1.มีภาพในใจที่แจ่มแจ้งและก็คิดแผนตกแต่งก่อน
การที่พวกเราเข้าโชว์รูมเครื่องเรือนและก็ของสำหรับใช้ในการตกแต่งบ้านโดยไม่มีจุดหมาย อาจก่อให้คุณสูญเสียเงินไปกับสิ่งที่คุณมิได้อยากได้จริงๆหรือเปล่าได้เหมาะสมกับห้องที่คุณต้องการจะตกแต่งเลย
ก่อนที่จะคุณจะออกไปตรวจตราหาเครื่องใช้เพื่อมาตกแต่ง ขอให้คุณเริ่มจากการหาแรงผลักดันแล้วก็ร่างภาพให้ความนึกคิดให้แน่ชัดก่อนว่าคุณอยากได้ห้องแบบไหน สไตล์ใด รวมทั้งสิ่งต่างๆที่จะนำเอามาตกแต่งจะต้องมีอะไรบ้าง โดยคุณสามารถหาแรงจูงใจได้มากมายหลายวิธี
มองแบบการตกแต่งห้องในอินเทอร์เน็ตรวมทั้งเพจเกี่ยวกับการตกแต่งบ้าน
มองการตกแต่งห้องในแมกกาซีนแต่งบ้าน
เดินมองโชว์รูมหรือห้าง (รวมทั้งย้ำกับตนเองว่า วันนี้พวกเรามาดูแบบเป็นไอเดีย มิได้มาจับจ่ายซื้อของ)
ขอเข้าไปเยี่ยมชมบ้านของเพื่อนฝูง ญาติโกโหติกา หรือคนรู้จักกัน
แล้วก็เมื่อคุณรู้และเข้าใจดีแล้วว่าอยากที่จะให้ห้องของคุณมีหน้าตาเช่นไร ก็ให้ท่านทำรายการข้าวของที่จะซื้อโดยแยกเป็นชนิดและประเภทเป็น 1) ของใช้ที่จำเป็น 2) เครื่องเรือนอำนวยความสะดวก 3) ของตกแต่ง เรียงลำดับตามจุดสำคัญ ทำเป็นแผนข้าวของที่จะซื้อเพื่อแบ่งสรรและก็คุมงบประมาณที่ตั้งไว้

- ลงทุนกับเครื่องเรือนที่ใช้งานได้คุ้ม
เครื่องเรือนเป็นข้าวของชิ้นใหญ่ที่รองรับการใช้แรงงานของพวกเราอยู่ตลอด รวมทั้งแน่ๆว่าแพงสูง ไม่มีผู้ใดต้องการเปลี่ยนแปลงเครื่องเรือนเสมอๆไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ ตู้ เตียง โซฟา ม้านั่ง อื่นๆอีกมากมาย เมื่อจะเลือกเครื่องเรือนสักตัวจำเป็นที่จะต้องให้ความเอาใจใส่กับประสิทธิภาพด้านการใช้แรงงานรวมทั้งช่วงเวลาการใช้แรงงานด้วย
ยิ่งไปกว่านี้ เนื่องมาจากเครื่องเรือนเป็นข้าวของชิ้นใหญ่รวมทั้งเป็นส่วนประกอบหลักที่มีรูปร่างสูงที่สุดข้างในห้องห้องหนึ่ง เครื่องเรือนก็เลยสามารถระบุ Mood & Tone และก็สไตล์ของห้องๆนั้นได้
แม้คุณเลือกลงทุนกับเครื่องเรือนที่ทั้งยังคุณภาพดีแล้วก็ใบหน้าตรงตามสไตล์ที่ปรารถนา บางเวลาคุณอาจไม่ต้องเสียตังค์สำหรับการหาข้าวของอื่นๆมาตกแต่งให้เยอะแยะ ออมงบประมาณลงได้จากการลงคุณกับสิ่งที่คุ้มจริงๆ

3.ปรับใช้ของที่มีอยู่แล้วมาตกแต่ง
ของชิ้นหนึ่ง เมื่อเวลาผ่านไป พวกเราบางทีอาจไม่ได้อยากมันอีกแล้ว ไม่ว่าจะเบื่อหรือพัง แต่ว่าถ้าหากเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้นให้เป็นของใหม่ล่ะ ทดลองกลับความนึกคิดกลับมุมมอง กล่าวโทษเป็นได้ใหม่ๆ…ของชิ้นเดิมบางทีอาจเป็นอะไรได้มากกว่านั้น ซึ่งแน่ๆว่า ไม่ต้องเสียตังค์จ่ายตลาดใหม่
แบบอย่างไอเดียปรับใช้ของโบราณเป็นของตกแต่งที่สวย
วารสารเก่าๆที่มิได้อ่านอีก ถ้าจะนำไปชั่งน้ำหนักกิโลขายคงจะได้เงินไม่กี่เงิน ทดลองปรับเป็นโต๊ะวางของสารพัดประโยชน์หรือโต๊ะวางโคมข้างโซฟา เตียง เพียงแค่วางหนังสือกันแล้วหาถาดรองข้างบน หรือประดิษฐ์เสริมเติมแต้มตามความคิดสร้างสรรค์ของคุณ หนังสือเก่าๆก็จะเปลี่ยนเป็นโต๊ะตัวใหม่
ตู้แช่เย็นเก่าๆพังทลายแล้ว นำไปขายเช่นไรก็ไม่คุ้ม เอามาทำประโยชน์เป็นตู้สำหรับใส่หนังสือ ก็มองสวย และก็ใช้งานได้คุ้ม หรือจะทำเป็นตู้สำหรับเก็บของทั่วๆไป หรือพวกอาหารแห้งก็เหมาะสมดี ด้วยเหตุว่าประตูตู้แช่เย็นจะปิดสนิท ไม่ต้องวิตกกังวลเรื่องความชุ่มชื้น
กีตาร์โปร่งเก่าๆยุคเด็กๆบางทีอาจเปิดฝาออกทำเป็นที่วางของสะสมตกแต่งหรือวางกรอบรูปเล็กๆได้
ลิ้นชักเก่าๆเอามาปรับเป็นกระถางที่เอาไว้ปลูกดอกไม้แบบชั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากปลูกพืชดอกไม้ประดับ คุณก็จะได้ของตกแต่งที่ประหลาดตา น่าดึงดูดกว่าลิ้นชักที่ไม่มีผู้ใดอยากได้
ถังสังกะสีหรือถังไม้เก่าๆที่ยังแข็งแรง เพียงแค่คว่ำปากถังลง วางเบาะ ก็จะได้เก้าอี้เก๋ๆมานั่งแล้ว

- “ของโบราณ” “ของมือสอง” ก็แต่งบ้านให้น่าอยู่ได้
ของโบราณชอบมีเสน่ห์ที่ส่วนตัวบางสิ่งที่ทำให้ผู้คนจำนวนมากหลงเสน่ห์ จะต้องออกสำรวจหาตามตลาดของโบราณ ตลาดนัด หรือร้านรวงของโบราณเมื่อว่าง รวมทั้งเว้นแต่กลิ่นเก่าๆอันเป็นเสน่ห์แล้ว ‘ราคาที่ถูก’ ก็จูงใจให้หลายท่านต้องการหาของโบราณมาตกแต่งบ้านให้น่าอยู่บ้าง
คุณอาจมองหาเก้าอี้ไม้มือสองหลากสไตล์ มาวางเข้าชุดเข้ารอยกับโต๊ะไม้เก่าๆหรือถ้าคอยปรูปเก่ามาตกแต่งรวมกัน หรือจะเป็นตู้เก่าราคาไม่แพงซึ่งคุณอาจเอามาลงสีเพิ่มอีก ของพวกนี้สามารถเอามาตกแต่งบ้านให้น่าอยู่กว่าเดิมได้ และก็ของโบราณๆยังช่วยสร้างบรรยากาศวินเทจที่คนจำนวนไม่น้อยหลงใหลด้วย
รูปที่3 ข้างในบทความ แต่งบ้านให้น่าอยู่

- DIY ประหยัดเงินได้ด้วยของตกแต่งทำเอง
DIY นั้นย่อมาจาก “Do it by yourself” มีความหมายว่า ทำด้วยตัวเอง
ถ้าคุณมีไอเดียตกแต่งบ้านและก็ถูกใจประดิดประดอยอยู่แล้ว คุณอาจเข้าใจกันดีอยู่แล้วว่า การผลิตผลงานของตนและก็สรรเสริญงานของตนมันน่าภาคภูมิใจแค่ไหน ก็เลยต้องการเชื้อเชิญผู้ที่บางครั้งก็อาจจะไม่เคยประดิษฐ์ของด้วยตัวเองแต่ว่าต้องการมัธยัสถ์งบประมาณสำหรับเพื่อการแต่งบ้าน ซึ่งจะต้องใช้สมองประดิษฐ์สำหรับในการปรับใช้ข้าวของยกตัวอย่างเช่นข้อก่อนหน้าที่ผ่านมาด้วย แม้กระนั้นรับประกันว่าคุณจะสนุกสนานกับการตกแต่งบ้านเยอะขึ้นเรื่อยๆ
ทดลองดูไอเดียต่อแต่นี้ไป และก็วางแบบบ้านในฝันด้วยสองมือของคุณเอง
แบบอย่างไอเดียแต่งบ้านให้น่าอยู่ด้วยของ DIY
ลงสีบ้านด้วยตัวเอง ทดลองคิดนอกกรอบ ทดลองถือเชือกมาพันลูกกลิ้งลงสี หรือนำใบไม้ไปทับฝาผนังไว้ คุณก็สามารถแต่งตั้งกำแพงบ้านแบบเฉพาะของคุณได้แล้ว
ประดิษฐ์จากอุปกรณ์ธรรมชาติ เพียงแค่นำก้านไม้มาประกอบกับประทีปที่มีอยู่แล้ว คุณก็จะได้ตะเกียงสไตล์คันทรี่มาตกแต่งบ้านให้มองอบอุ่นน่าอยู่แล้ว
นำประตูไม้เก่ามาทำเป็นโต๊ะวางของสารพัดประโยชน์ ซึ่งคุณก็จะได้ลายงามๆจากบานหน้าต่างด้วยและก็ความคันทรี่จากหน้าต่างไม้ อื่นๆอีกมากมาย
ดังนี้ ไม่มีความสำคัญจำเป็นจะต้องประดิษฐ์ของชิ้นใหม่แค่นั้น ถ้ามีอะไรที่คุณสามารถทำได้ด้วยตนเอง ไม่ยากเหลือเกินจนกระทั่งจะต้องว่าจ้างช่างฝีมือ อย่างเช่น พ่นสี ลงสี ตกแต่งเครื่องเรือน อื่นๆอีกมากมาย ทดลองทำด้วยตัวคุณเองมอง แล้วคุณจะสนุกสนานกับการตกแต่งบ้านมากยิ่งขึ้น
6.เลือกจ่ายตลาดท้องถิ่น ของทำมือ หรือข้าวของจากสิ่งของธรรมชาติ
ข้าวของกลุ่มนี้มักเป็นของจากประชาชน ผู้สร้างขายด้วยตัวเอง ไม่ต้องเสียค่าการตลาด ค่าใช้จ่ายสำหรับเช่าที่ หรือค่าใช้จ่ายในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ทั้งยังบางทีอาจสร้างจากวัสดุท้องถิ่น หาง่าย ทุนไม่สูง ราคาขายก็เลยถูกตาม แม้กระนั้นถึงถูกก็มิได้มีความหมายว่ามีคุณค่าน้อยกว่าของตามร้านค้าชั้นแนวหน้า ตรงข้าม ข้าวของพวกนี้เป็นของที่มีเพียงแค่ชิ้นเดียวบนโลก มีต้นเหตุมาจากความสามารถของผู้ผลิตสรรค์ หรือได้ผลงานของธรรมชาติ
เมื่อไปท่องเที่ยวบ้านนอก ให้ท่านทดลองมองหาของที่บางทีอาจเอามาแต่งบ้านได้ ยกตัวอย่างเช่น ผ้าทอลวดลายหรือสีสันผิดตามาห้อยประดับประดา เครื่องหัตถกรรม รากไม้ หรือจะพวกดอกไม้แห้ง โมบายลูกยาง ก็เอามาแต่งบ้านให้น่าอยู่ ให้บ้านมองบรรเทาลงได้
7.ไม่ตกแต่งบ้านอีกทั้งข้างหลังในคราวเดียว
สำหรับข้อนี้ ทุกๆคนควรจะเตือนตนเองไว้เสมอว่าไม่สมควรแต่งบ้านในครั้งเดียว ถ้าเกิดงบประมาณมีจำกัด
คนจำนวนไม่น้อยเมื่อได้ซื้อแล้ว อารมณ์แล้วก็ความอยากได้ก็พัดพาไป ระรานให้จ่ายตลาดตกแต่งไปเรื่อยไม่หยุด หรือบางบุคคลก็ต้องการมองเห็นเค้าหน้าของบ้านในฝันเร็วๆต้องการซื้อทุกสิ่งทุกอย่างในคราวเดีย ซึ่งแน่ๆว่า จะต้องใช้เงินจำนวนไม่น้อยในครั้งเดียวเหมือนกัน แม้ไม่คิดแผนดีๆตั้งงบไม่เหมาะสม เงินที่คุณควรที่จะนำไปใช้กับสิ่งที่สำคัญกว่าบางทีอาจหมดไปกับการตกแต่งบ้านได้