Design a site like this with WordPress.com
เริ่มได้

สเตอร์ลิ่ง-ซานโช่โชว์โหด! ชำแหละผลงานแข้งอังกฤษนัดกระซวกเช็ก

สเตอร์ลิ่ง “ทรี ไลอ้อนส์” โชว์ฟอร์มสุดโหดในนัดแรกของศึก ฟุตบอลยูโร 2020 รอบคัดเลือก หลังเปิดรัง เวมบีลย์ สเตเดี้ยม ถล่มผู้มาเยือนอย่าง เช็ก ชาดลอยถึง 5-0 มีแข้งผู้ดีหลายคนได้ลงประเดิมทีมชาติ ขณะที่ แมน ออฟ เดอะ แมตช์ หนีไม่พ้นแข้งที่ระเบิดฟอร์มแฮตทริกของเกมนี้ได้ไปถึง 9.5 แต้มเลยทีเดียว เราไปชมผลงานแข้งอังกฤษในนัดนี้กัน
อังกฤษ

จอร์แดน พิคฟอร์ด 6
มีโอกาสเซฟเน้นๆอยู่แค่ครั้งเดียว แถมโอกาสเดียวนี้ก็ยิงตรงตัวรับง่ายๆอีก

ไคล์ วอล์คเกอร์ 6.5
เติมเกมบุกอย่างเมามันส์ คอยช่วยซัพพอร์ทเกมรุกของ จาดอน ซานโช่

ไมเคิ่ล คีน 6
เล่นง่าย ส่งบอลง่าย อาจจะขาดลูกจ่ายงามๆแบบ จอห์น สโตนส์ แต่โดยรวมยังถือว่าดี เจอบบททดสอบไม่ยากนัก

แฮร์รี่ แม็คไกวร์ 6.5
มีจังหวะบล็คกลูกยิงสำคัญๆบ้าง จ่ายบอลได้ดี แต่ก็ไม่ค่อยเจองานยากเช่นกัน

เบน ชิลเวลล์ 6.5
ส่วนใหญ่จะเน้นเติมเกมบุก มีตัดบอลและแย่งบอลสวยๆอยู่

เอริก ดายเออร์ 6
ได้ลงอยู่ประมาณ 17 นาทีก็โชคร้ายได้รับบาดเจ็บจนถูกเปลี่ยนตัวออก

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน 7.5
เป็นศูนย์กลางในแดนกลาง คอยถ่ายบอลให้เพื่อนร่วมทีม บอลสั้นบอลยาวยังทำได้ยอดเยี่ยม

เดเล่ อัลลี่ 7
มีจับบอลสวยๆบ้าง แต่โดยรวมฟอร์มยังไม่โดดเด่นนัก เป็นคนตอกส้นให้ สเตอร์ลิ่ง จนทีมได้จุดโทษ

ราฮีม สเตอร์ลิง 9.5
มีส่วนร่วมกับประตูที่ได้ถึง 4 ลูก ซัดแฮตทริกแรกในนามทีมชาติ ยังเป็นคนเรียกจุดโทษให้กับทีมอีก

จาดอน ซานโช่ 8
อาจจะเริ่มเกมติดๆขัดๆบ้าง แต่หลังจากนั้นสกิลการเลี้ยงของเขาปั่นป่วนแนวรับคู่แข่งได้ตลอด จัดแอสซิสต์ไปหนึ่ง

แฮร์รี่ เคน 7.5
เป็นคนจ่ายทะลุช่องจนเป็นจุดเริ่มต้นที่ได้ประตูแรก ก่อนจะมาซัดจุดโทษ แต่ครึ่งหลังค่อนข้างเงียบไปหน่อย

ผู้เล่นสำรองที่ลงสนาม

รอส บาร์คลีย์ 7 (ลงมาแทน เอริก ดายเออร์ น.17)
ลงมาแบบกระทันหัน พยายามพาบอลขึ้นหน้าและช่วยเกมรุกตลอด

ดีแคลน ไรซ์ 6 (ลงมาแทน เดเล่ อัลลี่ น.63)
ลงเล่นให้ทีมชาติอังกฤษเป็นครั้งแรก ลงมาจ่ายบอลง่ายๆเป็นส่วนใหญ่

คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย 7 (ลงมาแทน ราฮีม สเตอร์ลิง น.68)
ลงเล่นให้ทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ครั้งแรก เป็นคนลากเลื้อยแล้วยิงไปติดเซฟ ก่อนกองหลังเช็กจะทำเข้าประตูตัวเอง

อาร์เซน่อลพลิกนรกอัดแรนส์แซงทะลุยูโรปา

       อาร์เซน่อล เปิดบ้านรัวใส่ แรนส์ 3-0 ครบสองนัด อาร์เซน่อล ทำประตูรวมแซงเข้ารอบได้สำเร็จที่สกอร์ 4-3 ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปา ลีก (รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง) เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมา

เริ่มเกมได้เพียงนาทีที่ 5 เท่านั้น “ปืนใหญ่” ที่เปิดเกมบุกเต็มตัวได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะรุกขึ้นมาทางฝั่งขวา อารอน แรมซี่ย์ หักข้อผ่านบอลไปที่จุดนัดพบจบสกอร์โดย ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง เบียดเอาชนะแผงหลังแรนส์ก่อนยื่นเท้าซ้ายแปบอลสวนตัว โทมัส คูเบ็ค เข้าไป ทำให้ผลรวมประตูตีตื้นขึ้นมาเป็น 2-3

นาทีที่ 15 อาร์เซน่อล ได้ประตูที่ต้องการนำห่าง 2-0 จากความขยันของ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ที่ใช้ความเร็วบวกความขยันวิ่งไปเปิดบอลจากเส้นหลังฝั่งซ้ายโด่งย้อนไปเข้าหัว เอนส์ลี่ย์ เมทแลนด์-ไนล์ส ที่เติมเกมขึ้นมาและโถมตัวขึ้นโหม่งเหน่งๆ เข้าไปเล่นเอาตาข่ายสะเทือน เมื่อย้อนดูภาพช้าลูกเปิดของ โอบา บอลทาบเส้นหลังพอดิบพอดี ทำให้ อาร์เซน่อล มีผลรวมประตูตีขึ้นมาเป็น 3-3 และหากจบเกมที่สกอร์นี้จะเป็นยอดทีมจากเกาะอังกฤษเข้ารอบทันทีด้วยกฏอเวย์โกล

ใบเหลืองแรกของเกมเกิดขึ้นหลังผ่านครึ่งชั่วโมงไปได้แค่หนึ่งนาทีเป็นของ อเล็กซองด์ ลากาแซต ดาวยิงเจ้าถิ่นที่ไปตัดฟาวล์ด้านหลังใส่ แบ็งฌาแม็ง อ็องเดร แบบไร้ซึ่งการเล่นบอลทำให้ อันดริส เตรมานิส ท่านเปาจากลัตเวียควักใบเหลืองแจกให้โดยไม่ลังเล

นาทีที่ 34 ปืนใหญ่ได้ลุ้นอีกครั้ง เมซุส โอซิล เปิดบอลไปให้ โอบาเมย็อง กระโดดตีลังกายิงในเขตโทษแรนส์ประมาณ 13 หลาแต่ดันไปโดนหน้าแข้งทำให้บอลทิศทางคุมไม่ได้ออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 38 ยักษ์ใหญ่แห่งเกาะอังกฤษได้ลุ้นอีกครั้ง โอซิล กระชากบอลขึ้นมาทางฝั่งขวาส่งต่อให้ โอบาเมย็อง แล้วคืนย้อนให้ อารอน แรมซี่ย์ วิ่งเข้ามาแปเน้นๆ แต่ดันไปตรงตัวนายด่านแรนส์รับเข้ามือไว้ไร้ปัญหา

จบครึ่งแรก อาร์เซน่อล นำ แรนส์ 2-0

เริ่มครึ่งหลังได้เพียงสองนาที แรนส์ หวิดทวงประตูคืนได้ กเลมงต์ เกรอนิเย่ร์ หวดเต็มข้อกลางกรอบเขตโทษอาร์เซน่อลประมาณ 20 หลาบอลพุ่งดุจจรวดทางเรียบผ่านมือ ปีเตอร์ เช็ก นายด่านร่างโย่งไปชนเสาอย่างจังแถมบอลไม่เป็นใจกระดอนออกไปไกล

นาทีที่ 50 อาร์เซน่อล ตอบโต้กลับขึ้นมาบ้าง โอบาเมย็อง ใช้ความสามารถเฉพาะตัวกระชากบอลเข้าไปเปิดยัดในเขตโทษทีมเยือนแต่ โทมัส คูเบ็ค ดักทางพุ่งรับบอลไว้ได้

เลยผ่านมาถึงนาทีที่ 72 อาร์เซน่อล ได้ประตูนำห่าง 3-0 จากจังหวะที่ เซอัด โคลาซินัช กระชากไปริมเส้นฝั่งซ้ายแล้วผ่านบอลเลยมาถึง โอบาเมย็อง ยืนแปแบบไร้ตัวประกบเข้าไปง่ายดาย นับเป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้อีกด้วย

โอบาฯ แสดงความดีใจด้วยการควักหน้ากาก “แบล็ค แพนเธอร์” ออกมาใส่เรียกเสียงเฮได้อีกเท่าตัวจากสาวกปืนโต

นาทีที่ 82 โอบาเมย็อง หวิดทำแฮตทริกให้ตัวเองเมื่อหลุดเดียวไปจิ้มบอลหนีมือ โทมัส คูเบ็ค นายทวารแรนส์ แต่หลุดออกเสาไปนิดเดียว

นาทีถัดมา โอบาเมย็อง ทำสกอร์หายวับไปในอากาศแบบไม่น่าให้อภัยเมื่อ แรมซี่ย์ ผ่านบอลให้ดาวยิงกาบองแปไม่ถึง 5 หลาแบบโล่งๆ แต่ดันวืดโดนปลายเท้ากระดอนออกไป

เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มจบเกม อาร์เซน่อล เปิดบ้านอัด แรนส์ 3-0 เมื่อรวมผลเป็น อาร์เซน่อล พลิกนรกแซงเข้ารอบ ก่อนรองฯ หรือ 8 ทีมสุดท้ายไปที่สกอร์ 4-3

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อาร์เซน่อล (3-4-1-2) : ปีเตอร์ เช็ก – ชโคดราน มุสตาฟี่, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, นาโช่ มอนเรอัล – เอนส์ลี่ย์ เมทแลนด์-ไนล์ส, อารอน แรมซี่ย์( ลูคัส ตอร์เรยร่า น.87), กรานิต ชาคา, เซอัด โคลาซินัช – เมซุส โอซิล (เฮนริค มคิทาร์ยาน น.70) – ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง, อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ (อเล็กซ์ อิโวบี้ น.70)

แรนส์ (4-4-2) : โทมัส คูเบ็ค – อามารี่ ตราโอเร่, ดาเมียง ดา ซิลวา, เอ็ดสัน อ็องเดร ซิโตเอ้ “เมเซอร์”, รามี เบนเซไบนี่ – อิสไมล่า ซาร์, แบ็งฌาแม็ง อ็องเดร (เจมส์ เลอา ซิลิกี น.79), กเลมงต์ เกรอนิเย่ร์ (อาเดรียง อูนู น.70), เบนฌาแม็ง บูริโกด์ – ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา, เอ็มบาย เนียง