เมื่อทราบดีว่าจะต้องมาลงหยุดที่ดินแดนแห่งนี้ ทำให้หัวใจของนักท่องเที่ยวนั้นเต้นระทึกและก็พองโตด้วยความระทึกใจ เนื่องจากประเทศโปแลนด์เป็นประเทศที่มีความน่าดึงดูดใจไม่น้อย หาใช่เรื่องราวของประวัติศาสตร์ศิลปไม่ แม้กระนั้นมันเป็นดินแดนที่ประวัติศาสตร์สงครามโลกอีกทั้งครั้งอันดับที่หนึ่งและก็ครั้งลำดับที่สอง
เป็นดินแดนที่ต่อสู้รวมทั้งป้องกันเอกราชของชาติมาด้วยเลือดรวมทั้งชีวิตนับล้าน เป็นชาติเดียวของยุโรป ที่จะต้องทำศึกกับหัวหน้าระบอบคอมมิวนิสต์จากสองประเทศเป็น สตาลินที่รัสเซีย และก็ฮิตเลอร์ที่เยอรมัน ในเวลาพร้อม แต่ว่าสิ่งที่จูงใจให้จำต้องร่อนมาตะลอนในดินแดนที่นี้ ก็เนื่องจากว่าต้องการอยากทราบเรื่องราวของประวัติศาสตร์ ที่ล่ำลือกันว่าโหดแบบเมืองนรกบนดินที่ค่าย เอาชวิตซ์ ซึ่งมันเป็นที่จองจำตัวประกันนับแสนนับล้านคน เรื่องราวจะเป็นยังไง ติดปีกแล้วตามกันมาได้เลย

Poland (ประเทศโปแลนด์) หรือสาธารณรัฐประเทศโปแลนด์ ตั้งอยู่ศูนย์กลางของยุโรป มีเพื่อนบ้านถึง 7 ประเทศ โดยที่ทิศตะวันตกใกล้กับเยอรมันนี ทิศใต้ใกล้กับสาธารณรัฐเช็กและก็สโลวาเกีย ทิศตะวันออกติดยูเครนและก็เบลาลุส ทิศเหนือติดสมุทรบอลว่ากล่าวก ลิทัวเนีย แล้วก็ประเทศติดอยู่ลีนินกราดของเมืองเซีย ประเทศโปแลนด์เคยเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของเมืองเซียในครั้งสงครามโลก

ประเทศโปแลนด์เป็นประเทศหนึ่งในประเทศที่มีเงินมีทอง และก็มีอำนาจเยอะที่สุดในยุโรป ซึ่งจัดตั้งเมื่อกว่า 1,000 ปีกลาย โดยวงศ์สกุลเปียสต์ แต่ว่าตอนสงครามโลกครั้งที่ 1 ประเทศโปแลนด์ก็ถูกแบ่งเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของ เมืองเซีย ออสเตรีย รวมทั้งปรัสเซีย แต่ว่าก็ได้รับเอกราชภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 สิ้นสุดลง แม้กระนั้นสายลมหวลก็กลับมาอีกทีภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศโปแลนด์ได้เปลี่ยนเป็นบริวารลัทธิคอมมิวนิสต์ของโซเวียต ถัดมาข้างหลังสงครามโลกสิ้นสุดลง ชาวประเทศโปแลนด์ได้ดิ้นรนต่อสู้เพื่ออิสระ จนกระทั่งท้ายที่สุดหัวหน้าที่เป็นข้างระบอบคอมมิวนิสต์ได้พ่ายไป ประเทศโปแลนด์ก็เลยได้ความอิสระ และก็ได้เข้ามาเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรปจากนั้นมา มองเอาเถอะ…บ้านคนไหนกัน คนใดกันก็รัก

ประเทศโปแลนด์มีเมืองหลวงเป็น กรุงวอร์ซอ พื้นที่เกือบจะทั่วทั้งประเทศเป็นที่ราบ เว้นเสียแต่ทางตอนใต้ติดชายแดนเป็นเทือกเขา แล้วก็เทือกเขาที่สูงสุดเป็น Rysy ที่อยู่เหนือจากระดับน้ำทะเลถึง 8,200 ฟุต ส่วนหน้าหนาวตอนมกราคม มีอุณหภูมิติดลบ 1-5 องศาเซลเซียส ส่วนหน้าร้อนตอนก.ค.มีอากาศเย็นสบาย อุที่ภูเขาไม่เฉลี่ยอยู่ที่ 16-19 องศาเซลเซียส ซึ่งเสมือนหน้าหนาวในกรุงเทพเลย

ประวัติศาสตร์ของประเทศโปแลนด์นี่ทำให้ซาบซึ้งใจจับใจ ทำให้ยิ่งต้องการทราบว่าความเป็นอยู่ในตอนนี้เป็นกันเช่นไร เลยจำต้องลงพื้นที่ตรวจกันที่เมืองหลวงก่อนเป็นขั้นแรก

วอร์ซอ เป็นเมืองศูนย์กลางอุตสาหกรรมหนัก ได้แก่ รถยนต์ เหล็ก และก็เครื่องจักรอุตสาหกรรม เมืองวอร์ซอมีการผสมของสถาปัตยกรรมแบบเก่าแล้วก็ใหม่ ราวกับมีเมืองเก่ารวมทั้งเมืองใหม่อยู่ในเมืองใหญ่ที่เดียวกัน ซึ่งบริเวณเมืองเก่า หรือ Old Town ได้ถูกประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติไปแล้ว เนื่องมาจากสถาปัตยกรรมของเมืองวอร์ซอถูกผลิตราวศตวรรษที่ 13 รวมทั้งมีหลายแห่งที่ได้รับความทรุดโทรมจากสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ว่าก็ได้รับการบูรณะจนกระทั่งตอนนี้

Old Town (จัตุรัสเมืองเก่า) เป็นสถานที่เที่ยวที่สวยสดงดงามแห่งหนึ่งของประเทศโปแลนด์ ซึ่งสามารถเย้ายวนใจนักเดินทางได้ทุกปี ด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุโรปตะวันออกแท้ๆและก็กิจกรรมที่โล่งแจ้งในตอนหน้าร้อน ตลาดนัดที่โล่งแจ้งที่ขายสินค้ามากมาย ทั้งยังของโบราณรวมทั้งของใหม่ มีช่างวาดเขียนมานั่งรับจ้างเขียนภาพเสมือน มีโต๊ะรับจ้างขัดรองเท้า รวมทั้งอีกเพียบเลย ยิ่งกว่านั้น ยังมีบริการรถม้าพาชมรอบเมืองเก่า ซึ่งเป็นสีสันที่ชีวิตฤดูร้อนที่สวยทีเดียว
