Design a site like this with WordPress.com
เริ่มได้

น่าลองทำจริง ๆ สำหรับ ขนมโคกะทิสดไส้มันม่วง ประยุกต์จากตำรับปักษ์ใต้ที่คุ้นเคย แป้งนุ่มเคี้ยวเพลินราดน้ำกะทิหอมกลิ่นงาคั่ว

ส่วนผสม ไส้มันม่วง
มันม่วงนึ่งสุก 320 กรัม
กะทิ 150 กรัม
น้ำตาลทราย 100 กรัม

ส่วนผสม ขนมโค
แป้งข้าวเหนียว 150 กรัม (สำหรับทำแป้ง 2 สี)
น้ำดอกอัญชัน 90 มิลลิลิตร
น้ำเปล่า 90 มิลลิลิตร

ส่วนผสม กะทิสด
กะทิ 350 กรัม
เกลือ 1/4 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 80 กรัม
งาขาวหรืองาดำคั่ว

วิธีทำ
ทำไส้มันม่วงโดยนำมันม่วงปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้นแล้วนำไปนึ่งจนสุก หลังจากสุกนำมาบดให้ละเอียด
เติมน้ำตาลทราย และกะทิลงไป คนให้เข้ากัน
เทใส่กระทะ กวนให้แห้ง
พักให้เย็น แล้วปั้นเป็นก้อนกลม และคั่วงาให้หอม
ทำแป้งขนมโดยแบ่งแป้งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกผสมแป้งและน้ำอัญชัน นวดให้แป้งนิ่มพร้อมปั้นก้อน อีกส่วนหนึ่งผสมแป้งและน้ำเปล่า นวดให้แป้งนิ่มพร้อมปั้นก้อน
ปั้นแป้งเป็นก้อนแล้วกดให้แบน ใส่ไส้มันม่วงแล้วห่อไม่ให้แป้งแตกเห็นไส้
ทำกะทิสดโดยต้มน้ำกะทิ ใส่น้ำตาลทรายกับเกลือลงไป ต้มด้วยไฟอ่อนจนน้ำตาลละลายแล้วปิดไฟ
ต้มขนมโดยนำน้ำเปล่าใส่หม้อ ต้มจนเดือด แล้วใส่แป้งที่ปั้นไว้ต้มให้สุก สังเกตว่าถ้าแป้งลอยแสดงว่าสุกแล้ว ให้ตักใส่หม้อกะทิ
ตักเสิร์ฟ โรยงา อีกหนึ่งเมนูขนมหวานที่มีความนุ่มและหอมหวานที่กำลังพอดี เกือบกลืนลงไปเลยก็ว่าได้ วันนี้ทางเรามีสูตรมาแจกให้ วิธีทำก็ไม่ยาก รับรองเลยว่าอร่อยไม่แพ้สูอื่นแน่นอน

พิสูจน์มาแล้วว่าเด็ดจริง ตื่นเช้ามานั่งปั้น บัวลอยแก้วฟักทอง กันเถอะ แป้งเหนียวนุ่มสีสวยแบบธรรมชาติ ราดกะทิใบเตยกลิ่นหอม ถ้าอยากใส่เครื่องเคราเพิ่มก็จัดไป ! บอกเลยว่าแค่ถ้วยเดียวไม่อิ่มหรอกนะ

ส่วนผสม บัวลอยแก้วฟักทอง
แป้งมัน 270 กรัม
ฟักทอง 300 กรัม
น้ำร้อน 1/2 ถ้วย

ส่วนผสม น้ำกะทิ
หัวกะทิ 250 มิลลิลิตร
น้ำตาลทราย 140 กรัม
เกลือ 1/2 ช้อนชา
น้ำเปล่า 250 มิลลิลิตร
ใบเตย

วิธีทำ
ทำบัวลอยแก้วฟักทองโดยนำฟักทองมาปอกเปลือก ล้างให้สะอาดแล้วหั่นเป็นลูกเต๋า นำไปนึ่งแล้วบดให้ละเอียด และนำแป้งมันใส่ลงชามผสม ใส่ฟักทองที่บดเสร็จแล้วลงไป นวดฟักทองและแป้งให้เข้ากัน ค่อย ๆ ทยอยใส่น้ำร้อนลงไป นวดจนแป้งและเนื้อฟักทองเป็นเนื้อเดียวกัน หลังจากนั้นใช้แป้งมันทำเป็นแป้งนวลทาลงบนเขียง และโรยลงในถาดเพื่อใช้สำหรับวางตัวบัวลอยไม่ให้ติดถาด นำแป้งบัวลอยที่นวดแล้วคลึงเป็นเส้นยาว ๆ ตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ คลุกเม็ดบัวลอยด้วยแป้งนวล พักไว้ ตั้งน้ำให้เดือด หลังจากน้ำเดือดให้นำแป้งลงไปต้ม ​ รอจนแป้งลอยสักครู่จึงตักขึ้นใส่ลงในน้ำเย็น หลังจากนั้นเตรียมในส่วนของกะทิ ให้นำหัวกะทิกับใบเตยใส่ลงหม้อ ตามด้วยน้ำตาลทราย เกลือ และน้ำเปล่า ตั้งไฟ หลังจากกะทิเริ่มเดือดขอบหม้อ ให้ใส่เม็ดบัวลอยลงไป แล้วปิดไฟ ตักเสิร์ฟ อีกหนึ่งเมนูของหวานไทยที่อร่อยหอมหวานมาก สามารถทำได้ง่ายมาก บอกเลยว่างานนี้ใครรองแล้วก็ติดใจอย่างแน่นอน

ซู้ดน้ำลายรัว ๆ กับเมนู ยำหอยแครงพริกเผา ใส่เครื่องเคราสมุนไพรจัดเต็ม เคี้ยวหนุบหนับไม่คาว ปรุงรสเผ็ดจัดจ้าน แกล้มผักสดกรอบ ๆ ยิ่งอร่อย

ส่วนผสม
หอยแครง 1 กิโลกรัม
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
มะนาว 2 ลูก
น้ำปลา
น้ำพริกเผา
พริกสดซอย 5-10 เม็ด
กระเทียม
ตะไคร้ซอย
หอมแดงซอย
ใบสะระแหน่

วิธีทำ
เอาหอยแครงไปลวกประมาณ 1-2 นาทีหรือจนสุกตามชอบ เสร็จแล้วเอามาแช่น้ำเย็นเพื่อหยุดความสุก แกะเอาแต่เนื้อ
ทำน้ำยำโดยใส่น้ำตาลทราย มะนาว น้ำพริกเผา และน้ำปลา คนจนน้ำตาลละลาย ใส่พริกซอย กระเทียม ตะไคร้ และหอมแดง คนให้เข้ากัน
ใส่หอยลวกลงไป คลุกเคล้าจนเข้ากัน สุดท้ายใส่ใบสะระแหน่ คลุกเคล้าพอเข้ากัน ตักเสิร์ฟ เป็นยำหอยแครงที่รสจัดจ้านอย่างมาก หอมกลิ่นสมุนไพรมาก ซู้ดน้ำลายรัวๆ เคี้ยวหนุบหนับไม่คาว แกล้มผักสดกรอบ ยิ่งอร่อยมาก

ผัดผักจานนี้แทบไม่ต้องเคี้ยวเลยเพราะนิ่มมาก ขอนำเสนอเมนู ผัดบวบใส่ไข่ จะใช้ไข่ไก่เหมือนในสูตรหรือใช้ไข่เป็ดก็ได้นะคะ พอผัดจนบวบนิ่มและไข่สุกก็อย่ารอช้า ตักมาโปะข้าวร้อน ๆ เลยจ้า

ส่วนผสม
บวบอ่อน 1 ลูก
กระเทียม 5-6 กลีบ
ไข่ไก่ 2 ฟอง
น้ำเปล่าเล็กน้อย
น้ำตาลทราย (ปรุงรส)
​ ซีอิ๊วขาว (ปรุงรส)
น้ำมันพืช (สำหรับผัด)

วิธีทำ
ปอกเปลือกบวบออกแล้วหั่นเป็นท่อนเฉียงสั้น ๆ ล้างให้สะอาด พักให้สะเด็ดน้ำ
ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน ใส่กระเทียมลงเจียวให้หอม ตามด้วยบวบ เติมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย พอบวบใกล้สุก ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและน้ำตาลทราย
ใช้ทัพพีเกลี่ยบวบไปข้างกระทะ ตอกไข่ใส่ลงไป ยีไข่ให้แตกตัว จากนั้นตักบวบลงมาไว้บนไข่ ผัดจนไข่สุก ตักใส่จาน เป็นอีกหนึ่งเมนูสำหรับคนที่กำลังรักษาสุขภาพอยู่ตอนนี้ สามารถทำทานได้ง่ายมาก ไม่ยาก ยิ่งทานกับข้าวสวยร้อนๆอยิ่งเข้ากันมากๆ

เข้าคิวมื้อเที่ยงนี้ได้เลยสำหรับเมนูปลาเก๋านึ่งมะนาว เนื้อนุ่มย่อยง่ายกับน้ำยำสุดจี๊ด จะกินกี่ชิ้นก็จัดไป ไม่อิ่มก็ทำเพิ่ม ถ้าของสดเหลือก็เอาไว้ทำวันหลังก็ได้นะ

ส่วนผสม ปลาเก๋านึ่งมะนาว
ปลาเก๋า หั่นเป็นท่อนเล็ก ๆ 3 ชิ้น
ขิงอ่อนซอย ปริมาณตามชอบ
ขึ้นฉ่ายหั่นยาว 1+1/2 นิ้ว
กระเทียมกลีบใหญ่ซอย (สำหรับโรยหน้า)
พริกขี้หนูซอย (สำหรับโรยหน้า)

ส่วนผสม น้ำราด
เกลือป่น 1 ช้อนชา
น้ำปลา 1 ทัพพี
ซอสปรุงรส หรือซีอิ๊วขาว 1/2 ทัพพี
น้ำตาลทราย 1/2 ทัพพี หรือน้ำเชื่อมประมาณ 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 2 ทัพพี
กระเทียมกลีบใหญ่ (ซอยหนาบางตามชอบ)
พริกขี้หนูซอย

วิธีทำ
นำปลาเก๋าขอดเกล็ด ควักไส้ออก ตัดครีบหั่นเป็นท่อน แอนเลือกใช้ท่อนกลาง ๆ เก็บหัวและหางไว้ทำต้มยำหรือจะทำเป็นน้ำข้าวต้มปลามื้ออื่น ๆ ค่ะ
ระหว่างรอปลาสุกมาทำน้ำสำหรับราดโดยผสมเกลือป่น น้ำปลา ซอสปรุงรส น้ำเชื่อมหรือน้ำตาลทรายหรือน้ำตาลปี๊บ คนจนน้ำตาลละลาย เติมพริกซอยกับกระเทียมซอยเล็กน้อยลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน
เมื่อปลาสุกนำน้ำราดที่เตรียมไว้เทลงบนเนื้อปลา โรยหน้าด้วยขิงซอย พริกซอย และขึ้นฉ่ายที่เหลือ นึ่งต่ออีก 10 นาที
ปิดไฟยกลง จัดเสิร์ฟ เพียงเท่านี้ก็ได้ปลานึ่งมะนาวจี๊ดจ๊าดตามรสที่เราชอบละค่ะ เป็นอีกหนึ่งเมนูที่อร่อยอย่างมาก หอมหอมของกลิ่นสมุนไพรต่างๆ ความหวานของเนื้อ ยิ่งเข้ากันอย่างมาก วันนี้ทางเรามีสูตรเด็ดๆมาแนะนำทำหรับใครที่อยากจะลองกินของแซ่บๆแบบนี้ก็สามารถทำได้ไม่ยากอย่างที่คิด

หวานฉ่ำเต็มคำกับขนม ทองหยิบ สูตรขนมไทย ทำจากไข่แดงล้วน ๆ หยิบเป็นกลีบสวยงาม อร่อยล้ำกินเพลิน

ส่วนผสม
ไข่แดงของไข่เป็ด 4 ฟอง
น้ำเปล่า 3 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1+1/2 ถ้วย

วิธีทำ
เติมน้ำและน้ำตาลทรายลงในกระทะทองเหลือง นำไปตั้งไฟอ่อน คนจนละลาย ปิดไฟ พักทิ้งไว้จนเย็นแล้วนำไปกรองด้วยผ้าขาวบาง
เทน้ำเชื่อมลงในกระทะทองเหลือง ใช้ไฟกลางพอน้ำเชื่อมร้อน แต่ไม่ให้เดือดพล่าน
ตีผสมไข่แดงจนขึ้นฟู ตักหยอดลงในน้ำเชื่อม พอสุกทั้งสองด้านตักขึ้น พักไว้ให้เย็นแล้วจับจีบให้สวยงาม วางใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ เป็นอีกหนึ่งขนมหวานไทย ที่หอมหวานอร่อยอย่างมาก วันนี้ทางเราได้มีสูตรมานำแนะให้ทุกคนที่ชอบทานของหวาน สามารถทำเองได้ที่ได้บ้าน

มื้อเช้าอิ่มอุ่นท้องไปกับเมนู ข้าวต้มปลาเก๋า สูตรใส่น้ำซุปกระดูกหมู เพิ่มความหอมจากข่าอ่อน พอต้มจนข้าวสุกนุ่มก็ตักใส่ถ้วย โรยกระเทียมเจียวและขึ้นฉ่าย

ส่วนผสม
น้ำซุปกระดูกหมู 1,200 มิลลิลิตร
ข่าอ่อนหั่นเป็นแว่นบาง 3 ช้อนโต๊ะ
เห็ดหอม (แช่น้ำจนนิ่ม) 100 กรัม
ซีอิ๊วขาว 4 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น 2 ช้อนชา
เนื้อปลาเก๋า (หั่นเป็นชิ้นลวกสุก) 10 ชิ้น
ข้าวหอมมะลิหุงสุก 300 กรัม
ข่าแก่ตำละเอียด
กระเทียมเจียว
ใบขึ้นฉ่ายซอย

วิธีทำ
ต้มน้ำซุปกระดูกหมูกับข่าอ่อนจนเดือด ใส่เห็ดหอม ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย และพริกไทยป่น ลดไฟลง ต้มจนน้ำซุปเดือด เตรียมไว้
ตั้งน้ำในหม้ออีกใบจนเดือด ใส่ข้าวหอมมะลิลงต้มในน้ำเดือดจนนุ่ม ตักใส่ถ้วย วางปลาเก๋าลวก ตักน้ำซุปกระดูกหมูใส่ โรยข่าตำละเอียด กระเทียมเจียว และขึ้นฉ่าย กินขณะร้อน ๆ กับน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว อีกหนึ่งเมนูที่ดีต่อสุขภาพ ยิ่งกินตอนเช้าๆยิ่งรู้สึกดีมากๆ บอกเลยว่าฟินเวอร์

แจกฟรี ! วิธีทำ ขนมโก๋ไส้ถั่ว สูตรขนมไทยไหว้เจ้าเทศกาลตรุษจีน ความหมายมงคล อร่อยหอมหวานมาพร้อมวิธีทำไส้ถั่วกวน

ส่วนผสม ขนมโก๋ (ป้าใช้พิมพ์ขนมไหว้พระจันทร์ 100 กรัม)
แป้งขนมโก๋ 300 กรัม (หรือแป้งข้าวเหนียว เอาไปผัดไฟอ่อนจนแป้งสุก)
น้ำตาลไอซิ่ง 360 มิลลิลิตร
น้ำร้อน 100 กรัม

หมายเหตุ :
สามารถเพิ่มเนยขาวไปอีก 30 กรัมค่ะ
ถ้าไม่อยากนวดนานก็นำไปปั่นได้เลยค่ะ

ส่วนผสม ไส้ถั่วกวน
ถั่วเขียวเราะเปลือก 250 กรัม
น้ำตาลทราย 230 กรัม
เกลือ 1/4 ช้อนชา
น้ำมันพืช 1/2 ถ้วยตวง

วิธีทำ
นำถั่วเขียวเราะเปลือกล้างน้ำให้สะอาดแล้วแช่ไว้ประมาณ 5 ชั่วโมง
นำถั่วไปนึ่งจนสุก
นำถั่วมาบดให้ละเอียด
ใส่ถั่วลงไปในกระทะ ตามด้วยน้ำตาลทราย เกลือป่น และน้ำมันพืช กวนด้วยไฟอ่อนจนเริ่มงวด และถั่วร่อนจากกระทะ จากนั้นพักให้เย็นลง

วิธีทำขนมโก๋
ผสมน้ำร้อนกับน้ำตาลไอซิ่ง คนให้เข้ากัน พักจนเย็นลง
เทใส่ในแป้งขนมโก๋ เอามืดนวดเคล้าจนเข้ากัน
จากนั้นก็นำไปร่อนให้เนื้อขนมละเอียดขึ้น
เตรียมไส้ ปั้นเป็นลูกกลม ๆ
ตักขนมโก๋ลงไปประมาณเกือบครึ่งพิมพ์แล้วกดให้แน่น จากนั้นแผ่ไว้ให้เป็นแผ่นวงกลม วางลงไปแล้วกดให้แน่น ตักแป้งลงไปจนเต็มแล้วกดให้แน่น
กดพิมพ์ลงไปเลยค่ะ
เสร็จแล้วจ้าง่ายมาก ๆ เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ไม่ว่าใครๆก็สามารถทำได้ง่านมาก อร่อยแบบฟินเวอร์ เป็นสูตรต้นตำหรับด้วยอยากให้มาลองทำกันจ้าาา

รับขนมหวานไทยสักถ้วยหน่อยไหม ? เมนู ซ่าหริ่ม เส้นเหนียวนุ่มหลากสีมาพร้อมน้ำเชื่อมกะทิกลิ่นหอม โปะน้ำแข็งหน่อยอร่อยสดชื่น

ส่วนผสม เส้นซ่าหริ่มสีเขียว
แป้งถั่วเขียว หรือแป้งซ่าหริ่ม 1 ถ้วย
น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น 4 ถ้วย
น้ำเย็น
ส่วนผสม เส้นซาหริ่มสีชมพู
แป้งถั่วเขียว หรือแป้งซ่าหริ่ม 1 ถ้วย
น้ำหวานสีแดง หรือสีผสมอาหารสีชมพู
น้ำลอยดอกมะลิ 4 ถ้วย
น้ำเย็น
ส่วนผสม เส้นซ่าหริ่มสีขาว
แป้งถั่วเขียว หรือแป้งซ่าหริ่ม 1 ถ้วย
น้ำลอยดอกมะลิ 4 ถ้วย
น้ำเย็น
ส่วนผสม น้ำเชื่อมกะทิ
น้ำตาลทราย 2 ถ้วย
น้ำลอยดอกมะลิ 1 ถ้วย
กะทิ 2 ถ้วย
เกลือเล็กน้อย
อุปกรณ์
ที่กดซ่าหริ่ม

วิธีทำน้ำลอยดอกมะลิ
ล้างดอกมะลิให้สะอาด ใส่ดอกมะลิลงในน้ำแล้วปิดฝาไว้ข้ามคืน เวลาจะใช้ก็ช้อนดอกมะลิออกก่อน
วิธีทำซ่าหริ่มสีเขียว
ใส่แป้งถั่วเขียวลงในกระทะ ตั้งไฟปานกลาง ใส่น้ำใบเตยลงไป กวนจนแป้งสุกใส
ตักแป้งใส่กระบอกกด กดแป้งให้เป็นเส้นยาวลงในน้ำเย็น พักไว้ประมาณ 5-10 นาที ตักเส้นที่ได้ผึ่งในกระชอน
หมายเหตุ : กวนแป้งกวนไปทางเดียวกันจะทำให้แป้งเหนียวนุ่ม ไม่เละ
วิธีทำซ่าหริ่มสีชมพู
ผสมแป้งกับน้ำลอยดอกมะลิ เติมน้ำหวานลงไป กวนจนแป้งสุกใส
ตักแป้งใส่กระบอกกด กดแป้งให้เป็นเส้นยาวลงในน้ำเย็น พักไว้ประมาณ 5-10 นาที ตักเส้นที่ได้ผึ่งในกระชอน
วิธีทำซ่าหริ่มสีขาว
ผสมแป้งกับน้ำลอยดอกมะลิ นำไปกวนจนแป้งสุกใส
ตักแป้งใส่กระบอกกด กดแป้งให้เป็นเส้นยาวลงในน้ำเย็น พักไว้ประมาณ 5-10 นาที ตักเส้นที่ได้ผึ่งในกระชอน
วิธีทำน้ำเชื่อมกะทิ
ใส่น้ำตาลกับน้ำลอยดอกมะลิในกระทะใช้ไฟกลาง คนจนละลายและเดือด แล้วลดไฟลง เคี่ยวต่อจนเป็นฟองเล็ก ๆ และข้นเหนียว
ใส่กะทิผสมเกลือลงไป คนให้เข้ากัน ปิดไฟ พักไว้จนเย็น
ตักเส้นซ่าหริ่มหลากสีใส่ถ้วย เติมน้ำเชื่อมกะทิ โปะน้ำแข็ง พร้อมเสิร์ฟ เป็นอีกหนึ่งเมนูที่สามารถทำได้ง่ายมาก แถมยังอร่อยอีกด้วย หอมหวานมาก