เดิร์ก ดัลลัส นักแตะฟุตบอลเป็นได้แค่สัญญาจ้างกับลูกจ้าง

“แกต้องตัดสินใจเเล้วว่าแกจะออกไปเจอกับคนที่เก่งที่สุดในโลกหรือจะแค่เป็นฮีโร่แค่ในเยอรมัน ถ้าแกเลือกอย่างหลังเราจะหยุดซ้อมพิเศษกันตั้งแต่ตอนนี้ แต่ถ้าเเกอยากจะลองกับโลกกว้าง เราจะฝึกหนักกันในทุกวันๆ” นี่คือสิ่งที่ โฮลเกอร์ เกสช์วินด์เนอร์ นักบาสเก็ตบอลทีมชาติเยอรมัน และโค้ชของ โนวิตซกี้ ซึ่งตอนนั้นอยู่ในวัย 16 ปีกล่าวกับเขา ก่อนที่จะส่งผู้เล่นที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในประเทศออกไปเจอกับลีกที่ดีที่สุดในโลกอย่าง NBA ในอีก 4 ปีต่อมา

วันที่ 24 มิถุนายนปี 1998 ณ เจเนรัล มอเตอร์ เพลซ เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศเเคนาดา มีงานสำคัญสำหรับวงการบาสเก็ตบอล นั่นคือวันแห่งการดราฟต์ (ดราฟต์ เดย์) ที่เหล่าดาวเด่นจากทีมมัธยมศึกษา, มหาวิทยาลัย ทั่วฟ้าแดนมะกันจะมารวมตัวกัน ให้เหล่าทีมดังต่างๆใน NBA เลือกจั่วไพ่ขึ้นมาเป็นชื่อของพวกเขา เพื่อได้ไปร่วมทีมในสังเวียนที่เชี่ยวกราดที่สุดในโลกของวงการยัดห่วง

ในปีนั้น เดิร์ก โนวิตซกี้ เด็กหนุ่มวัย 20 ปี ชาวด๊อยท์ช เป็นเพียง 1 เดียวที่ไม่ได้มาจากโรงเรียน และมหาวิทยาลัยในอเมริกา เขามาจาก DJK เวิร์ซบวร์ก ทีมในระดับ 2 ของลีกบาสเก็ตบอลของ เยอรมัน และได้เข้าร่วมวินาทีแห่งประวัติศาสตร์นี้

ณ ตอนนั้น โนวิตซกี้ คือดราฟต์ลำดับที่ 9 ในจำนวนรุกกี้ทั้งหมด เขาถูก มิลวอกี้ บัคส์ เลือกนำมาสู่ทีม ทว่าการถูกเลือกของของเขาเกิดขึ้นเพราะทางฝั่ง บัคส์ ตั้งใจให้เป็น Sign and Trade (การดราฟต์ตามลำดับไปก่อนและค่อยไปเทรดกับผู้เล่นของทีมอื่น) ความหมายโดยนัยคือ … บัคส์ เองไม่ได้กะใช้งานแต่เเรกอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องการดึงเอา โนวิตซกี้ เข้ามาไว้ก่อน เพื่อจะใช้เป็นของแถมเทรดไปให้ ดัลลัส แมฟเวอริคส์ พร้อมๆ กับ พอล การ์ริตี้ ขณะที่ บัคส์ นั้นยิ้มหน้าชื่นตาบานเพราะพวกเขาได้ผู้เล่นที่เป็นดราฟต์ลำดับ 6 ของลีกอย่าง โรเบิร์ต เทย์เลอร์ ที่เป็นดาวเด่นจาก มิชิเเกน ที่ แมฟส์ ส่งมาให้ใช้แทนที่

ณ เวลานั้นทุกคนต่างพากันสงสัยว่า แมฟส์ เอา โนวิตซกี้ มาทำไม?

เอามาทำไม?

คำถามนี้ ดอน เนลสัน โค้ชของ แมฟส์ ให้เหตุผลที่เขายอมเสียดราฟต์อันดับ 6 อย่าง เทย์เลอร์ เพื่อเอา ดราฟต์อันดับ 9 ของ โนวิตซกี้ มาแทนก็ด้วยเหตุผลที่ว่า บัคส์ เป็นฝั่งจิ้มเอา โนวิตซกี้ ไปก่อนต่างหาก นั่นหมายความว่า โนวิตซกี้ คือ แผนที่ แมฟส์ วางไว้และเป็น 1 ในตัวเลือกในใจของ ดอน เนลสัน ตั้งแต่แรกเเล้ว เขายืนยันว่า โนวิตซกี้ คือสิ่งที่สามารถเรียกได้เต็มปากว่าเป็นบิ๊กดีล แต่แน่นอนวาเมื่อเจ้าหนุ่มจากเยอรมันยังไม่ได้พิสูจน์อะไรมันก็จึงเป็นเรื่องที่ใครต่อใครยากจะเชื่อ

โนวิตซกี้ ต้องพบกับสถานะที่เป็นเหมือนตัวแถมในเวลานั้น มันเป็นช่วงเวลาที่เขาต้องเข้าใจว่าเเต้มต่อของเขายังเป็นรองผู้เล่นหลายๆคนในการดราฟต์รุ่นเดียวกันกว่าที่ โนวิตซกี้ จะถูกเรียกว่าผู้เล่นของ ดัลลัส แมฟเวริคส์ ได้เต็มปากเขาต้องแสดงศักยภาพของตัวเองออกมาในเกมที่เรียกว่า พิคอัพ เกมส์ ซึ่งเป็นเหมือนเกมโชว์ฝีมือที่มีอยู่ให้ทีมงานที่คอยจับตาดูอยู่ได้เห็น

ก่อน พิคอัพ เกมส์ ของ แมฟส์ ก่อนฤดูกาล 1998-99 จะเริ่ม มีอดีตนักบาส NBA หลายคนมาอยู่ในสนาม เบย์เลอร์ เฮลต์ เซนเตอร์ เพื่อมาดูฟอร์มหน้าใหม่ โดยเฉพาะรุกกี้อย่าง โนวิตซกี้ ที่สูง 7 ฟุต แต่ตัวกลับผมกระหร่องจนไม่น่าจะทนแรงปะทะไหว

“ไอ้หมอนี่สูงเท่าไหร่” ชายคนแรกโพล่งถาม

“7 ฟุตเลยล่ะ” คำตอบจากชายคนที่สอง

“ไม่หรอกมั้ง? ดูแล้วไม่น่าถึง 7 ฟุตหรอก ทรงบอลไอ้หมอนี่ไม่ไหวเลย แถมยังดูขี้เกียจอีกต่างหาก ผมว่าเขาไม่น่าถึง 7 ฟุตนะ” ชายคนแรกเห็นแววไม่น่ารุ่งจึงตอบกลับไปเช่นนั้น

ระหว่างที่ทั้งสองคุยกัน มีเสียงแทรกมาจากชายคนที่ 3 ที่เห็นต่างออกไป “จะ 7 ฟุตหรือเปล่าไม่รู้ แต่เขาจะเป็นผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ได้แน่”

การถกเถียงจบลงด้วยความคิดเห็นของชายคนที่ 4 ซึ่ง “คุณจะบอกว่าเขาจะกลายเป็นผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ทั้งๆที่เขาเล่นแค่ พิคอัพ เกม ไม่ได้หรอก มันไม่เหมือนกับเกมจริง เราจะรู้ก็ต่อเมื่อได้ยินเสียงหอบของเขาหลังจากโดน สก็อตตี้ พิพเพ่น เผาเครื่องเป็นเวลา 40 นาที หรือการโดน ชาร์ลส์ โอ๊คลี่ย์ ไล่ถลุงนู่นแหละ”

แม้จะดูเป็นคำพูดที่โหดร้ายแทงใจ แต่เรื่องจริงก็เป็นเช่นนั้น โนวิตซกี้ มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการปรับสไตล์ของตัวเองให้ทันศึก NBA ที่มีความแตกต่างกว่าลีกเยอรมันที่เขาจากมาเยอะ ทั้งการเจอกับคู่แข่งที่ร่างกายที่แข็งแกร่งมากกว่า และสิ่งแปลกใหม่ที่ไม่เคยเจอ

ขอบคุณแหล่งที่มา https://www.sanook.com

หนุ่มโพสต์ตามหาเมีย หนีตามผู้ชาย 14 วัน พูดไม่ออกลูกสาวร้องไห้หาแม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความระบุว่า “ดูหน้ามันไว้ครับบุคคลอันตราย มันพาเมียผมหนี มันไม่เคยเห็นแก่ความเป็นมนุษย์ด้วยกัน มันทำลายครอบครัวผม มันทำให้ลูกผมไม่มีแม่ ลูกผมถามผมว่าแม่ไปไหน ร้องไห้ ผมได้แต่กอดลูกร้องไห้ ผมทำอะไรไม่ถูก มือไม้มันสั่นไปหมด ผมมีลูกสาวที่น่ารักทำไมมันทำอะไรไม่เคยสงสารเด็กตาดำๆ เลย ผมทำอะไรผิด ผมทำแต่งาน ไม่เคยห่วงตัวเองนอกจากครอบครัวผมไม่เคยแต่งตัว ผมคิดอยู่อย่างเดียวปากท้องลูกเมียผมต้องอิ่ม สุดท้ายคนที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขก็ทิ้งผมไปอยู่กับคนอื่น บ้านก็กำลังสร้างด้วยกัน เงินส่วนตัว ทองอีก เอ็งก็เอาไปหมด ทำไรไม่เคยคิดถึงลูกเลย ถ้าใครเจอแจ้งเบาะแสทีครับ ผมไปหอผู้ชาย เจ้าของหอบอกมันไม่ได้เข้าไปที่ห้อง”

ล่าสุดเวลา 09.30 น. (24 พ.ค. 62) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้าน หมู่ที่ 13 ต.ดงคอน อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท พบกับนางพันธิรา อายุ 51 ปี แม่ของ นางสาวโชติกา อายุ 23 ปี ลูกสาวที่หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค. 2562 นั่งกอด น้องแตงกวา หลานสาวอายุ 7 ขวบ ที่ลูกสาวทิ้งไว้ให้เลี้ยงด้วยความโศกเศร้า น้ำตาไหลตลอดเวลา ร้องรำพึงหวังให้ลูกกลับมา เบื้องต้นได้ทำการแจ้งความที่ สภ.สรรคบุรี แล้ว ตอนนี้รอเพียงตัวของลูกสาวกลับมา

นางพันธิรา เปิดเผยว่า ลูกสาวจะไปทำงานโรงงานที่ จ.ลพบุรี แบบเช้าไปเย็นกลับกับรถรับส่งของบริษัท แต่เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมาหลังออกไปทำงานตามปกติก็หายตัวไปไม่สามารถติดต่อเมื่อครอบครัวไปตามหาที่โรงงานก็ไม่พบเพื่อนร่วมงานบอกว่าลูกสาวไม่ได้ไปทำงานจึงเป็นห่วงมากยิ่งขึ้น เพราะได้ข่าวมาว่า ลูกสาวมีผู้ชายทำงานที่เดียวกันมาติดพันชอบพอกันแล้วชวนกันหนีไป

ตนอยากให้ลูกกลับมา เพราะเป็นห่วง ไม่รู้จะเป็นตายร้ายดีอย่างไร ถ้ายังมีลมหายใจอยู่ก็ติดต่อกลับมาบ้าง แต่อยากให้มาที่บ้านมากกว่า จะเอาอย่างไรก็เอา กลับมาคุยกันก่อน อย่าหนีหายไปแบบนี้ หลานก็ร้องหาแม่ทุกวัน บอกคิดถึง ก็ไม่รู้จะตอบอย่างไรไปโรงเรียนก็ไม่สดใสร่าเริง ซึมเศร้า ไม่เล่นกับเพื่อน หยุดเรียนมาหลายวันแล้ว ส่วนตัวเองโรคก็รุมเร้าทั้งความดัน เบาหวาน เครียดจนเป็นไมเกรน เฝ้ารอวันที่ลูกจะกลับมาหาแม่สักที

นายชาญณรงค์ อายุ 29 ปี สามีของนางสาวโชติกา เปิดเผยว่า เพื่อนที่ทำงานของภรรยา ให้เบาะแสว่าล่าสุดออกไปกับผู้ชายคนในภาพ ชื่อ นายแสงอรุณ ที่ทำงานอยู่ด้วยกัน ตนก็รีบไปหาที่หอพักของผู้ชาย ยามไม่ให้เข้าไปเพราะความเป็นส่วนตัว ตนก็รอจนถึงตี 2 ของวันที่ 12 พ.ค. ก็ไม่เจอ แค้นก็แค้นมือไม้สั่นไปหมด แต่คำว่าลูกค้ำคออยู่ ตนไม่รู้มาก่อนเลยว่าเขาคุยกันเพราะมัวแต่ทำงานจะสร้างบ้านอยู่ด้วยกัน มารู้อีกทีก็จากปากคนอื่น ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีปากเสียง ไม่ได้ทะเลาะกัน ตอนนี้อยากให้กลับบ้านกลับมาหาลูกหาครอบครัว ตนพร้อมที่จะให้อภัยเสมอ ขอแค่กลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมก็พอ

ขอบคุณแหล่งที่มา https://www.sanook.com/

เดอ บัวร์ คิดดีแล้วออกจากทีมบาร์ซ่า

โรนัลด์ เดอ บัวร์ อดีตตัวรุกระดับโลกชาวฮอลแลนด์ ออกมาเผยว่า เคยเกือบเซ็นสัญญากับ​ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2000 แล้ว แต่สุดท้ายเลือกย้ายจาก บาร์เซโลน่า ไปอยู่ กลาสโกว เรนเจอร์ส ในลีกสก็อตแลนด์ซะอย่างนั้น

“ตอนที่ผมตัดสินใจย้ายออกจากบาร์เซโลน่า เมื่อปี 2000 ผมเกือบจะเซ็นสัญญากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่แล้วนะ ซึ่งคนรอบข้างก็สังสัยกันใหญ่ว่าทำไมเลือกไป เรนเจอร์ส แทน” เดอ บัวร์ผู้น้องกล่าว

“คือตอนเจรจากับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เขาบอกว่าในแผงมิดฟิลด์ มีคนได้รับการการันตีตัวจริงแค่ รอย คีน กับ เดวิด เบ็คแฮม เท่านั้น ทำให้แข้งอื่นๆ รวมถึง พอล สโคลส์ จำเป็นต้องตกอยู่ในสถานะหมุนเวียนกันเล่น”

“ปีนั้นเป็นช่วงที่หัวเข่าผมมีปัญหาจากการบาดเจ็บรุนแรงพอดี ผมเลยรู้สึกว่าหากสภาพความฟิตไม่เต็มร้อย มีหวังโดนดองยาวอยู่ที่นั่นแน่ และด้วยความที่อยากลงสนามต่อเนื่องมากกว่าอยู่กับทีมใหญ่จึงเลือกไป เรนเจอร์ส

ขอบคุณแหล่งที่มา https://www.sanook.com

เป๊ป ชูแข้งอันตรายเลสเตอร์ที่แมนซิตี้ต้องระวัง

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ แมนฯ ซิตี้ เตือนลูกทีมต้องระวังดาวเตะ เลสเตอร์ ให้ดี เพราะกำลังฟอร์มฮอตยิงเป็นว่าเล่น พร้อมชม เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เข้ามาทำให้ “สุนัขจิ้งจอก” ทำผลงานเยี่ยม
โจเซป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอมรับว่า เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้า เลสเตอร์ ซิตี้ เป็นนักเตะอันตราย และแข้ง “เรือใบสีฟ้า” ต้องระวังให้ดี ก่อนที่ทั้งสองทีมจะเจอกันในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคมนี้

แมนฯ ซิตี้ ต้องการเก็บ 3 คะแนนเพื่อแซง ลิเวอร์พูล กลับขึ้นไปเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม วาร์ดี้ เป็นนักเตะที่มีสถิติยอดเยี่ยมในการยิงทีมใหญ่ และกำลังอยู่ในฟอร์มที่ร้อนแรง หลังทำไป 11 ประตูใน 11 เกมหลังสุด รวมทั้งเพิ่งกดไป 2 ลูก ในเกมเปิดรัง คิง เพาเวอร์ ไล่ถล่ม อาร์เซน่อล 3-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา

กวาร์ดิโอล่า เผยว่า “ผมคิดว่า เส้นทางค้าแข้งของเขา (วาร์ดี้) พิสูจน์ในตัวมันเองอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่ช่วงไม่กี่เกมที่ผ่านมา แต่ก็ต้องยอมรับว่า เขายิงประตูมาอย่างต่อเนื่อง เขาทำได้เยี่ยมในลีกแห่งนี้ เขาเป็นกองหน้าที่ยอดเยี่ยมอย่างไม่น่าเชื่อด้วยการเคลื่อนที่, จบสกอร์ และเป็นนักสู้”

“ผมเคยคิดก่อนหน้านี้ว่า พวกเขาเป็นทีมที่เล่นอาศัยการโต้กลับ แต่ตอนนี้จากการที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เข้ามาคุมทีม ทำให้พวกเขาเล่นในอีกแนวทาง และพวกเขาก็สามารถใช้มัน และควบคุมเกมเอาไว้ได้” กุนซือชาวสแปนิช ทิ้งท้าย

แก้ไขด่วน! เจาะลึก 3 ข้อทำไม มาร์กซิยาล ฟอร์มตกหนักหน่วง

มาร์กซิยาล กำลังเผชิญปัญหาฟอร์มตกอย่างหนักหน่วง ทั้งที่ช่วงแรกที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เข้ามาคุมทัพเขากลับโชว์ฟอร์มได้ดีเยี่ยมจนได้รับการต่อสัญญาออกไปถึง 4 ปีด้วยกัน แต่หลังจากนั้นฟอร์มกลับออกทะเลอย่างน่าใจหาย แผนของโซลชาไม่สามารถเค้นฟอร์ม มาร์กซิยาล? หรือจะเป็นปัญหาในห้องแต่งตัวที่ทำให้เขาเล่นไม่ออก? เรามาวิเคราะห์เจาะลึกกัน

1.ปัญหาทัศนคติ

เป็นสิ่งที่เป็นประเด็นให้คนพูดถึงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามากมาย ทัศนคติในสนามของเขาแฟนผีแดงและโซลชา ดุจะไม่ปลื้มเอามากๆ ในเกมกับ เชลซี เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีแฟนบอลในสนามถ่ายคลิปที่ มาร์กซิยาล ยืนอยู่นิ่งๆในช่วงพักครึ่งที่นักเตะสำรองลงไปวอร์มในสนาม ทั้งที่เพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆกำลังอบอุ่นร่างกายอย่างเต็มที่ จนทำให้แฟนบอลของ แมนฯ ยูไนเต็ด ตำหนิเขาอย่างหนักบนสังคมออนไลน์

นอกจากนี้ยังมีข่าวว่า โซลชา ไม่พอใจทัศนะคติของดาวเตะเลือดน้ำหอมที่ไม่พยายามเพื่อทีมมากเท่าที่ควรในหลายจังหวะ ดูจากสถิติแล้วเจ้าตัวมีระยะทางวิ่งในสนามเฉลี่ยแค่ 8.45 กิโลเมตรต่อเกมเท่านั้นซึ่งถือว่าน้อยที่สุดในตำแหน่งบรรดากองหน้าพรีเมียร์ลีก แถมถ้านับเฉพาะแข้งผีแดงก็มีแค่ เอริก ไบยี่ ที่เป็นนักเตะเอ้าท์ฟิลด์เพียงคนเดียวที่มีค่าเฉลี่ยน้อยกว่า มาร์กซิยาล ด้วย ดังนั้นถ้าจะปรับปรุงฟอร์มของเขาต้องเริ่มจากทัศนคติตัวเขาเองก่อนเลย

2.ปัญหาอาการบาดเจ็บ


เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่มีปัญหากับอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นซีซั่นไหนๆก็ตาม ฟอร์มดีๆมักจะสุดเนื่องจากปัญหานี้ตลอด ช่วงที่ โซลชา เริ่มเข้ามาคุมทัพชั่วคราวกับ แมนฯยูไนเต็ด แนวรุกชาวฝรั่งเศสรายนี้กลับมาทำผลงานโดดเด่นกว่าตอนยุค มูรินโญ่ ด้วยการยิง 3 แอสซิสต์อีก 2 ทำให้ ผีแดง รีบจับเขาต่อสัญญาออกไปจนถึงเดือนมิถุนายน ปี 2024 แต่ทว่าเขาได้รับบาดเจ็บที่ต้นขาในเกมพ่าย เปแอสเช และหายไปเดือนกว่า หลังจากนั้นตั้งแต่กลับมาในเกมพ่าย อาร์เซน่อล เมื่อต้นเดือนมีนาคม เขาก็ยิงได้แค่ประตูเดียวเท่านั้น แถมฟอร์มตกอย่างหนักหน่วงอีกด้วย

3.ปัญหาหลังห้องแต่งตัว


ข้อนี้สื่อท้องถิ่นอย่าง “แมนเชสเตอร์ อีฟนิ่ง นิวส์” ก็ได้มีการเผยว่า บรรดานักเตะ แมนฯยูไนเต็ด กำลังไม่พอใจฟอร์มการเล่นของ ปอล ป็อกบา และอ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ที่ทำได้ต่ำกว่ามาตรฐาน แถมแข้งปีศาจแดงยังรู้สึกว่าสโมสรให้ท้ายและเอาใจ ป็อกบา กับ มาร์กซิยาล มากเกินไป เราก็ไม่รู้ว่าเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นจริงหรือไม่ แต่ปัญหาเหล่านี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นในห้องแต่งตัวเพราะมันจะกระทบกับการเล่นของ มาร์กซิยาล แน่ นักเตะอาจจะพากันแบน มาร์กซิยาล ทำให้อยู่ในสโมสรยากก็เป็นได้ นักเตะหลายคนก็ค่อนข้างกังวลเพราะบรรยากาศในห้องแต่งตัวเริ่มจะไม่ดี ดังนั้นผู้จัดการทีมอย่าง โซลชา ต้องจัดการอีโก้ของนักเตะเหล่านี้ให้ได้และไม่ให้นักเตะในทีมมีอิทธิพลเหนือสโมสรเป็นอันขาด

ทัศนคติแย่! รอยคีน ไม่ปลื้มชี้ป็อกบาคือปัญหาใหญ่ของแมนยู

รอยคีน อดีตยอดมิดฟิลด์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ออกโรงเฉ่ง ปอล ป็อกบา กองกลางคนดังของ “ปีศาจแดง” อย่างหนัก โดยบอกว่า ป็อกบา มีทัศนคติที่ย่ำแย่สุดๆ แถมยังไม่ช่วยทีมเล่นเกมรับด้วย
รอย คีน ตำนานกองกลางของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตำหนิ ปอล ป็อกบา มิดฟิลด์รุ่นน้องในทัพ “ปีศาจแดง” แบบรุนแรง หลังจากที่ล่าสุดอดีตทีมของเขาแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-2 คารัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันพุธที่ 24 เมษายน ที่ผ่านมา

ป็อกบา ถูกยกให้เป็นศูนย์กลางของ แมนฯ ยูไนเต็ด ชุดนี้ หลังจากที่เขาเคยประสบความสำเร็จทั้งกับทีมชาติฝรั่งเศสและ ยูเวนตุส มาแล้ว รวมถึงมีฝีเท้าโดยรวมที่ดี อย่างไรก็ตาม ดาวเตะเลือดน้ำหอมมักจะถูกตั้งคำถามเรื่องทัศนคติมาโดยตลอด และเกมเมื่อวันพุธที่ผ่านมาเขาก็ไม่สามารถช่วยให้ทีมรอดจากความพ่ายแพ้ไปได้

คีน กล่าวระหว่างออกรายการของ สกายสปอร์ตส์ สื่อกีฬาชั้นนำของเมืองผู้ดีว่า “ผมคงไม่เชื่อคำพูดของเขาแม้แต่คำเดียวหรอก คำพูดของเขามันไม่มีความหมายอะไรเลย ผมคิดว่าเขาเองก็ไม่เชื่อสิ่งที่ตัวเองพูดด้วยซ้ำ เขาพูดถึงเรื่องการเป็นเพื่อนร่วมทีมที่ดี แต่ถ้าคุณจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ คุณก็ต้องวิ่งกลับไปช่วยเพื่อนเล่นเกมรับด้วย”

“หลังจบเกมกับ เอฟเวอร์ตัน (แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ 0-4) ไปแล้วบรรยากาศมันก็ดุเดือดขึ้นนิดหน่อย ผมได้ยินมาว่าพวกเขาขว้างเจลทำผมใส่กัน มันช่างดุเดือดซะเหลือเกิน โอเค เขาเป็นเด็กหนุ่มที่มีพรสวรรค์สูง แต่เราก็พูดเรื่องเดิมกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า เราเห็นกันมาหลายต่อหลายนัดแล้วที่เขาไม่ยอมวิ่งช่วยทีม หรือวิ่งกลับไปช่วยเล่นเกมรับ เขาพร่ำพูดเรื่องท่าทางต่างๆ แต่เขาเองนั่นแหละที่ชูมือยอมแพ้ เขาคือปัญหาใหญ่ของ ยูไนเต็ด”

“ก่อนหน้านี้ แกรม (ซูเนสส์) พูดเรื่องที่สโมสรฟุตบอลต้องมีรุ่นพี่ดีๆ อยู่ในทีม ตอนนี้เขาถือเป็นนักเตะรุ่นพี่แล้ว เขาเล่นรายการใหญ่ๆ มาหลายรายการ และได้แชมป์รายการใหญ่ๆ มามากมาย แต่จากที่ผมเห็นในตอนนี้น่ะ ผมไม่คิดว่าเขาจะเป็นแบบอย่างที่ดีได้หรอก ผมไม่รู้หรอกนะว่าตอนซ้อม หรือตอนที่ทีมเดินทางกันเขาเป็นคนยังไง แต่จากที่ผมเห็น (ในสนาม) น่ะเขาแย่มาก เขาพูดถึงเรื่องท่าทางและศักดิ์ศรี แต่ผมไม่เห็นเรื่องแบบนั้นในฟอร์มของเขาเลย สายตาของผมมันไม่โกหกผมหรอก”

ใครบ้าง? โรนัลโด้ จี้บอร์ดยูเวนตุสซิว6แข้ง

โรนัลโด้ แข้งซูเปอร์สตาร์ของ ยูเวนตุส กระตุ้นให้บอร์ดบริหารดึงแข้งมาร่วมทีม 6 รายในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยในกลุ่มนั้นมีชื่อของ อีสโก้ กับ ราฟาแอล วาราน อดีตเพื่อนร่วมทีมของ โรนัลโด้ ที่ เรอัล มาดริด รวมอยู่ด้วย
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวยิงคนดังของ ยูเวนตุส สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เรียกร้องให้บอร์ดบริหารของทีมดึงนักเตะมาเสริมทัพถึง 6 รายในช่วงซัมเมอร์นี้ ตามรายงานของ คอร์ริเอเร่ เดลโล่ สปอร์ต สื่อกีฬาชื่อดังของแดนมะกะโรนี

ยูเวนตุส ยอมทุ่มเงินในเบื้องต้นสูงถึง 100 ล้านยูโร (ประมาณ 3,600 ล้านบาท) เพื่อดึง โรนัลโด้ มาจาก เรอัล มาดริด เมื่อช่วงซัมเมอร์ ปีก่อน ด้วยความหวังว่าเขาจะช่วยทำให้ทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปครองได้ แต่สุดท้ายดาวเตะชาวโปรตุกีสก็ไม่สามารถพาทีมไปถึงฝั่งฝันได้ จากการที่ “เบียงโคเนรี่” ต้องตกรอบก่อนรองชนะเลิศด้วยฝีมือของ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม

ความล้มเหลวดังกล่าวทำให้ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่า โรนัลโด้ ขู่ว่าถ้าทีมไม่ทำการเสริมทัพให้ดีพอในช่วงซัมเมอร์นี้แล้วล่ะก็ เขาก็อาจจะตัดสินใจบอกลาทีมหลังจบฤดูกาลหน้า ซึ่งถือว่าเร็วกว่าสัญญาที่ทั้งสองฝ่ายทำกันเอาไว้ 2 ปี เพราะเขาต้องการที่จะได้สัมผัสกับถ้วย “บิ๊กเอียร์” อีกครั้ง

กระทั่งล่าสุด คอร์ริเอเร่ เดลโล่ สปอร์ต ก็แฉว่า โรนัลโด้ จริงจังกับการที่อยากให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นมากๆ จนบอกกับบอร์ดบริหารว่าอยากได้ใครมาเป็นเพื่อนร่วมทีมบ้าง โดยประกอบไปด้วย ชูเอา เฟลิกซ์ ปีกดาวรุ่งของ เบนฟิก้า, อีสโก้ กับ ราฟาแอล วาราน 2 ดาวเตะจาก เรอัล มาดริด, เฟเดริโก้ เคียซ่า ปีกดาวโรจน์ของ ฟิออเรนติน่า, คอสตาส มาโนลาส กองหลัง อาแอส โรม่า และ ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล่ กองกลาง โอลิมปิก ลียง โดยสื่อเจ้าเดิมเสริมว่าดาวเตะเลือดฝอยทองได้คุยเรื่องของทั้ง 6 คนกับ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี เทรนเนอร์ของทีมไปแล้วด้วย

อยู่ยาก!แฟนบาร์เซโลน่าไม่พอใจโห่ใส่ คูตินโญ่ หนัก

คูตินโญ่ มิดฟิลด์ บาร์เซโลน่า โดนกองเชียร์กลุ่มหนึ่งของทีมตัวเองโห่ใส่ในเกมที่ต้นสังกัดเฉือน เรอัล โซเซียดาด หลังจากที่สาวก “อาซูลกราน่า” บางส่วนไม่พอใจในตัวเขามานานแล้ว และความบาดหมางก็รุนแรงขึ้นหลังจากที่ คูตินโญ่ ฉลองประตูในเกมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยการเอานิ้วอุดหูตัวเอง
แฟนบอลกลุ่มหนึ่งของ บาร์เซโลน่า โห่ใส่ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ กองกลางชาวบราซิเลียนของทีม ระหว่างเกม ลา ลีกา สเปน นัดที่ทีมรักของพวกเขาเปิดรัง คัมป์ นู เอาชนะ เรอัล โซเซียดาด 2-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 20 เมษายน ที่ผ่านมา

คูตินโญ่ เป็นที่เกลียดชังของสาวก บาร์เซโลน่า บางคนมาพักหนึ่งแล้ว หลังจากที่เขาทำผลงานได้น่าผิดหวังในฤดูกาลนี้ โดยก่อนหน้านี้อดีตแข้ง ลิเวอร์พูล ก็เคยโดนสาวกของทีมโห่ใส่บางนัด จนทำให้เกิดข่าวลือว่าเจ้าตัวอาจเลือกบอกลาทีมในช่วงซัมเมอร์นี้

ทั้งนี้ ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดสอง ที่ทีมของกุนซือ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ เปิดบ้านไล่ต้อน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-0 เมื่อวันอังคารที่ 16 เมษายน ที่ผ่านมานั้น คูตินโญ่ ทำประตูได้ด้วย และเขาก็ฉลองด้วยการเอานิ้วอุดหูทั้งสองข้าง โดยถึงแม้จะไม่เป็นที่ชัดเจนว่าเขาต้องการสื่อถึงใคร แต่หลายคนเชื่อกันว่าดาวเตะเลือดแซมบ้าต้องการสื่อถึงบรรดาคนที่วิจารณ์เขา และนั่นรวมถึงแฟนบอล บาร์เซโลน่า ที่ตำหนิเขาด้วย

การกระทำดังกล่าวส่งผลให้สาวก บาร์เซโลน่า กลุ่มหนึ่งไม่พอใจในตัวเขามากขึ้นไปอีก จนถึงขั้นโห่ใส่เจ้าตัวในตอนที่ คูตินโญ่ โดนเปลี่ยนตัวลงสนามในเกมกับ โซเซียดาด เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และทุกครั้งที่เขาได้จับบอล เหล่ากองเชียร์ บาร์เซโลน่า ก็ยังตามโห่เขาไม่เลิกเหมือนกัน

ตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก เรือใบสีฟ้า ไม่พลาดทวงฝูงคืน ล้างแค้นไก่ก่อนเยือนผี เช็ก4นัดลุ้นแชมป์ “เรือ-หงส์”

เรือใบสีฟ้า หลังดับแค้นบดเอาชนะ สเปอร์ส ไปแบบหวุดหวิด
นี่เป็น 3 ใน 4 เกมล่าสุดของลูกทีม “เป๊ป” ที่ต้องดวลแข้งกับ “ไก่เดือยทอง” หลังล่าสุดผลลัพธ์มันช่างแสนเจ็บปวดเมื่อ2เกมที่ผ่านมาในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นั้นต้องตกรอบด้วยน้ำมือของ สเปอร์ส แม้เกมที่สองพวกเขาจะเบียดเอาชนะแต่ต้องร่วงด้วยกฎประตูทีมเยือน ชวดโอกาสผ่านเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศ

ทำให้ แมนฯซิตี้ เหลือลุ้นคว้า 3 แชมป์ในปีนี้เท่านั้น ซึ่งโอกาสเป็นไปได้เช่นกัน ได้แชมป์ลีก คัพไปแล้วหนึ่ง เข้าชิงเอฟเอ คัพ กับวัตฟอร์ดหลังปิดลีก และตอนนี้ต้องพุ่งสมาธิมาเน้นกับการป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกให้ได้เท่านั้น

เกมนัดที่ 34 กลับมาที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม อีกหนพบกับคู่ปรับ สเปอร์ส อีกครั้ง….เกมนี้ทั้งสองทีมต่างโรเตชั่นแข้งนักเตะกันบ้าง แต่ไม่ทำให้ดีกรีความมันลดน้อยลงเท่าไหร่ สุดท้าย “เรือใบ” ล้างแค้นสำเร็จ

แม้จะหวุดหวิดแค่ 1-0 จากลูกโขกของไอ้หนู ฟิล โฟลเด้น แต่นั้นก็ทำให้ทีมสร้างสถิติซิวชัยชนะในลีกเป็นเกมที่ 10 ติดต่อกัน ทว่าทีมต้องแลกมาด้วยอาการเจ็บของ เควิน เดอ บรอยน์ ที่จะพลาดเกมไปเยือนโอลด์แทร็ฟฟอร์ดกลางสัปดาห์นี้แน่นอน

กับสามแต้มสำคัญทำให้ “ซิตี้” ทะยานแซง “หงส์แดง” ขึ้นไปรั้งจ่าฝูงอีกหน มี 86 คะแนน มากกว่า ลิเวอร์พูล ที่มี 85 คะแนน อยู่หนึ่งแต้ม พร้อมลูกได้เสียที่มากกว่า “เร้ด แมชีน” ถึง 8 ลูก

กลายเป็นแมนซิตี้ ที่กุมชะตาแชมป์ของตัวเอง เพราะถ้าคว้าชัยอีก 4 เกมที่เหลือได้ก็จะป้องกันแชมป์ลีกได้สำเร็จ โดยไม่ต้องไปดูผลของ “หงส์แดง” เลย

คราวนี้เรามาดูโปรแกรม 4 นัดสุดท้ายของทั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และลิเวอร์พูล

แมนฯซิตี้ (34 นัด 86 คะแนน)

24 เม.ย. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (เยือน)
28 เม.ย. เบิร์นลี่ย์ (เยือน)
04 พ.ค. เลสเตอร์ (เหย้า)
12 พ.ค. ไบรท์ตัน (เยือน)

ลิเวอร์พูล (34 นัด 85 คะแนน)

21 เม.ย. คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ (เยือน)
27 เม.ย. ฮัดเดอร์ฟิลด์ (เหย้า)
05 พ.ค. นิวคาสเซิ่ล (เยือน)
12 พ.ค. วูล์ฟแฮมป์ตัน (เหย้า)

ส่วนสถานการณ์ท้ายตารางหลังทั้ง ฮัดเดอร์สฟิลด์ และฟูแล่ม ร่วงตกชั้นไปสองทีมแรกแล้ว เหลืออีก 1 ทีม ต้องลุ้นกันอีกต่อไปว่าจะเป็นทีมไหนจะหล่นไปเล่นใน ลีก แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาลหน้า

บอร์นมัธ เกมล่าสุดพ่ายให้ ฟูแล่ม แบบน่าเจ็บใจคาบ้านตัวเอง ทั้งที่เกมนี้หากซิวสามแต้มได้ก็จะเพิ่มโอกาสรอดตายสูง

ทางด้าน ไบรท์ตัน ทีมอันดับ 17 ได้มาอีกหนึ่งคะแนนจากเกมบุกไปเยือน วูฟ์สฯ 0-0 ทำให้ต้องลุ้นอีก 4 แมตช์ที่เหลือเช่นกัน

เช่นเดียวกับ “นักบุญ” เซาธ์แฮมป์ตัน อันดับ16 ล่าสุดบุกไปพ่าย นิวคาสเซิ่ล ทำให้ต้องดิ้นหนีตายสุดชีวิต ยิ่งเสาร์หน้าตัดแต้มกับ ไบรท์ตัน กันเองด้วยล่ะมันส์แน่

สุดท้าย คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ทีมอันดับ 18 วันอาทิตย์นี้ต้องการสามแต้มเช่นกันเพื่อการอยู่รอด ในเกมรับมือ “หงส์แดง” ซึ่งลูกทีมคล็อปป์ก็ต้องการชัยชนะเช่นกันเพื่อการลุ้นแชมป์

ทิ้งท้ายไปดู อันดับตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พร้อมดาวซัลโวล่าสุด หลังจบเกมเมื่อวันเสาร์ที่ 20 เมษายน ที่ผ่านมา

ฟรีคิกเฉียบ! ลากาแซตต์ ยิงชัยส่ง อาร์เซน่อล บุกเชือด นาโปลี เข้ารอบรองฯยูโรปา

ลากาแซตต์ ซัดฟรีคิกประตูโทนสุดสวยช่วย “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล บุกย้ำแค้นเฉือนชัยเหนือ นาโปลี 1-0 รวมผลสองนัดผ่านเข้ารอบต่อไปสบาย ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปา ลีก (รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดสอง) เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา

นาทีที่ 9 อาร์เซน่อล ขึ้นเกมรุกมาทางฝั่งซ้าย อารอน แรมซี่ย์ โดนกระแทกล้มลงในเขตโทษแต่ผู้ตัดสินเมินเฉยโดยมองว่า แรมซี่ย์ ล้มง่ายเกินไปและแข้งนาโปลีเบียดแย้งเจตนาเล่นที่บอล

เลยมาถึงนาทีที่ 24 นาโปลี ส่งบอลเข้าไปกองก้นตาข่ายโดย อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค หลุดไปชิพบอลผ่านตัว ปีเตอร์ เช็ก แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นลูกล้ำหน้าเจ้าถิ่นพลาดประตูขึ้นนำไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 28 นาโปลี ได้ลุ้นอีกครั้ง พิโอเตอร์ ซีลินสกี้ โดยบอลไปให้ อาร์คาดิอุสซ์ มิลิ ล้มตัวโขกโล่งๆ แต่ทิศทางไม่ดีเหินข้ามคานออกไป

ผ่านมาถึงนาทีที่ 36 อาร์เซน่อลได้ประตูขึ้นนำจนได้ 1-0 จากลูกฟรีคิกกลางกรอบเขตโทษระยะประมาณ 25 หลา เป็น อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ รับหน้าที่สังหารปั่นบอลโค้งอ้อมกำแพงเสียบโคนเสาเข้าไปอย่างสวยงาม

นาทีที่ 34 อารอน แรมซี่ย์ ได้รับบาดเจ็บหนักเล่นต่อไม่ไหว อาร์เซน่อลต้องเปลี่ยน เฮนริค มคิทาร์ยาน ลงเล่นแทน

นาที่ที่ 39 ลากาแซตต์ หลุดขึ้นไปเปิดบอลทางฝั่งซ้ายเลยออกเสาไกลไปหน้าตาเฉย โดยที่ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง วิ่งเข้ามาที่จุดนัดหมายไม่ทัน

นาทีที่ 41 นาโปลี โหมบุกขึ้นมาอีกครั้ง และได้ลุ้นจากลูกโหม่งของ โฆเซ่ กาเยฆอน แต่ยังคุมน้ำหนักและทิศทางไม่ได้บอลเหินข้ามคานไปไกล

นาทีถัดมายังคงเป็นนาโปลี ลอเรนโซ่ อินซินเย่ เปิดบอลโด่งสุดเส้นฝั่งซ้ายเลยมาเข้าทาง โฆเซ่ กาเยฆอน หวดเต็มข้อแบบไม่จับแต่ทิศทางยังคงไม่ได้บอลหลุดออกข้างเสาไปอีกครั้ง

จบครึ่งแรก อาร์เซน่อล บุกมานำ นาโปลี เจ้าถิ่น 1-0 โดยสถิติการครองบอลเป็น นาโปลี ที่ดีกว่าถึง 61 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ อาร์เซน่อล ทำได้เพียง 39 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น

ครึ่งหลังนาทีที่ 47 เป็นนาโปลี ที่โหมบุกอย่างหนักได้ลุ้นบวกสกอร์ 24 กระชากไปสุดริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนส่งย้อนมาให้ 8 วิ่งเข้ามาซัดข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 58 ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง หวิดทำประตูให้ทัพปืนโตได้แต่ไม่ผ่านมือ อเล็กซ์ เมเร็ต ที่ป้องกันได้ดีกว่า

นาโปลี ยังคงเป็นฝ่ายที่ครองเกมได้มากกว่า นาทีที่ 66 อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค ได้กลับตัวยิงในเขตโทษแต่ไปติดแข้งทีมเยือนกลายเป็นลูกเตะมุม

ท้ายเกมอาร์เซน่อล ได้ลูกฟรีคิกทางฝั่งซ้ายริมเส้นกรอบประตู เฮนริค มคิทาร์ยาน ยิงข้ามคานออกไป

จบเกม อาร์เซน่อล บุกมาย้ำชัยเหนือ นาโปลี 1-0 รวมผลสองนัดทัพปืนโตผ่านเข้ารอบต่อไปสบายหายห่วงด้วยสกอร์ 3-0

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
นาโปลี (4-4-2) : อเล็กซ์ เมเร็ต – ฟาอูซี่ กูล็อม (มาริโอ รุย น.71), วลาด ชิริเชส, คาลิดู คูลิบาลี่, นิโกล่า มาร์กซิโมวิค (ดรีส์ เมอร์เท่นส์ น.46) – โฆเซ่ กาเยฆอน, อัลลัน, ฟาเบียน รูอิซ, พิโอเตอร์ ซีลินสกี้ – ลอเรนโซ่ อินซินเย่ (อามิน ยูเนส น.61), อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค

อาร์เซน่อล (3-4-1-2) : ปีเตอร์ เช็ก – โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, อิ๊กนาซิโอ มอนเรอัล – เอนสลี่ย์ เมทแลนด์-ไนล์ส, กรานิต ชาคา (โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ น.61), ลูคัส ตอร์เรยร่า, เซอัด โคลาซินัช – อารอน แรมซี่ย์ (เฮนริค มคิทาร์ยาน น.34) – ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง, อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ (อเล็กซ์ อิโวบี้ น.68)

ออกแบบเว็บแบบนี้ด้วย WordPress.com
เริ่มต้น