใช้แขนปัดบอล โดยมันเป็นสัญชตญาณของมนุษย์ที่บอลพุ่งมาแรงแล้วไม่สามารถควบคุมมันได้ ในเกมที่หงส์แดงบุกเอาชนะนิวคาสเซิล 3-2 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
เด็กปั้นของหงส์แดงวัย 20 ปี เปิดใจเกี่ยวกับจังหวะปัญหาที่ตัวเขาทำแฮนด์บอลบนเส้นประตูแต่ผู้ตัดสิน อันเดร มาร์ริเนอร์ ให้เป็นจังหวะต่อเนื่องแก่นิวคาสเซิล จนเดอะ แม็กพายส์ ได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากคริสเตียน อัตซู ซึ่งทำให้เจ้าตัวรอดพ้นจากการโดนไล่ออกจากสนามและจากนั้นไม่กี่นาทีต่อมา เจ้าหนูเทรนท์ ก็เป็นคนเปิดบอลให้โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทำประตูพาลิเวอร์พูลกลับขึ้นไปนำ 2-1 อีกครั้ง

ในเรื่องนี้เอง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ยืนยันว่าตนไม่ได้มีเจตนาที่จะปัดบอลแต่อย่างใด โดยมันเป็นสัญชาตญาณเท่านั้น เพราะบอลมันพุ่งมาเร็วมาก “บอลมันพุ่งมาหาผมเร็วมากๆ – มันก็เป็นเพียงสัญชาตญาณเท่านั้น(ที่ปัดบอลทิ้ง)”

“แขนของผมมันไม่ได้กางออกเลยนะ ที่บอลมันไปโดน แขนมันก็ยังแนบลำตัว”

ทั้งนี้จากจังหวะดังกล่าว เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากว่า อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ควรสมควรโดนใบแดง ซึ่งเจมี่ คาร์ราเกอร์ กูรูแห่งสกาย สปอร์ตส์ ก็ออกมากล่าวว่า แบ็กขวารายนี้ โชคดีที่ไม่โดนไล่ออกจากสนามไป “เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ โชคดีมาก มันเกิดขึ้นในตอนสกอร์ 1-1 มันดีที่สุดแล้วกับสถานการณ์ของลิเวอร์พูลในตอนนี้”

แก้ไขด่วน! เจาะลึก 3 ข้อทำไม มาร์กซิยาล ฟอร์มตกหนักหน่วง

มาร์กซิยาล กำลังเผชิญปัญหาฟอร์มตกอย่างหนักหน่วง ทั้งที่ช่วงแรกที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เข้ามาคุมทัพเขากลับโชว์ฟอร์มได้ดีเยี่ยมจนได้รับการต่อสัญญาออกไปถึง 4 ปีด้วยกัน แต่หลังจากนั้นฟอร์มกลับออกทะเลอย่างน่าใจหาย แผนของโซลชาไม่สามารถเค้นฟอร์ม มาร์กซิยาล? หรือจะเป็นปัญหาในห้องแต่งตัวที่ทำให้เขาเล่นไม่ออก? เรามาวิเคราะห์เจาะลึกกัน

1.ปัญหาทัศนคติ

เป็นสิ่งที่เป็นประเด็นให้คนพูดถึงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามากมาย ทัศนคติในสนามของเขาแฟนผีแดงและโซลชา ดุจะไม่ปลื้มเอามากๆ ในเกมกับ เชลซี เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีแฟนบอลในสนามถ่ายคลิปที่ มาร์กซิยาล ยืนอยู่นิ่งๆในช่วงพักครึ่งที่นักเตะสำรองลงไปวอร์มในสนาม ทั้งที่เพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆกำลังอบอุ่นร่างกายอย่างเต็มที่ จนทำให้แฟนบอลของ แมนฯ ยูไนเต็ด ตำหนิเขาอย่างหนักบนสังคมออนไลน์

นอกจากนี้ยังมีข่าวว่า โซลชา ไม่พอใจทัศนะคติของดาวเตะเลือดน้ำหอมที่ไม่พยายามเพื่อทีมมากเท่าที่ควรในหลายจังหวะ ดูจากสถิติแล้วเจ้าตัวมีระยะทางวิ่งในสนามเฉลี่ยแค่ 8.45 กิโลเมตรต่อเกมเท่านั้นซึ่งถือว่าน้อยที่สุดในตำแหน่งบรรดากองหน้าพรีเมียร์ลีก แถมถ้านับเฉพาะแข้งผีแดงก็มีแค่ เอริก ไบยี่ ที่เป็นนักเตะเอ้าท์ฟิลด์เพียงคนเดียวที่มีค่าเฉลี่ยน้อยกว่า มาร์กซิยาล ด้วย ดังนั้นถ้าจะปรับปรุงฟอร์มของเขาต้องเริ่มจากทัศนคติตัวเขาเองก่อนเลย

2.ปัญหาอาการบาดเจ็บ


เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่มีปัญหากับอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นซีซั่นไหนๆก็ตาม ฟอร์มดีๆมักจะสุดเนื่องจากปัญหานี้ตลอด ช่วงที่ โซลชา เริ่มเข้ามาคุมทัพชั่วคราวกับ แมนฯยูไนเต็ด แนวรุกชาวฝรั่งเศสรายนี้กลับมาทำผลงานโดดเด่นกว่าตอนยุค มูรินโญ่ ด้วยการยิง 3 แอสซิสต์อีก 2 ทำให้ ผีแดง รีบจับเขาต่อสัญญาออกไปจนถึงเดือนมิถุนายน ปี 2024 แต่ทว่าเขาได้รับบาดเจ็บที่ต้นขาในเกมพ่าย เปแอสเช และหายไปเดือนกว่า หลังจากนั้นตั้งแต่กลับมาในเกมพ่าย อาร์เซน่อล เมื่อต้นเดือนมีนาคม เขาก็ยิงได้แค่ประตูเดียวเท่านั้น แถมฟอร์มตกอย่างหนักหน่วงอีกด้วย

3.ปัญหาหลังห้องแต่งตัว


ข้อนี้สื่อท้องถิ่นอย่าง “แมนเชสเตอร์ อีฟนิ่ง นิวส์” ก็ได้มีการเผยว่า บรรดานักเตะ แมนฯยูไนเต็ด กำลังไม่พอใจฟอร์มการเล่นของ ปอล ป็อกบา และอ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ที่ทำได้ต่ำกว่ามาตรฐาน แถมแข้งปีศาจแดงยังรู้สึกว่าสโมสรให้ท้ายและเอาใจ ป็อกบา กับ มาร์กซิยาล มากเกินไป เราก็ไม่รู้ว่าเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นจริงหรือไม่ แต่ปัญหาเหล่านี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นในห้องแต่งตัวเพราะมันจะกระทบกับการเล่นของ มาร์กซิยาล แน่ นักเตะอาจจะพากันแบน มาร์กซิยาล ทำให้อยู่ในสโมสรยากก็เป็นได้ นักเตะหลายคนก็ค่อนข้างกังวลเพราะบรรยากาศในห้องแต่งตัวเริ่มจะไม่ดี ดังนั้นผู้จัดการทีมอย่าง โซลชา ต้องจัดการอีโก้ของนักเตะเหล่านี้ให้ได้และไม่ให้นักเตะในทีมมีอิทธิพลเหนือสโมสรเป็นอันขาด

ลากาแซตต์ เบิ้ล-โอบายิงปิด’ อาร์เซน่อลอัดแซงบาเลนเซียศึกยูโรปา

ลากาแซตต์ ตะบันสองตุง ขณะที่ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ซัดส่งท้ายช่วย “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล เปิดบ้านยิงแซงเก็บชัยเหนือ “ไอ้ค้างคาว” บาเลนเซีย 3-1 กุมความได้เปรียบเอาไว้ได้ก่อน ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 2 พ.ค. ที่ผ่านมา

“ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ผลงานในลีกไม่สู่ดีล่าสุดบุกโดน “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” เลสเตอร์ ซิตี้ ขย้ำ 0-3 เกมนี้เล่นในบ้านจึงต้องเน้นหนักหวังกู้หน้าคืนกลับมาให้แฟนบอล

ข่าวคาดว่าจะไม่มี ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ร่วมทัพแต่เมื่อเผยรายชื่อ 11 ตัวจริงออกมา ปืนใหญ่ ใส่ไม่ยั้งหวังผลิตสกอร์ วางคู่หน้า ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง กับ อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ โดยมี เมซุต โอซิล คอนป้อนสะพานปืนในตำแหน่งหน้าต่ำ

ฝั่ง “ไอ้ค้างคาว” บาเลนเซีย เห็นได้ชัดว่าเกมนี้ต้องการอย่างน้อยหนึ่งแต้มจัดทัพมาตั้งรับในระบบ 5-4-1 โดยห้อย โรดริโก้ โมเรโน่ ดาวยิงตัวเก่งไว้รอสวนกลับแต่เพียงหน่อเดียว

เริ่มเกมเพียง 54 วินาที อเล็กซองค์ ลากาแซตต์ ถูกผู้เล่นบาเลนเซียเบียดล้มลงในเขตโทษแต่ ผู้ตัดสินชาวฝรั่งเศสชี้ให้เป็นลูกตั้งเตะจากเขตประตูสร้างเสียงฮือฮาให้กับแฟนปืนโตทั่วทั้งสนาม

นาทีที่ 8 บาเลนเซีย หวิดได้ประตูขึ้นนำก่อนจากจังหวะลูกฟรีคิกระยะประมาณ 40 หลาที่เปิดไปด้านข้างให้ โรดริโก้ โมเรโน่ ก่อนตวัดจากริมเส้นฝั่งซ้าย

แต่แล้วนาทีที่ 11 ไอ้ค้างคาว ได้กระพือปีกสนั่นเมื่อออกนำไปก่อน 1-0 จะลูกเตะมุม ดานี่ ปาเรโฆ เปิดบอลเลยไปเสาไกล โรดริโก้ โมเรโน่ โหม่งย้อนกลับมาเข้าหัว มุคตาร์ เดียกาบี้ ขึ้นโขกระยะเผาขนไม่เหลือซาก

4 นาทีถัดมาทีมเยือนเกือบนำห่างอีกครั้ง ดานี่ ปาเรโฆ ได้โอกาสซัดไกลแต่ไปติดเซฟ ปีเตอร์ เช็ก ที่พุ่งปัดไว้ได้

นาทีที่ 18 อาร์เซน่อล ตามตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ให้ความเร็วกระชากหนีแผงหลังไอ้ค้างคาวหลุดเข้าไปในเขตโทษก่อนหักหลอกเข้าขวาแล้วถวายพานให้ อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ วิ่งเข้ามาแปด้ายเท้าซ้ายส่งบอลไปกองก้นตาข่ายอย่างง่ายดายเรียกได้ว่าคู่หน้ามหาประลัยจริงๆ

นาทีที่ 24 โรดริโก้ โมเรโน่ ศูนย์หน้าบาเลนเซีย ได้ซัดไกลอีกครั้งแต่คราวนี้ไปติดบล็อกแผนหลังเจ้าถิ่น

นาทีถัดมาเป็น อาร์เซน่อล แซงนำ 2-1 กรานิต ชาคา เปิดบอลโด่งโค้งทางฝั่งซ้ายไปเข้าหัว อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ ขึ้นโขกโล่งๆ ก่อนถูก เนโต้ นายด่านทีมเยือนปัดได้ในจังหวะแรกแต่ไปชนเสาก่อนเจ้าตัวจะปัดบอลออกมาอีกครั้ง และในจังหวะนี้เองผู้ช่วยผู้ตัดสินเพิ่มเติมที่ 1 ( โกลไลน์) ส่งสัญญานว่าลูกบอลผ่านเส้นประตูเข้าไปแล้ว กเลมงต์ ตูร์กแป็ง ท่านเปาเกมนี้จึงให้สัญญานเป็นประตูทันที และเมื่อกลับมาย้อนดูภาพช้าจากเทคโนโลยีโกลไลน์อีกครั้งจะเห็นได้ว่าบอลได้ผ่านเส้นประตูเข้าไปอย่างชัดเจน และนับเป็นประตูที่สองของ ลากาแซตต์ ในเกมนี้อีกด้วย

ทัพปืนโตเหมือนได้ใจ นาทีที่ 33 ได้ลุ้นอีกครั้งเมื่อ โอบาเมยอง เอี้ยวตัววอลเล่ย์ซัดเข้าที่บอลแบบไม่จับในกรอบเขตโทษบาเลนเซียทางฝั่งขวาระยะไม่ถึง 15 หลาแต่เหมือนโดนไม่ดีบอลตกกระดอนที่พื้นก่อนหลุดออกข้างเสาไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 36 บาเลนเซีย ได้ฟรีคิกระยะประมาณ 30 หลา ดานี่ ปาเรโฆ วิ่งเข้ามาตะบันเต็มข้อบอลเหินข้ามคานแบบไม่ได้ลุ้น

เจ้าถิ่นยังโหม่บุกอย่างหนักเพื่อหวังบอกสกอร์เพิ่มแต่ทำไม่ได้จบครึ่งแรก อาร์เซน่อล แซงนำ บาเลนเซีย 2-1

เริ่มทำการแข่งขันในครึ่งเวลาหลัง นาทีที่ 50 การ์ลอส โซเลร์ ของบาเลนเซียได้หวดเต็มข้อบอลไปโดนฝั่งเดียวกันเองทำท่าจะเปลี่ยนทางแต่หลุดออกด้าข้างไปอย่างน่าเสียดาย

เลยมาถึงนาทีที่ 57 เจ้าถิ่นต่อบอลขึ้นไปถึง ลากาแซตต์ ทางริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนส่งต่อให้ มัตเตโอ เกนดูซี่ ปั่นโค้งหน้ากรอบเขตโทษบาเลนเซีย แต่ไปติดบล็อกผู้เล่นทีมเยือนออกไป

นาทีที่ 63 อาร์เซน่อล ได้ลุ้นอีกครั้ง โอบาเมยอง สับหลอกทางริมเส้นฝั่งซ้ายแล้วเปิดบอลโด่งเลยไปถึง ลากาแซตต์ ที่ยืนโหม่งโล่งๆ แต่เจ้าตัวดันวืดกลายเป็นโขกลมแทนลูกบอล ถึงนาทีนี้ อาร์เซน่อล ครองเกมได้มากกว่าถึง 69 ต่อ 31 เปอร์เซ็นต์

ทัพปืนใหญ่พลาดโอกาสทองอีกครั้งนาทีที่ 67 เมื่อ ลากาแซตต์ หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงแบบดวลเดี่ยวกับ เนโต้ นายด่านทีมเยือนแต่กลับยิงไปติดขา และซ้ำดาบสองยังไปติดมือ เนโต้ อีกครั้ง ลากาแซตต์ ถึงกับเอามือกุมหน้าเพราะพลาดบวกสกอร์ให้ต้นสังกัดและพลาดทำแฮตทริกให้ตัวเองในเกมนี้

นาที่ที่ 73 บาเลยเซีย ได้ลุ้นตีเสมอ ดานี่ ปาเรโฆ แทงบอลให้ เควิน กาเมโร่ หลุดเดี่ยวเข้าไปซัดแต่ ปีเตอร์ เช็ก ออกมาปิดมุมไวทำให้แทบไม่เหลือมุมยิงและโดนตัว เช็ก ออกด้านข้างไป

มาถึงนาทีที่ 82 ทีมเยือนโหมบุกขึ้นมาอีกครั้งและจบที่ เควิน กาเมโร่ ซัดไม่ถึง 10 หลาข้ามคานอย่างน่าเสียดาย

ทัพปืนโตมาได้ประตูตอกฝากโลงนาทีที่ 90 ลากาแซตต์ ซัดไปติดเซฟ เนโต้บอลกระดอนมาเข้าทาง ลากาแซตต์ อีกครั้งก่อนส่งให้ เซอัด โคลาซินัช ปั่นโค้งจากริมเส้นเลยไปถึง โอบาเมยอง ที่ตัดสินใจซัดแบบไม่จับเข้าไปโคนเสาเรียกได้ว่ามุมแทบจะไม่มีให้ยิง ส่ง อาร์เซน่อล นำห่าง 3-1

เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มจบเกม อาร์เซน่อล เปิดบ้านรัวแซง บาเลนเซีย 3-1 เก็บชัยไปได้ก่อนแต่ยังต้องกลับไปลุ้นต่อนัดสองที่รังไอ้ค้างคาวอีกนัด

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อาร์เซน่อล (3-4-1-2) : ปีเตอร์ เช็ก – โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ (นาโช่ มอนเรอัล น.82), ชโคดราน มุสตาฟี่ – เอนส์ลี่ย์ เมทแลนด์-ไนล์ส, มัตเตโอ เกนดูซี่ (ลูกัส ตอร์เรยร่า น.58), กรานิต ชาคา, เซอัด โคลาซินัช – เมซุต โอซิล (เฮนริค มคิทาร์ยาน น.75) – ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง, อเล็กซองด์ ลากาแซตต์

บาเลนเซีย (5-4-1) : หลุยส์ เนโต้ – โฆเซ่ หลุยส์ กาย่า, กาเบรียล เปาลิสต้า, เอเซเกล การาย, มุคตาร์ เดียกาบี้, ฟาคุนโด้ รอนคาย่า – กอนคาโล่ กูเอเดส (เควิน กาเมโร่ น.71), ดานี่ ปาเรโฆ, การ์ลอส โซเลร์ (ดาเนียล วาสส์ น.71), คริสเตียโน่ ปิคซินี่ – โรดริโก้ โมเรโน่ (ซานติ มิน่า น.88)