Design a site like this with WordPress.com
เริ่มได้

อยู่ยาก!แฟนบาร์เซโลน่าไม่พอใจโห่ใส่ คูตินโญ่ หนัก

คูตินโญ่ มิดฟิลด์ บาร์เซโลน่า โดนกองเชียร์กลุ่มหนึ่งของทีมตัวเองโห่ใส่ในเกมที่ต้นสังกัดเฉือน เรอัล โซเซียดาด หลังจากที่สาวก “อาซูลกราน่า” บางส่วนไม่พอใจในตัวเขามานานแล้ว และความบาดหมางก็รุนแรงขึ้นหลังจากที่ คูตินโญ่ ฉลองประตูในเกมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยการเอานิ้วอุดหูตัวเอง
แฟนบอลกลุ่มหนึ่งของ บาร์เซโลน่า โห่ใส่ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ กองกลางชาวบราซิเลียนของทีม ระหว่างเกม ลา ลีกา สเปน นัดที่ทีมรักของพวกเขาเปิดรัง คัมป์ นู เอาชนะ เรอัล โซเซียดาด 2-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 20 เมษายน ที่ผ่านมา

คูตินโญ่ เป็นที่เกลียดชังของสาวก บาร์เซโลน่า บางคนมาพักหนึ่งแล้ว หลังจากที่เขาทำผลงานได้น่าผิดหวังในฤดูกาลนี้ โดยก่อนหน้านี้อดีตแข้ง ลิเวอร์พูล ก็เคยโดนสาวกของทีมโห่ใส่บางนัด จนทำให้เกิดข่าวลือว่าเจ้าตัวอาจเลือกบอกลาทีมในช่วงซัมเมอร์นี้

ทั้งนี้ ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดสอง ที่ทีมของกุนซือ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ เปิดบ้านไล่ต้อน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-0 เมื่อวันอังคารที่ 16 เมษายน ที่ผ่านมานั้น คูตินโญ่ ทำประตูได้ด้วย และเขาก็ฉลองด้วยการเอานิ้วอุดหูทั้งสองข้าง โดยถึงแม้จะไม่เป็นที่ชัดเจนว่าเขาต้องการสื่อถึงใคร แต่หลายคนเชื่อกันว่าดาวเตะเลือดแซมบ้าต้องการสื่อถึงบรรดาคนที่วิจารณ์เขา และนั่นรวมถึงแฟนบอล บาร์เซโลน่า ที่ตำหนิเขาด้วย

การกระทำดังกล่าวส่งผลให้สาวก บาร์เซโลน่า กลุ่มหนึ่งไม่พอใจในตัวเขามากขึ้นไปอีก จนถึงขั้นโห่ใส่เจ้าตัวในตอนที่ คูตินโญ่ โดนเปลี่ยนตัวลงสนามในเกมกับ โซเซียดาด เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และทุกครั้งที่เขาได้จับบอล เหล่ากองเชียร์ บาร์เซโลน่า ก็ยังตามโห่เขาไม่เลิกเหมือนกัน

ไร้ปาฎิหาริย์ที่คัมป์นู! เมสซี่โชว์เบิ้ล บาร์เซโลน่าย้ำชัยอัดแมนยูยับ ลิ่วตัดเชือกชปล.

เมสซี่ ขยี้แนวรับปีศาจแดงเละเทะเมื่อจัดการสองประตูก่อนพา บาร์เซโลน่า เปิดคัมป์นูไล่ถลุงเอาชนะไปได้ 3-0 รวมผลสองนัดผ่านเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศด้วยประตูรวม 4-0 โดยจะเข้าไปพบผู้ชนะระหว่าง ปอร์โต้ หรือลิเวอร์พูล ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ8ทีมสุดท้าย นัดสอง เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา

สนาม : คัมป์ นู, ประเทศสเปน (ผลการแข่งขันนัดแรก บาร์เซโลน่า ชนะ 1-0)

ศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดสอง วันอังคารที่ 16 เมษายน ที่ผ่านมา เจ้าถิ่น บาร์เซโลน่า กลับมาเฝ้ารังเปิดคัมป์ นู รับการมาเยือนของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังนัดแรกที่โอลด์แทร็ฟฟอร์ด “เจ้าบุญทุ่ม” บุกไปคว้าชัยมาก่อน 1-0

เกมนี้ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ยังยึดขุมกำลังชุดเดิมแนวรุกใช้สามประสานตัวเก่งทั้ง ลิโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ และฟิลิปเป้ คูตินโญ่

ส่วนทางฝั่ง “ผีแดง” เกมนี้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตกุนซือของแมนฯยูไนเต็ด บินมาให้กำลังใจแข้งปีศาจแดงถึงคัมป์นู โดยเกมนี้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ได้รับข่าวดีหลังได้ทั้ง อเล็กซิส ซานเชซ และเนมานย่า มาติช หายเจ็บกลับมาช่วยทีม แต่เกมนี้เป็นแค่สำรองไปก่อนเช่นเดียวกับ โรเมลู ลูกากู โดยสามประสานแนวรุกใช้ เจสซี่ ลินการ์ด, มาร์คัส แรชฟอร์ด และอ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ส่วนแนวรับ ลุค ชอว์ ที่ติดโทษแบนวันนี้โยกเอา แอชลี่ย์ ยัง มาประจำการแทน แล้วส่ง ฟิล โจนส์ เล่นแบ็กขวา

เกมเปิดฉากมาได้แค่ 39 วินาที “ปีศาจแดง” เกือบได้ประตูขึ้นนำไปก่อน เมื่อ ปอล ป็อกบา แทงบอลให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด หลุดเข้าไปจิ้มด้วยหัวเกือกขวาบอลพุ่งชนคานออกหลังไป

นาที 9 ลินการ์ด ได้บอลตรงกลางสนามก่อนไหลให้ ป็อกบา ลองชิพบอลไกลกว่า 40 หลา แต่บอลลอยโด่งหลุดหลังออกไปแบบไม่ได้ลุ้น

กระทั่ง นาที 11 แฟนผีแดงเงียบกันกริบหลัง เฟลิกซ์ บรีช ผู้ตัดสินเป่าให้จุดโทษแก่เจ้าถิ่นหลัง อีวาน ราคิติช โดนเฟร็ดเข้ามาฟาวล์ด้านหลังในเขตโทษ ก่อนเชิ้ตดำจะขอดู VAR ข้างสนามก่อนวิ่งมาแล้วเปลี่ยนคำตัดสินไม่ให้จุดโทษแก่บาร์ซ่า หลังภาพช้าเห็นได้ชัดว่า เฟร็ด เข้าไปถึงบอลก่อนราคิติชจะล้มตัวลง

แต่แล้วอีก 5 นาทีต่อมา บาร์เซโลน่า ก็ชิงขึ้นนำ 1-0 จนได้ จากจังหวะเคลียร์บอลไม่ขาดของ แอชลี่ย์ ยัง ที่สกัดบอลไปติดแข้งเจ้าถิ่นก่อนบอลจะกระดอนมาเข้าทาง เมสซี่ ยกหลบ แอชลี่ย์ ยัง ก่อนหลบ เฟร็ด ลากตัดเข้ากลางแล้วซัดด้วยซ้ายหน้าหัวกระโหลกกว่า 20 หลา บอลพุ่งหนีมือ เด เคอา เสียบมุมตาข่ายอย่างสวยงาม

จากไม่กี่อึดใจ นาที 20 เจ้าถิ่นฉีกนำห่างเป็น 2-0 เมสซี่ ฉกบอลได้ก่อนถึง เฟร็ด ก่อนลากผ่าน ฟิล โจนส์ เข้าไปยิงด้วยเท้าขวาข้างไม่ถนัด บอลพุ่งไม่หนีมือ เค เคอา แต่นายทวารมือหนึ่งทีมชาติสเปนดันรับบอลพลาดปลิ้นทะลักเข้าประตูไป เป็นประตูที่สองในเกมนี้มีลุ้นแฮตทริก และเป็นประตูที่ 10 นำดาวซัลโวของแชมเปี้ยนส์ลีก

เกมผ่านไป 30 นาที ด้วยสกอร์ที่นำห่าง 2-0 ทำให้เจ้าถิ่นเล่นได้ง่ายขึ้น ครองบอลได้มากกว่า ตรงกันข้ามแข้งผีแดงความมั่นใจกลับลดน้อยลงไป ปั้นเกมแทบไม่ถึงหน้าปากประตูเหมือนช่วง 10 นาทีแรก

นาที 38 แมนยู ได้ตอบโต้บาง คราวนี้ ลินการ์ด ให้บอล ปอล ป็อกบา ก่อนห้องเครื่องดีกรีแชมป์โลกจะซัดนอกกรอบแต่บอลพุ่งไปเข้ามือ มาร์ก-อันเดร แทร์ ชเตเก้น รับไว้ได้ไม่มีปัญหา

นาที 42 “ปีศาจแดง” มาได้ฟรีคิกระยะกว่า 30 หลา มาร์คัส แรชฟอร์ด สาวเท้าวิ่งมายิงเต็มแรงแต่บอลพุ่งไม่ผ่านกำแพง

ช่วงทดเจ็บก่อนหมดครึ่งแรก เจ้าถิ่นเกือบได้ประตูที่สาม หลัง เมสซี่ พาบอลโยกหลอก ฟิล โจนส์ แล้วจ่ายเร็วให้ จอร์ดี้ อัลบา ปาดบอลไปเสาสองถึง แซร์จี้ โรแบร์โต้ แบ็กขวาที่เติมมาสไลด์ตัวยิงบอลจะข้ามเส้นอยู่แล้วแต่ เด เคอา ยังตามเซฟบนเส้นปัดออกมาได้

จบครึ่งแรก บาร์เซโลน่า ขึ้นนำ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-0 สกอร์รวมสองนัดตอนนี้ “เจ้าบุญทุ่ม” นำห่าง 3-0

ครึ่งหลัง กลับมาเล่นได้แค่สองนาที นาที 47 เมสซี่ เกือบพังแฮตทริกในเกมนีได้สำเร็จ หลังวิ่งมาอัดด้วยซ้ายจากลูกเปิดของ ซัวเรซ บอลไปแฉลบขาแอชลี่ย์ ยัง ออกหลังแบบได้ลุ้น

จนแล้วจนรอด นาที 61 บาร์เซโลน่า มาได้ประตูนำห่าง 3-0 บอลจาก เมสซี่ ที่เก็บบอลกลางสนามแล้วขวางยาวมาให้ จอร์ดี้ อัลบา แตะบอลจังหวะเดียวให้ คูตินโญ่ ก่อนจะตะบันนอกกรอบปั่นบอลโค้งหนีมือ เด เคอา เสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสวยงาม ทำให้ประตูรวมตอนนี้ บาร์ซ่า หนีห่างเป็น 4-0

อีก 4 นาทีถัดมา สกอร์เกือบเปลี่ยนอีกครั้ง จากจังหวะที่แนวรับ แมนฯ ยูไนเต็ด สกัดบอลไม่ขาดในเขตโทษตัวเอง เมสซี่ ตีลังกายิงหลุดกรอบออกไป

นาที 65 โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เปลี่ยนตัวคนแรก ถอดเอา อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล แล้วส่ง ดีโอโก้ ดาโลต์ ลงไปเล่นแทน

นาที 71 เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่นที่เปลี่ยนตัวบ้างเอา เนลสัน ซาเมโด้ ลงเล่นแทนแซร์จี้ โรแบร์โต้ ถัดมาอีกสองนาที “ปีศาจแดง” เอามาร์คัส แรชฟอร์ด ออกแล้วส่ง โรเมลู ลูกากู ลงเล่นแทน

อาคันตุกะแทบจะบุกไปขึ้น เจาะแนวรับบาร์เซโลน่าไม่ได้เลย นาที 78 เจสซี่ ลินการ์ด ได้ลองยิงไกลกว่า 30 หลา แต่ยังไม่ดีพอบอลพุ่งเหินคานไปแบบหมดลุ้น

นาทีสุดท้าย แมนฯยูฯ เกือบได้ลูกตีไข่แตก ดีโอโก้ ดาโลต์ ครอสบอลมาให้ อเล็กซิส ซานเชซ โขกเต็มหัวแต่บอลยังไม่ผ่าน มาร์ก-อันเดร แทร์ ชเตเก้น ปัดออกหลังไปได้

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม บาร์เซโลน่า เปิดบ้านไล่ต้อนเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปได้อย่างขาดลอย 3-0 รวมผลสองนัดผ่านเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศ ด้วยประตูรวม 4-0 โดยจะเข้าไปพบผู้ชนะระหว่าง ปอร์โต้ หรือ ลิเวอร์พูล

รายชื่อนักเตะที่ลงสนาม

บาร์เซโลน่า (4-3-3) : มาร์ก-อันเดร แทร์ ชเตเก้น – แชร์จี้ โรแบร์โต้ (เนลสัน ซาเมโด้ น.71), เคราร์ด ปีเก้, เกลมงต์ ล็องก์เล่ต์, จอร์ดี้ อัลบา – อิวาน ราคิติช, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, อาร์เธอร์ (อาร์ตูโร่ วิดาล น.75) – ลิโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ (อูสมาน เดมเบเล่ น.81)

เทรนเนอร์ : เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้

แมนฯ ยูไนเต็ด (4-3-3) : ดาบิด เด เคอา – ฟิล โจนส์, คริส สมอลลิ่ง, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, แอชลี่ย์ ยัง – สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด, ปอล ป็อกบา – เจสซี่ ลินการ์ด (อเล็กซิส ซานเชซ น.80), มาร์คัส แรชฟอร์ด (โรเมลู ลูกากู น.73), อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล (ดีโอโก้ ดาโลต์ น.65)

เฮแบบหืดจับ! ตัดเกรดแข้ง บาร์เซโลน่า เกมบุกเชือดแมนยู

บาร์เซโลน่า ก็ได้ชัยชนะตามที่ต้องการ หลังบุกไปพิชิต แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก ที่สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อคืนวันพุธที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา ถือความได้เปรียบก่อนกลับไปเตะเลกสองที่ คัมป์ นู กลางสัปดาห์หน้า โดยที่โดดเด่นสุดในเกมนี้ของ บาร์ซ่า คือแนวรับ ซึ่งเล่นได้แข็งแกร่งมากๆ โดยเฉพาะ เคราร์ด ปีเก้ เด็กเก่า “ปีศาจแดง” และนี่คือผลสอบของแข้ง บาร์ซ่า แต่ละคนในเกมนี้
11 ผู้เล่นตัวจริง

– มาร์ค-อังเดร แทร์ ชเตเก้น : 6

แทบไม่ได้ทำอะไรเลยในเกมนี้ เพราะ แมนฯ ยูไนเต็ด มีสถิติยิงตรงกรอบ 0

– เนลสัน เซเมโด้ : 7.5

เล่นได้เด่นทีเดียว เติมเกมรุกได้น่ากลัว และมีจังหวะที่จ่ายบอลให้ ซัวเรซ หลุดเข้าไปเกือบทำประตูได้

– เคราร์ด ปีเก้ : 8

กลับมา โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้วยฟอร์มที่แข็งแกร่งสุดๆ คุมเกมรับได้เยี่ยม และตัดบอลได้สวยๆ หลายครั้ง โดยเฉพาะการสกัดช่วงท้ายเกม

– เกลม็องต์ ล็องเล่ต์ : 6

ยืนตำแหน่งได้ดี แต่จ่ายบอลเสียหลายครั้ง ซึ่งโชคดีที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่คมพอในการจบสกอร์

– จอร์ดี้ อัลบา : 7

เล่นเกมรับได้ดี และมีเติมเกมรุกให้เห็นเมื่อมีโอกาส

– อีวาน ราคิติช : 7

อาจจะไม่โดดเด่น แต่ทำได้ดีในการครองบอล และใช้กำลังสู้กับแดนกลางของ “ปีศาจแดง” ได้เยี่ยม

– เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ : 7

แม้เจอใบเหลืองตั้งแต่ต้นเกม แถมหวิดโดนไล่ออกตั้งแต่ช่วง 20 นาทีแรก แต่โดยรวมถือว่าทำได้ดีเลย แถมการหยอดบอลเข้าในเขตโทษของเขายังนำไปสู่ประตูชัยด้วย

– อาร์ตูร์ : 6

เล่นได้ไม่ค่อยดีนัก ก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกช่วงกลางครึ่งหลัง

– ลิโอเนล เมสซี่ : 6.5

แม้ไร้สกอร์ และเล่นไม่ถนัด แต่ก็ป่วนแนวรับคู่แข่งได้เป็นระยะในการครองบอล และถือว่ามีส่วนในจังหวะได้ประตูชัย

– ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ : 5.5

มีโอกาสยิงไปติดเซฟ เด เคอา แต่ฟอร์มโดยรวมถือว่าน่าผิดหวัง

– หลุยส์ ซัวเรซ : 7

ขยันขันแข็ง วิ่งไม่มีหยุด และเป็นเพราะเขาที่ทำให้ทีมได้ประตูชัย จากการโหม่งบอลไปโดนตัว ลุค ชอว์ เข้าประตู

สำรองที่ได้ลงเล่น

– อาร์ตูโร่ วิดาล (แทน คูตินโญ่ น. 66) : 6.5

แม้ลงไปทำฟาวล์หลายครั้ง แถมโดนใบเหลืองภายในไม่กี่นาที แต่ก็ถือเป็นหน้าที่ของเจ้าตัวอยู่แล้วที่จะลงไปช่วยเพิ่มความดุดันในแดนกลาง

– เซร์กี้ โรเบร์โต้ (แทน อาร์ตูร์ น. 66) : 6.5

ลงไปช่วยเติมความสดในแดนกลางตามแท็กติก

– การ์เลส อาเลนญ่า (แทน บุสเก็ตส์ 90+3) : –

ไม่สามารถให้คะแนนได้

ไล่คอสต้า! ซัวเรซ-เมสซี่2นาที2ตุง บาร์ซ่าบี้ท้ายเกมอัดแอตมาดริด10คน

     ซัวเรซ และลิโอเนล เมสซี่ ในช่วงท้ายเกม โดยเกมนี้ทีมเยือนต้องเหลือแค่ 10 คนตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรกหลัง ดีเอโก้ คอสต้า โดนใบแดงไล่ออก ซึ่งสามแต้มในวันนี้ของบาร์ซ่าส่งผลให้พวกเขาหนีห่าง “ตราหมี”ไปเป็น 11 คะแนนแล้ว ในศึก ลา ลีกา เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

จ่าฝูง บาร์เซโลน่า เปิดบิ๊กแมตช์ ลา ลีกา สเปน รับการมาเยือนของ แอตเลติโก มาดริด รองจ่าฝูงที่ก่อนแข่งตามหลังเจ้าบุญทุ่มถึง 8 คะแนน

เกมนี้ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ นายใหญ่บาร์เซโลน่าไม่มี อาร์ตูโร่ วีดาล ที่ติดโทษแบน ทำให้แดนกลางใช้ อาร์ตู เมโล่, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ และอิวาน ราคิติช โดยวางสามแนวรุกอย่าง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, หลุยส์ ซัวเรซ และลิโอเนล เมสซี่

ส่วนทางฝั่งของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ นายใหญ่ตราหมี ได้ดีเอโก้ คอสต้าผ่านความฟิตลงล่าตาข่ายคู่กับ อองตวน กรีซมันน์

ก่อนเกม แพทริก ไคล์เวิร์ต ตำนานแข้งของฮอลแลนด์ และอดีตหัวหอกบาร์เซโลน่า มามอบรางวัลแข้งยอดเยี่ยมประจำเดือนมีนาคมให้ ลิโอเนล เมสซี่

ครึ่งแรก นาที 14 “เจ้าบุญทุ่ม” น่าจะได้ประตูขึ้นนำหลัง เมสซี่ โชว์จังหวะเปิดยาวตัดแนวรับตราหมีให้ ยอร์ดี้ อัลบา หลุดเข้าไปยิงด้วยซ้ายบอลผ่านตัว ยาน โอบลัค ไปแล้วแต่ชนเสาออกมาอย่างน่าเสียดาย

นาที 21 เป็นโอกาสของทีมเยือนบ้าง อองตวน กรีซมันน์ สบโอกาสซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งเข้ากรอบแต่ยังดีที่ มาร์ก อันเดร แทร์ ชเตเก้น รับเข้าซองไว้ได้

จากนั้นอีก 5 นาทีถัดมา เป็นโอกาสทองของ ลิโอเนล เมสซี่ หลังได้ฟรีคิกระยะกว่า 25 หลา ซึ่งเป็นระยะถนัด ทว่าคราวนี้แม้จะปั่นข้ามกำแพงไปแล้วแต่ยังเบาและเหินคานไปแบบไม่มีลุ้น

เกมรุกของเจ้าถิ่นยังวูบวาบ นาที 28 คูตินโญ่ พลิกเข้าไปในกรอบแล้วอัดด้วยขวาอย่างแรงบอลพุ่งแต่ยังไม่ผ่านมือ ยาน โอบลัค ที่โชว์เซฟอีกครั้ง

นาที 29 กลายเป็นจุดเปลี่ยนของแอตเลติโก มาดริด หลังทีมต้องเหลือแค่ 10 คน เมื่อ ดีเอโก้ คอสต้า โดนไล่ออก จากจังหวะที่เดินไปต่อว่าผู้ตัดสินหลังตัวเองไม่ได้ฟาวล์ ทำเอาเกมต้องหยุดชั่วคราวหลังแข้งตราหมีไม่พอใจการตัดสินของเชิ้ตดำ

ท้ายเกม นาที 45+2 บาร์เซโลน่า พลาดโอกาสทองอีก หลัง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ขึ้นโขกเต็มหัวแต่บอลยังไม่ดีพอ ไปเข้ามือ ยาน โอบลัค รับไว้ได้ไม่พลาด

จบครึ่งแรก บาร์เซโลน่า ยังเสมอ แอต,มาดริด ที่เหลือผู้เล่น 10 คน 0-0

นาที 56 เกือบได้ลุ้นจากเมสซี่อีกหน หลัง เซร์จี้ โรเบร์โต้ ผ่านบอลให้ก่อนที่กัปตันทีมบาร์ซ่าจะหวดด้วยซ้าย แต่บอลยังไม่ผ่านมือ โอบลัค

เกมผ่านไปครบหนึ่งชั่วโมง เมสซี่ ที่เริ่มป่วนอีกหนเลี้ยงแนวรับตราหมี 3 คน แต่จังหวะซัดด้วยซ้ายยิงบดไปบอลเบาไม่ยากที่ ยาน โอบลัค จะรับไว้ได้

นาที 63 “เจ้าบุญทุ่ม” ทิ้งโอกาสทองอีกหน จังหวะโซโล่เดี่ยวเลี้ยงบอลจากแดนกลางของ เมสซี่ ตะลุยผ่านแนวรับตราหมีก่อนไหลออกซ้ายโล่งๆให้ ซัวเรซ วิ่งมาแปเน้นๆแต่บอลยังตรงตัว โอบลัค เซฟไว้ได้

เจ้าถิ่นยังดาหน้าโจมตีอย่างหนัก อีก 6 นาทีต่อมา คราวนี้ เมสซี่ เจาะตรงกลางพาบอลขึ้นมาก่อนฝากบอลให้ ซัวเรซ พักบอลให้แล้ววิ่งมาซัดเต็มแรงบอลก็ยังติดเซฟ โอบลัค แม้จะปัดมาเข้าทาง มัลคอม ที่ตามมาซ้ำแต่ก็ยังไม่ผ่านยาน โอบัค ที่เซฟช่วยทีมอีกที

นานๆทีจะมีโอกาส นาที 74 ฟรีคิกทางด้านซ้ายของสนาม กรีซมันน์ บรรจงเปิดไปเสาสอง โฮเซ่ คิเมเนซ ขึ้นโขกแต่บอลสูงข้ามคานออกไปแบบได้เสียว

จนแล้วจนรอด นาที 85 แฟนบาร์ซ่ามาเฮกันลั่นคัมป์ นู เมื่อยอร์ดี้ อัลบา จ่ายบอลให้ หลุยส์ ซัวเรซ พลิกบอลก่อนปั่นโค้งด้วยขวาบอลพุ่งโค้งหนีมือ โอบลัค เบียดโคนเสาสองเข้าไปอย่างเหนือชั้น ให้ บาร์เซโลน่า ขึ้นนำ 1-0

จากนั้นอีกนาทีเดียวต่อมา สกอร์ของเจ้าถิ่นนำห่างเป็น 2-0 อย่างรวดเร็ว บอลโต้กลับมาถึง เมสซี พาบอลกระชากดวลกับแนวรับตราหมี แม้โฮเซ่ คิเมเนซจะสไลด์ขวางทาง แต่บอลยังมาเข้าเท้า เมสซี่ ดึงจังหวะหลอกโกดินแล้วซัดด้วยซ้ายเบาๆเล่นทางหนี ยาน โอบลัค เข้าไป เป็นประตูที่ 33 ของเมสซี่ในลีกปีนี้

จบเกม บาร์เซโลน่า ควาชัยเหนือ แอตเลติโก มาดริด ที่เหลือแค่ 10 คน 2-0 เก็บอีกสามคะแนนนำเป็นจ่าฝูง หนี แอตมาดริด รอง่าฝูงไปเป็น 11 คะแนน และเหลือการแข่งขันในลีกอีก 7 แมตช์

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

บาร์เซโลน่า (4-3-3) : มาร์ก อันเดร แทร์ ชเตเก้น – เซร์จี้ โรเบร์โต้, เคราร์ด ปีเก้, เกลม็องต์ ล็องเลต์ ,ยอร์ดี้ อัลบา – อาร์ตู เมโล่, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, อิวาน ราคิติช – ลิโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่

แอต.มาดริด (4-4-2) : ยาน โอบลัค-ซานติอาโก้ อาเรียส, โฮเซ่ คิเมเนซ, ดีเอโก้ โกดิน, ฟิลิเป้ ลุยส์ กาสมีร์สกี้-ซาอูล ญีเกซ, โรดรี้, โตมาส์ ปาร์เตย์, โกเก้-ดีเอโก้ คอสต้า, อองตวน กรีซมันน์

อัลบาโรยรา!บาร์เซโลน่าวางแผนซิวอลาบาตัวแทนแบ็กซ้าย

อัลบาโรยรา ฟร้องซ์ ฟุตบอล สื่อของฝรั่งเศส ตีข่าว บาร์เซโลน่า สนใจดึง ดาวิด อลาบา แบ็กซ้าย บาเยิร์น ไปร่วมทีม เพื่อที่จะให้เป็นตัวแทนระยะยาวของ จอร์ดี้ อัลบา โดยฝั่ง “เสือใต้” ก็เพิ่งได้ ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ ไปร่วมทีมหมาดๆ จนอาจจะทำให้ยอมปล่อย อลาบา เหมือนกัน
บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการ ลา ลีกา สเปน สนใจที่จะเดินเรื่องคว้าตัว ดาวิด อลาบา แบ็กซ้ายคนเก่งของ บาเยิร์น มิวนิค ไปร่วมทัพ ตามรายงานของ ฟร้องซ์ ฟุตบอล สื่อชื่อดังของประเทศฝรั่งเศส

ตอนนี้แบ็กซ้ายเบอร์ 1 ของ บาร์เซโลน่า ได้แก่ จอร์ดี้ อัลบา อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่เจ้าตัวมีอายุ 30 ปีเข้าไปแล้ว มันก็ทำให้ “อาซูลกราน่า” เริ่มมองหาแบ็กซ้ายคนใหม่ เพื่อที่จะเอามาเป็นตัวแทนระยะยาวของ อัลบา

กระทั่งล่าสุด ฟร้องซ์ ฟุตบอล ก็แฉว่า อัลบา คือเป้าหมายที่ บาร์เซโลน่า เล็งเอาไว้ หลังจากที่ดาวเตะชาวออสเตรียทำผลงานได้ดีกับ บาเยิร์น มาโดยตลอด ซึ่งการที่ “เสือใต้” ได้ตัว ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ ไปร่วมทัพ มันก็อาจจะทำให้ บาเยิร์น ยอมใจอ่อนปล่อย อลาบา มากขึ้น เนื่องจาก แอร์กน็องเดซ เล่นได้ทั้งแบ็กซ้ายและเซนเตอร์แบ็ก

นอกจาก บาร์เซโลน่า แล้วนั้น อาร์เซน่อล ก็เป็นอีก 1 ทีมที่ก่อนหน้านี้ตกเป็นข่าวกับ อลาบา โดยแข้งวัย 26 ปีเคยบอกว่าเป็นแฟนบอลของ “ไอ้ปืนใหญ่” ในสมัยที่ยังเป็นเด็กด้วย

แมนยูสะดุ้ง!เปิด3แข้งเป้าหมายบาร์เซโลน่า

บาร์เซโลน่า อยากได้มาร่วมทีม โดยมีชื่อแข้ง “ปีศาจแดง” ติดอยู่ในนั้นด้วย
มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็น 1 ใน 3 นักเตะเป้าหมายที่ บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก ลา ลีกา สเปน เล็งดึงมาเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์นี้ ตามรายงานจาก มุนโด เดปอร์ติโบ สื่อแดนกระทิงดุ เมื่อวันอังคารที่ 26 มีนาคม ที่ผ่านมา

บาร์ซ่า ต้องการได้ดาวยิงคนใหม่มาแทน หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัย ที่เวลานี้มีอายุ 32 ปีแล้ว และมองว่า แรชฟอร์ด น่าจะเป็นตัวตายตัวแทนที่เหมาะสม เพราะนอกจากฝีเท้าเยี่ยมแล้วนั้น ยังเพิ่งมีอายุแค่ 21 ปีเท่านั้นอีกด้วย

ส่วนนักเตะอีก 2 คนที่ บาร์เซโลน่า เล็งไว้ก็คือ อ็องตวน กรีซมันน์ กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส ของ แอตเลติโก มาดริด และ ลูก้า โยวิช ดาวยิงฟอร์มร้อนแรงของ ไอน์ทรัคท์ แฟร้งเฟิร์ต ที่ทำประตูใน บุนเดสลีกา ฤดูกาลนี้ ไปแล้ว 15 ลูก

อย่างไรก็ตาม คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่ “ปีศาจแดง” จะยอมปล่อย แรชฟอร์ด ออกจากถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และคาดว่าเตรียมจับต่อสัญญาในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะทำให้ดาวยิงทีมชาติอังกฤษ ได้ค่าเหนื่อยเพิ่มจาก 45,000 ปอนด์ (ประมาณ 1.85 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ เป็น 150,000 ปอนด์ (ประมาณ 6.15 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์