หมวดหมู่: สมุนไพรไทย

ต้นมะพร้าว ( coconut ) มีชื่อภาษาอังกฤษ ว่า Coconut มะพร้าวมีชื่อเรียก อื่นๆอาทิเช่น ดุง เฮ็ดดุง โพล คอส่า พร้าว หมากอุ๋น เป็นชื่อเรียกที่ใช้เรียกมะพร้าวไม่เหมือนกันในแต่ละท้องถิ่นของเมืองไทย เราจะพบว่าพวกเรานำ มะพร้าว มาบริโภค น้ำ และเนื้อของมะพร้าว แต่ว่าเนื้อมะพร้าวนี้มีความมันสูง พวกเรามีการนำเนื้อมะพร้าวแก่ มาคั้นทำน้ำกะทิ วัตถุดิบหลักของของกินไทย ( Thai Food ) แบบอย่าง ของกิน เมนูกะทิ (Coconut Milk Receipt) ในส่วนของเนื้อมะพร้าวอ่อนพวกเรานิยมเอามาบริโภคกันใหม่ๆ

มะพร้าวกับสังคมไทย
มะพร้าวมีความหมายกับความเชื่อของสังคมไทย มั่นใจว่าการปลูกมะพร้าวไว้ทางทิศตะวันออกของบ้าน จะผลักดันให้ร่มเย็นเป็นสุข ส่วนด้านพิธีทางศาสนา นำมะพร้าวอ่อน เป็นเครื่องเซ่น บวงสรวง ด้วยเหตุว่ามั่นใจว่ามะพร้าวเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ น้ำมะพร้าวใช้ล้างหน้าล้างตาศพ เพราะว่าน้ำมะพร้าวเป็นน้ำที่บริสุทธิ์ ทำให้ผู้เสียชีวิตเดินทางไปยังโลกภูเขาไม่หน้าได้อย่างมีความสุข

มะพร้าวหมายถึงผลไม้ รวมทั้ง สมุนไพร ที่อยู่คู่กับสังคมไทยมาเป็นเวลายาวนาน ต้นมะพร้าวถูกประยุกต์ใช้คุณประโยชน์จำนวนมาก เอามาทำครัว เป็นยารักษาโรค เครื่องใช้สอยต่างๆคุณประโยชน์ของมะพร้าว มี ช่วยขับเยี่ยว ช่วยขับพิษภายในร่างกาย ช่วยรักษาแผล บำรุงผิว แก้ท้องร่วง แก้ท้องเสีย แก้เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว ห้ามเลือด รักษาโรคกระเนื่องจากว่า แก้คลื่นไส้ แก้ปวดเอ็น แก้ปวดข้อ รักษาโรคผิวหนัง บำรุงผิวหนัง บำรุงสมอง รักษาโรคในช่องปาก แก้เจ็บปาก แก้ปวดฟัน แก้นิ่ว ป้องกันโรคสมองเสื่อม ดับกระหาย รักษาแผล

รูปแบบของต้นมะพร้าว
ต้นมะพร้าว เป็นไม้ยืนต้นความสูงราว 20 เมตร คร่าวๆ ลำต้นกลม เปลือกของมะพร้าวแข็ง สีเทา ตะปุ่มตะป่ำ ลักษณะใบเป็นแบบขน รูปพัด ยาว 80 เซนติเมตรคร่าวๆ ขอบของใบเรียบ สีเขียว มะพร้าวออกตอกเป็นช่อกิ้งก้านที่ซอกใบ ผลของมะพร้าวมีสีเขียว รวมทั้งผลแก่จะมีสีน้ำตาล เนื้อมะพร้าวจะมีสีขาว มีน้ำในผลมะพร้าว

ค่าทางโภชนาการของมะพร้าว
ผู้เชี่ยวชาญด้านการโภชนาการได้เรียนรู้คุณประโยชน์ทางของกินของ เนื้อมะพร้าวแล้วก็น้ำมะพร้าว โดยจากการเล่าเรียนค่าทางโภชนาการของมะพร้าว มีดังนี้
ค่าทางโภชนาการของเนื้อมะพร้าว ขนาด 100 กรัม ให้ พลังงาน 1,480 กิโลแคลอรี มีสารสำคัญมี คาร์โบไฮเดรต 24.23 กรัม น้ำตาล 6.23 กรัม กากใยอาหาร 9 กรัม ไขมัน 33.49 กรัม โปรตีน 3.33 กรัม วิตามินบี 1 0.66 มก. วิตามินบี 2 0.02 มก. วิตามินบี 3 0.54 มก. วิตามินบี 5 1.014 มก. วิตามินบี 6 0.05 มก. วิตามินซี 3.3 มก. ธาตุแคลเซียม 14 มก. ธาตุเหล็ก 2.43 มก. ธาตุแมกนีเซียม 32 มก. ธาตุฟอสฟอรัส 113 มก. ธาตุโพแทสเซียม 356 มก. แล้วก็ ธาตุสังกะสี 1.1 มก.

ส่วน น้ำมะพร้าว ขนาด 100 กรัม ผู้รู้และเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการโภชนาการพบว่า ให้พลังงาน 79 กิโลแคลอรี มีสารอาหารสำคัญ มี คาร์โบไฮเดรต 3.71 กรัม น้ำตาล 2.61 กรัม กากใยอาหาร 1.1 กรัม ไขมัน 0.2 กรัม โปรตีน 0.72 กรัม วิตามินบี 1 0.03 มก. วิตามินบี 2 0.057 มก. วิตามินบี 3 0.08 มก. วิตามินบี 6 0.032 มก. วิตามินซี 2.4 มก. ธาตุแคลเซียม 24 มก. ธาตุเหล็ก 0.29 มก. ธาตุแมกนีเซียม 25 มก. ธาตุฟอสฟอรัส 20 มก. ธาตุโพแทสเซียม 250 มก. รวมทั้งธาตุสังกะสี 0.1 มก.

คุณประโยชน์ของมะพร้าว
คุณประโยชน์ทางด้านสมุนไพรไทยของมะพร้าว พวกเราสามารถนำมะพร้าวมาใช้ประโยชน์ ได้ ตั้งแต่ เปลือก กะลา น้ำมะพร้าว เนื้อมะพร้าว ราก แล้วก็ เปลือกของต้นมะพร้าว
เปลือกของลูกมะพร้าว จะมีรสฝาดและก็ขม สามารถประยุกต์ใช้ห้ามเลือด แก้ปวด รักษาโรคกระเพาะ รวมทั้งแก้อ้วก
กะลา พวกเรานำกะลามาใช้สำหรับเพื่อการ แก้ปวดเอ็น รวมทั้ง แก้ปวดกระดูก นำกะลามาเผาถ่านแล้วก็รับประทาน ช่วยแก้ท้องร่วง แล้วก็ดูดพิษภายในร่างกายได้ น้ำมันที่ได้จากการเผากะลา สามารถเอามาทาแผล รักษาโรคผิวหนัง รักษากลากเกลื่อน อุดฟัน แก้ปวดฟัน
เนื้อมะพร้าว พวกเรานำเนื้อมพร้าวมาบริโภค ให้คุณประโยชน์บำรุงร่างกาย ช่วยขับพยาธิ ช่วยบำรุงรักษาสมอง ป้องกันโรคสมองเสื่อม เนื้อมะพร้าวสามารถนำมาเคี้ยวเอาน้ำมันจากมะพร้าว เอามาทาผิว ช่วยรักษาแผล แล้วก็ แก้โรคผิวหนัง ทาแก้เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวตามข้อรวมทั้งเอ็น
น้ำมะพร้าว พวกเราเอามาบริโภค ช่วยแก้หิว นอกเหนือจากนี้น้ำมะพร้าวยังสามารถ แก้พิษ แก้การคลื่นไส้เป็นเลือด แก้ท้องร่วง ช่วยขับฉี่ แก้นิ่ว ช่วยขับของเสีย ช่วยรักษาแผล บำรุงผิว ทำให้ผิวกระชับ
รากของมะพร้าว สามารถเอามาต้ม รวมทั้งดื่ม ช่วยขับปัสสาวะ แก้ท้องเดิน รวมทั้งอมรักษาอาการปากเจ็บ
เปลือกของต้นมะพร้าว เอามาเผาแล้วทาแก้หิด และก็เอามาสีฟัน ช่วยแก้ปวดฟัน
มะพร้าว คือผลไม้ คุณลักษณะเด่นๆเป็น สามารถประยุกต์ใช้ทำเป็นคุณประโยชน์ ไม่ว่าจะทำเป็นของคาวหวาน เพื่อบำรุงสุขภาพ แล้วก็ รักษาโรคต่างๆรวมถึงการสร้างน้ำมันที่ทำจากมะพร้าว น้ำกะทิ น้ำตาล แล้วก็ยังทำสิ่งประดิษฐ์ต่างๆได้มากมาย

โทษของมะพร้าว
ในการใช้ประโยชน์จากมะพร้าว สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเหมาะควร แต่ว่าการกินอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำกะทิ ถ้าเกิดกินน้ำกะทิมากเกินความจำเป็น หรือ กินในจำนวนมากและก็ต่อเนื่องกัน จะมีผลให้มีการสะสมของไขมันภายในร่างกาย ทำให้เป็นโรคเกี่ยวกับเส้นเลือด แล้วก็ หัวใจได้

มะพร้าวหมายถึงพืชพื้นบ้าน สามารถใช้ประโยชน์ได้มากมาย ตั้งแต่ ใบมะพร้าว ผลมะพร้าว รูปแบบของมะพร้าวเป็นยังไง ค่าทางโภชนาการของมะพร้าว คุณประโยชน์ของมะพร้าว เป็นต้นว่า บำรุงผิวพรรณ แก้กระหาย โทษของมะพร้าว มีอะไรบ้าง

ต้นเตย หรือที่เรียกกันว่า เตยหอม มีชื่อภาษาอังกฤษ ว่า Pandan leaves ชื่อวิทยาศาสตร์ของเตยหมายถึง Pandanus amaryllifolius Roxb. ชื่อเรียกอื่นๆของเตยนั้น อาทิเช่น ใบส้มม่า ส้มตะเลงเครง ส้มปู ส้มพอดิบพอดี ผักเก็งเค็ง ต้นลำเจียก เตยทะเลลำ ฯลฯ

เตยในสังคมไทย
พืชที่อยู่คู่ครัวไทย หนีไม่พ้น หนึ่งในในั้นเป็นใบเตยหอม เพราะว่าอาหารไทยนิยมใช้ใบเตยมาเตรียมอาหาร โดยการนำมาแต่งกลิ่นรวมทั้งสีของของกิน ใบเตยจะให้สีเขียวแบบธรรมชาติ การปลูกใบเตยก็เลยมีอยู่ทั่วๆไปในทุกบ้านของสังคมไทย ปัจจุบันนี้ เตยเป็นพืชเศรษฐกิจของเมืองไทย มีการส่งออกใบเตยแบบอย่างใบแช่แข็งในหลายประเทศทั้งโลกที่มีชุมชนคนไทยอาศัยอยู่

ประเภทของเตย
สำหรับต้นเตยนั้น มี 2 ประเภทเป็นเตยหนาม แล้วก็ เตยไม่มีหนาม โดยเนื้อหาดังต่อไปนี้
เตยหนาม เรียกว่า ต้นลำเจียก เตยทะเลลำ ซึ่ง ต้นเตยจะออกดอก และดอกมีกลิ่นหอมยวนใจ เตยหนามนั้นไม่นิยมนำใบมาปรุงอาหาร แล้วก็นิยมประยุกต์ใช้ทำเครื่องหัตถกรรม
เตยไม่มีหนาม เรียกว่า เตย หรือ เตยหอม ซึ่งรูปแบบของลำต้นจะเล็ก ไร้ดอก นิยมประยุกต์ใช้ทำกับข้าว หรือ ทำของหวาน
รูปแบบของต้นเตย

เตย เป็นไม้ยืนต้น มีพุ่มเล็ก ลักษณะเป็นกอ ลำต้นของเตยอยู่ใต้ดิน ลักษณะใบเป็นใบเดี่ยว ใบเป็นทางยาว สีเขียวเข้ม มัน ขอบใบเรียบมีกลิ่นหอมหวน ซึ่งใบของเตย พวกเราสามารถเอามาทำสีผสมอาหาร ให้สีเขียวได้

คุณประโยชน์ทางของกินของเตย
ผู้รู้และเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการโภชนาการได้เรียนรู้ ค่าทางโภชนาการของใบเตยหอม ขนาด 100 กรัม พบว่าให้พลังงาน 35 กิโลแคลลอรี่ มีสารอาหารสำคัญ ประกอบด้วย เบต้าแคโรทีน 3 ไมโครกรัม วิตามินซี 8 มก. วิตามินบี 2 0.2 มก. วิตามินบี 3 1.2 มก. ธาตุแคลเซียม 124 มก. ธาตุเหล็ก 0.1 มก. ธาตุฟอสฟอรัส 27 มก. คาร์โบไฮเดรต 4.6 กรัมและก็โปรตีน 1.9 กรัม

ใบเตย นั้นจะมีน้ำมันหอมระเหย และก็สารให้สีเขียว ซึ่งในน้ำมันหอมระเหย นั้นประกอบไปด้วยสารหลากหลายประเภท อาทิเช่น เบนซิลแอซีเทต (benzyl acetate) รวมทั้งแอลคาลอยด์ (alkaloid) (Fatihanim et.al.,2008) ลินาลิลแอซีเทต (linalyl acetate ) ลินาโลออล (linalool) และก็พบรานิออล (geraniol) รวมทั้งสารที่ทำให้ มีกลิ่นหอมสดชื่น เป็นคูมาริน (coumarin) รวมทั้งเอทิลวานิลลิน (ethyl vanillin)

คุณประโยชน์ของเตย
เตย พวกเรานำสามารถเอามาทำเป็นสมุนไพร เพื่อคุณประโยชน์การบำรุงร่างกายและก็การดูแลรักษาโรค ได้อีกทั้งราก และก็ ใบ ซึ่งเนื้อหาดังต่อไปนี้
ใบเตย มีคุณประโยชน์ บำรุงหัวใจ และก็ช่วยลดการกระหายน้ำ มีกลิ่นหอมหวน เมื่อนำไปต้มน้ำ ดื่มจะรู้สึกชุ่มคอ และก็ให้ความสดใหม่ นิยมเอามาน้ำผสมกับขนมไทยโบราณ ใหเกลิ่นหอมแล้วก็มีสีเขียว
รากเตย มีคุณประโยชน์ ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ ลดน้ำตาลในเลือด
โทษของเตย

การบริโภคเตยให้ไม่เป็นอันตรายสูง ไม่มีข้อมูลด้านการแพทย์กล่าวว่าการบริโภคใบเตยเป็นอันตราย แต่ว่าพืชทุกประเภทจำเป็นที่จะต้องใช้อย่างเหมาะควรรวมทั้งถูกต้อง การกินใบใหม่ๆเอามาบดกิน กลิ่นที่หอมของใบเตย อาจจะส่งผลให้เกิดอาหารคลื่นไส้ได้ โดยการใช้คุณประโยชน์จากใบเตย จำเป็นต้องนำไปต้มเพื่อได้กลิ่นหอม หรือ การนำเอาใบเตยมาบดอย่างละเอียด และก็ คั้นเอาน้ำสีเขียวจากใบเตยมาใช้ประโยชน์สำหรับในการกิน

ใบเตย ( Pandan leaves ) สมุนไพร กลิ่นหอมสดชื่น สีเขียว รูปแบบของต้นเตย เป็นยังไง คุณประโยชน์ของใบเตย ช่วยขับเยี่ยว บำรุงหัวใจ รักษาโรคเบาหวาน ใบเตย นิยมเอามาประกอบ ของกิน ให้กลิ่นหอมยวนใจ และก็ สีเขียว

ต้นอัญชัน ( Butterfly pea) ชื่อวิทยาศาสตร์ของอัญชันหมายถึงClitore ternatea Linn พืชสมุนไพร คุณประโยชน์และก็คุณประโยชน์ของอัญชัน ขับปัสสาวะ บำรุงรักษาผม ยาระบาย แก้อาการคลื้นไส้ อาเจียน บำรุงความสวยงาม ทำเครื่องสำอางค์ สีผสมอาหาร สีม่วง ดอกอัญชัน คุณประโยชน์ชั้นยอดเยี่ยม บำรุงสายตา และก็ช่วยทำให้ผมดกดำ มาทำความรู้จักกับอัญชันกันให้มากยิ่งขึ้น คุณประโยช์จากดอกอัญชันมีอะไรบ้าง

ต้นอัญชัน เป็นพืชผัก สมุนไพรจำพวกไม้เลื้อย มีถิ่นเกิดในแถบทวีปเอเชีย เขตร้อน แล้วก็มีการแพร่พันธ์ไปในแอฟริกา ประเทศออสเตรเลีย แล้วก็อเมริกา อัญชัน เป็นประโยชน์หลายด้าน คุณประโยชน์ของอัญชัน ใช้ขับปัสสาวะ บำรุงเส้นผม รวมทั้งเป็นยาระบายอ่อนๆแก้อาการคลื้นไส้ คลื่นไส้ ใช้บำรุงความสวย ใช้ทำเครื่องสำอางค์ ให้สีผสมอาหาร สีม่วง ดอกไม้สีม่วง ที่คุณประโยชน์มากมาย

อัญชัญ ภาษาอังกฤษ เรียก Butterfly pea ชื่อวิทยาศาสตร์ ของอัญชัน เรียก Clitore ternatea Linn ชื่ออื่นๆของอัญชัน อาทิเช่น แดงชัน เอื้องชัน เองชัญ ชื่อเรียกของอัญชัญจะเรียกต่างกันตามแต่ละท้องถิ่น อัญชันในวรรณคดี ในยุคเก่าหญิงสาวมักนำอัญชันมาเขียนขนคิ้วให้ดำขลับ ซึ่ง นิราศธารโศก รวมทั้ง มหาชาติคำหลวง

ลักษณะของต้นอัญชัน
อัญชัน เป็น ไม้เลื้อย สามารถปลูกตามรั้วบ้าน หรือปลูกเป็นซุ้ม สวยสดงดงาม ลำต้นของอัญชันจะมีขนนุ่ม ส่วนใบของอัญชัญจะเป็นช่อ ลักษณะใบจะเป็นรูปไข่ อัญชันที่เจอมีอยู่ 2 ประเภทเป็นจำพวกอัญชันดอกขาวกับอัญชันดอกสีน้ำเงิน รวมทั้งจำพวกประเภททาง อัญชัญจำพวกนี้จะมีสีม่วง ซึ่งมีสาเหตุจากการผสมระหว่างสีขาวกับสีน้ำเงิน

ลำต้น อัญชันเป็นไม้เลื้อยเนื้ออ่อน อายุสั้น ใช้ยอดเลื้อยพัน ลำต้นมีขนปกคลุม
ใบอัญชัน ใบประกอบแบบขน เรียงตรงกันข้ามยาว 6-12 ซม. มีใบย่อยรูปไข่ 5-7ใบ กว้าง 2-3 ซม. ยาว 3-5 ซม. ปลายใบแหลม โคนใบมน ผิวใบข้างล่างมีขนดกปกคลุม
ดอกอัญชัน ดอกสีขาว ฟ้า รวมทั้งม่วง ดอกออกคนเดียวๆทรงเหมือนฝาหอยเชลล์ออกเป็นคู่ตามซอกใบ กลีบดอกไม้ 5 กลีบ ดอกบานเต็มกำลังยาว 2.5-3.5 ซม.กลีบคลุมรูปกลม ปลายเว้าเป็นแอ่ง กึ่งกลางมีสีเหลือง มีอีกทั้งดอกซ้อนและก็ดอกลา ดอกชั้นเดี่ยวกลีบขั้นนอกมีขนาดใหญ่กลางกลีบสีเหลือง ส่วนกลีบชั้นในขนาดเล็กแต่ว่าดอกซ้อนกลีบดอกมีขนาดเสมอกัน ซ้อนเวียนเป็นเกลียว มีดอกเกือบจะทั้งปี
ผลอัญชัน ผลแห้งแตก เป็นฝักแบน กว้าง 1-1.5 ซม. ยาว 5-8 ซม. เม็ดรูปไต สีดำ มี 5-10 เม็ด
คุณประโยชน์ของอัญชัน

อัญชัญสามารถเอามาทำเครื่องแต่งตัวรวมทั้งเอามาทำเป็นยา นิยมนำดอก เม็ด แล้วก็รากมาใช้ประโยชน์
ดอกอัญชัน นิยมเอามาทำยาสระผม ดอกอัญชันจะช่วยทำให้ ผมดกดำ ผมนุ่มสวย ดอกอัญชันเอามาคั้นให้สีม่วง สำหรับเพื่อการทำสีผสมอาหาร นิยมเอามาผสมขนมไทยโบราณ ได้แก่ ของหวานช่อม่วง ของหวานเรไร ของหวานขี้หนู ของหวานน้ำดอกไม้ เอามาทำน้ำอัญชัน
เม็ดของอัญชัญ มีคุณประโยชน์เป็นยาระบาย แก้อาการคลื้นไส้ คลื่นไส้
รากของอัญชัญ มีรสขม ประยุกต์ใช้เป็นยาขับฉี่ และก็ทำยาระบาย แก้ลักษณะของการปวดฟัน ช่วยทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นสำหรับการแลเห็นให้ดีขึ้น
ใบของอัญชัน ช่วยขับฉี่ ช่วยบำรุงรักษาสายตาแล้วก็อาการตาแฉะได้

ข้อควรระวังสำหรับการบริโภคอัญชัน
ดอกอัญชัน ถ้าบริโภคมากเกิน จะมีผลให้ไตทำงานหนักขึ้น เนื่องจากว่าไตจะต้องกระทำขับสารสีของอัญชันออก และก็ผู้เจ็บป่วยที่มีภาวการณ์โลหิตจาง ไม่สมควรจะกินอัญชัน เพราะเหตุว่าดอกอัญชันมีฤทธิ์ละลายลิ่มเลือด จะทำให้เป็นอันตรายต่อคนเจ็บโลหิตจาง และไม่ควรจะกินน้ำสมุนไพรอัญชันในขณะอุณหภูมิร้อนมาก ด้วยเหตุว่าอาจก่อให้เยื่อบุผิวหลอดของกินเสียภาวะภูมิต้านทานได้ ทำให้ดูดซึมสารก่อโรคมะเร็งได้ง่าย

ข้อเสนอสำหรับในการใช้ประโยชน์ของอัญชัน
ควรจะดื่มโดยทันทีเมื่อทำเสร็จ เพื่อรักษาคุณประโยชน์ทางสารอาหารแล้วก็ยา
ไม่สมควรกินน้ำสมุนไพรในอุณหภูมิที่สูงซึ่งร้อนจัด หรือมีอุณหภูมิเกิน 60 องศาเซลเซียสขึ้นไป เพราะว่าอาจทำให้เยื่อบุผิวหลอดของกินเสียภาวะภูมิต้านทานได้ ทำให้ซึมซับสารก่อโรคมะเร็งรวมทั้งสารอื่นๆได้ง่าย
ไม่สมควรกินน้ำสมุนไพรอะไรก็ตามประเภทเดียวต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลาที่นานๆ ซึ่งบางทีอาจจะสำเร็จเสียต่อสุขภาพมากยิ่งกว่าผลในทางที่ดี
ถึงแม้ดอกอัญชันจะเป็นสมุนไพรชั้นเยี่ยม แม้กระนั้นก็มีโทษ หากว่าบริโภคเยอะเกินไป ไม่ชี้แนะให้กินน้ำอัญชันสีแก่เกินความจำเป็น เนื่องจากจะมีผลให้ไตทำงานมาก ผู้เจ็บป่วยโรคโลหิตจางก็ไม่สมควรกินน้ำอัญชัน หรือ ของกินจากดอกอัญชัน เพราะเหตุว่าในดอกอัญชันมีฤทธิ์ละลายลิ่มเลือด บางทีอาจมีอันตรายต่อสถาพทางร่างกาย

อัญชัน สมุนไพร สีม่วงผสมของกินจากดอกอัญชัน คุณประโยชน์ของอัญชัน ขับฉี่ บำรุงรักษาผม ยาระบาย แก้อาการคลื้นไส้ คลื่นไส้ บำรุงความสวยงาม ทำเครื่องสำอางค์ คุณประโยชน์ชั้นเยี่ยม บำรุงสายตา แล้วก็ช่วยทำให้ผมดกดำ มาทำความรู้จักกับอัญชันกันให้เพิ่มมากขึ้น ประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากดอกอัญชันมีอะไรบ้าง

ต้นมะขามป้อม ( Indian gooseberry ) ชื่อวิทยาศาสตร์ของมะขามป้อมหมายถึงPhyllanthus emblica L. ชื่อเรียกอื่นๆของมะขามป้อม ยกตัวอย่างเช่น กันโตด กำทวด มั่งทาง สันยาส่า หมากขามป้อม ฯลฯ มะขามป้อม จัดเป็นพืชประจำถิ่นของเมืองไทย พบบ่อยตามป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง รวมทั้ง ป่าดิบเขา ในทุกภาคของเมืองไทย พบได้ทั่วไปในภาคเหนือ และก็ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มะขามป้อมหมายถึงต้นไม้ประจำจังหวัดสระแก้ว ผลมะขามป้อม มีวิตามินซีสูงมาก เมื่อเทียบกับผลไม้ต่างๆผลมะขามป้อม 1 ลูก มีวิตามินซีสูงกว่าวิตามินซีสังเคราะห์ถึง 12 เท่า

รูปแบบของต้นมะขามป้อม
ต้นมะขามป้อม เป็นไม้ยืนต้น ขนาดเล็กแล้วก็ขนาดกึ่งกลาง สามารถขึ้นได้ดีในประเทศเขตร้อน นิยมกินผลสด คือผลไม้ มะขามป้อม สามารถขยายพันธ์ทางการเพาะเม็ด รูปแบบของต้นมะขามป้อม มีดังนี้
ลำต้นมะขามป้อม ลักษณะลำต้นตั้งชัน ความสูงราวๆ 10 เมตร ลำต้นมะขามป้อมแตกกิ่งก้านสาขา เป็นทรงพุ่มไม้ ลำต้นมีเปลือกสีน้ำตาล ผิวลำต้นเรียบ เปลือกลำต้นมะขามป้อมสามารถลอกเป็นแผ่นได้ เนื้อไม้มะขามป้อมออกจะเหนียว สีของเนื้อไม้มะขามป้อมมีสีแดงอมน้ำตาล
ใบมะขามป้อม ลักษณะเป็นใบประกอบ เหมือนใบมะขาม ใบมะขนาดเล็ก เป็นจำนวนมาก ใบสดมีสีเขียว ใบแก่มีสีแดงอ่อน ใบมีลักษณะเรียวรี ใบเรียบ ปลายใบมน
ดอกมะขามป้อม มีดอกเป็นกลุ่ม ออกเป็นดอกคนเดียว ดอกมะขามป้อมมีขนาดเล็ก สีขาวอมเหลือง มีดอกตามปลายกิ่ง
ผลมะขามป้อม ลักษณะทรงกลม แบน ผลอ่อนมีสีเขียว ผลสุกจะมีสีเขียวอมเหลือง เปลือกผลเรียบ มัน เนื้อผลอ่อน เปียกน้ำ ด้านในผลมีเม็ด ลักษณะแข็ง รสของผลมะขามป้อมเปรี้ยว และก็ ฝาดนิดหน่อย
คุณประโยชน์ทางโภชนาการของมะขามป้อม

สำหรับมะขามป้อมจะนำผลมะขามป้อมมาบริโภค ทั้งยังรูปแบบของผลมะขามป้อมสด แล้วก็ ผลมะขามป้อมแช่อิ่ม โดยค่าทางโภชนาการของมะขามป้อม มีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
ค่าทางโภชนาการของผลมะขามป้อมสด ขนาด 100 กรัม พบว่าให้พลังงาน 58 กิโลแคลอรี มีสารอาหารสำคัญมี น้ 84.10 กรัม ไขมัน 0.50 กรัม คาร์โบไฮเดรต 14.30 กรัม กากใยอาหาร 2.40 กรัม โปรตีน 0.70 กรัม ธาตุแคลเซียม 29 มก. ธาตุฟอสฟอรัส 21 มก. ธาตุเหล็ก 0.5 มก. และก็ วิตามินต่างๆตัวอย่างเช่น วิตามินเอ 100 หน่วยสากล วิตามินบี 10.03 มก. วิตามินบี 20.04 มก. ไนอะซิน 0.2 มก. แล้วก็ วิตามินซี 276 มก.

คุณประโยชน์ทางโภชนาการของมะขามป้อมแช่อิ่ม ขนาด 100 กรัม พบว่าให้พลังงาน 222 กิโลแคลอรี มีสารอาหารสำคัญ มี น้ำ 37.60 กรัม ไขมัน 0.60 กรัม คาร์โบไฮเดรต 59.80 กรัม กากใยอาหาร 1 กรัม โปรตีน 0.50 กรัม ธาตุแคลเซียม 39 มก. ธาตุฟอสฟอรัส 18 มก. ธาตุเหล็ก 1.2 มก. วิตามินต่างๆได้แก่ วิตามินบี 0.02 มก. ไนอะซิน 0.1 มก. แล้วก็ วิตามินซี 3 มก.

สารต่างๆในมะขามป้อม มีเยอะมากในทุกส่วนของมะขามป้อม ทั้ัง เนื้อผล เม็ด ผลสด ผลแห้ง เปลือกผล เปลือกลำต้น ใบมะขามป้อม กิ่งมะขามป้อม รวมทั้ง รากมะขามป้อม โดนเนื้อหา ดังต่อไปนี้
รากมะขามป้อม มี กรดเอลลาจิก รวมทั้ง สารลูพิออล
เปลือกลำต้น มี สารแทนนิน สารลูพิออล แล้วก็ สารลูวัว เดลฟินิดิน
ใบมะขามป้อม มี สารแทนนิน กรดมาลิก รวมทั้ง สารลูพิออล
กิ่งมะขามป้อม มี สารแทนนิน
เม็ดมะขามป้อม มีน้ำมันหอมระเหย ฟอสฟาไทด์
เนื้อมะขามป้อม มี น้ำ โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามินซี วิตามินบี3 สารแทนนิน กรดเพ็กทิน และก็ เกลือแร่ต่างๆ
คุณประโยชน์มะขามป้อม

การใช้ประโยชน์ที่ได้รับมาจากของมะขามป้อม ด้านการดูแลและรักษาโรคและก็การบำรุงร่างกาย สามารถใช้ประโยชน์จาก ใบมะขามป้อม ผลมะขามป้อม เม็ดมะขามป้อม รวมทั้ง เปลือกมะขามป้อม รายละเอียด ดังต่อไปนี้
ใบมะขามป้อม คุณประโยชน์บำรุงผิว ป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยขับสารพิษภายในร่างกาย เสริมสร้างภูมิต้านทานร่างกาย ช่วยคลายกล้าม แก้อยากดื่มน้ำ ลดเสลด ลดปริมาณน้ำตาลที่อยู่ภายในเลือด บำรุงเหงือกและก็ฟัน ป้องกันเลือดไหลตามไรฟัน รักษาแผลในปาก ช่วยขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยขยายหลอดลม รักษาอาการหอบหืด รักษาแผลไฟลุก รักษาโรคตาแดง
ผลมะขามป้อม คุณประโยชน์บำรุงผิว คุ้มครองป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยขับฉี่ ช่วยขับสารพิษภายในร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกาย ช่วยคลายกล้ามเนื้อ แก้อยากกินน้ำ ลดเสลด ลดปริมาณน้ำตาลที่อยู่ภายในเลือด บำรุงเหงือกรวมทั้งฟัน ป้องกันเลือดไหลตามไรฟัน รักษาแผลในปาก ช่วยขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยขยายหลอดลม รักษาอาการหอบหืด รักษาแผลไฟไหม้ รักษาโรคตาแดง
เม็ดของมะขามป้อม มีน้ำมันหอมระเหย คุณประโยชน์ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ
เปลือกลำต้น และก็ แก่นไม้ของต้นมะขามป้อม คุณประโยชน์แก้ของกินเป็นพิษ ช่วยขับปัสสาวะ และก็ รักษาดรคผิวหนัง
โทษของมะขามป้อม

สำหรับเพื่อการกินมะขามป้อม หรือ การใช้ผลดีจากมะขามป้อม ด้านการบำรุงร่างกาย แล้วก็ การดูแลและรักษาดรค มีข้อควรคำนึง ดังนี้
มะขามป้อมมีฤทธิ์เย็น เมื่อรับประทานเข้าไปจะก่อให้อุณหภูมิภายในร่างกายน้อยลง การกินมะขามป้อมจำเป็นต้องกินในจำนวนที่สมควร
มะขามป้อม อาจจะเป็นผลให้เกิดภาวะเลือดไหลไม่ปกติ สำหรับคนเจ็บที่มีแผนการผ่าตัดควรจะงดรับประทานมะขามป้อม อย่างต่ำ 2 อาทิตย์
มะขามป้อมมีรสเปรี้ยว สำหรับผู้ที่เจ็บป่วยโรคระบบทางเดินอาหาร หรือ ผ่าตัดในท้อง ควรจะงดเว้นการกินมะขามป้อม ควรจะรับประทานอาหารเบาๆรสจืดๆ
มะขามป้อม หรือ มะขามประเทศอินเดีย ผลไม้ ที่มีวิตามินซีสูง รูปแบบของต้นมะขามป้อม เป็นยังไง คุณประโยชน์ทางโภชนาการของมะขามป้อม คุณประโยชน์ของมะขามป้อม อาทิเช่น บำรุงร่างกาย บำรุงผิวพรรณ ขับปัสสาวะ ฯลฯ โทษของมะขามป้อม มีอะไรบ้าง

ยี่หร่า เป็น สมุนไพรท้องถิ่น มีชื่อเรียกภาษาอังกฤษ ว่า Tree Basil ยี่หร่า มีชื่อวิทยาศาสตร์ ว่า Ocimum gratissimum L. ยี่หร่าเป็นพืชตระกูลเดียวกันกับกระเพรารวมทั้งผักชี สำหรับชื่อเรียกอื่นๆของยี่หร่า อาทิเช่น ใบกะเพราญวณ จันทร์หอม เนียม จันทร์ขี้ไก่ เนียมต้น สะหลีดี หอมป้อม โหระพาช้าง ใบกะเพราควาย หร่า เทียนขาว ฯลฯ

ต้นยี่หร่า เป็นอีกหนึ่ง สมุนไพร ที่นิยมนำมาใช้ประกอบอาหารกิน คุณประโยชน์เด่นของยี่หร่า ช่วยขับลม แก้ท้องเฟ้อ ท้องอืดท้องเฟ้อ บำรุงระบบประสาท บำรุงผิวพรรณ ช่วยในการย่อยของกิน ขับเสลด มีฤทธิ์เผ็ดร้อน วันนี้พวกเราจะมาทำความรู้จักกับยี่หร่า กัน

ยี่หร่าในสังคมไทย
ยี่หร่า เป็น พืชที่มีความสัมพันธ์กับสังคมไทยมาเป็นเวลายาวนาน ในกาบเห่เรือ ยังมีบทหนึ่ง “แกงมัสมั่น หอมยี่หร่า รสเร่าร้อน ชายใดได้กลืนแกง แรงต้องการให้ใฝ่ฝันหา” ยี่หร่าเป็นไม้ล้มลุก มีกลิ่นฉุน รสเผ็ด ซึ่งในใบของยี่หร่า จะมีน้ำมันหอมระเหยประเภทหนึ่ง เรียกว่า น้ำมันยี่หร่า เอามาเป็นวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมความสวยงาม ทำเครื่องหอม น้ำหอม ทำเครื่องดื่ม

ถิ่นกำเนิดของยี่หร่า
ถิ่นกำเนิดของยี่หร่า นั้นอยู่ในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ประเทศอินเดีย และก็จีน การนำเอายี่หร่ามาใช้ประโยชน์จำนวนมาก อาทิเช่น ใช้เป็นเครื่องปรุงของกิน ช่วยดับคาว หลังจากนั้นสัตว์ ช่วยสำหรับเพื่อการรักษาอาหาร จำพวกเนื้อสัตว์ ช่วยคุ้มครองปกป้องไม่ให้อาหารเน่า และก็น้ำมันหอมระเหยของยี่หร่า ใช้แต่งกลิ่นของกิน รวมทั้งใช้แต่งกลิ่นน้ำหอมต่างๆได้อีกด้วย

ต้นยี่หร่า
ต้นยี่หร่า เป็นไม้ชนิดล้มล้ก เป็นไม้พุ่ม เพาะพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเม็ด แล้วก็การปักชำกิ่ง เจริญเติบโตได้ดีในดินที่ร่วนซุยแล้วก็มีความชุ่มชื้นปานกลาง อาการระบายได้สบาย ถูกใจอยู่กลางแจ้ง

ลำต้นของยี่หร่า มีความสูงไม่เกิน 80 ซม. รูปแบบของลำต้นยี่หร่า มีสีน้ำตาล แตกกิ่งก้านสาขา กิ่งไม่ใหญ่
ใบยี่หร่า มีลักษณะเป็นใบเดี่ยวออกตรงข้ามกันเป็นคู่ๆตามกิ่งก้าน ใบเป็นรูปกลมรี ปลายใบแหลม ขอบใบเป็นหยัก สีเขียวสด ผิวใบสากๆมีกลิ่นหอมยวนใจ
ดอกของยี่หร่า จะออกรอบๆปลายยอด มีลักษณะเป็นช่อ โดยแต่ละช่อจะประกอบไปด้วยดอกย่อยขนาดเล็กเป็นจำนวนมาก
ผลของยี่หร่าหรือเมล็ดของยี่หร่า คือตัวเดียวกัน ผลของยี่หร่า มีลักษณะเป็นทรงกลม ขนาดเล็ก ผลอ่อนจะมีสีเขียว รวมทั้งผลแก่ จะกลายเป็นสีสีดำหรือสีน้ำตาล

ค่าทางโภชนาการของยี่หร่า
ผู้เชี่ยวชาญด้านการโภชนาการได้ศึกษาค้นคว้า คุณประโยชน์ทางของกินของใบยี่หร่า ขนาด 100 กรัม พบว่า ในใบยี่หร่า 100 กรัม นั้น มี กากใยอาหาร 26.8 กรัม มีแร่ธาตุต่างๆได้แก่ ไขมัน 0.6 กรัม โปรตีน 14.5 กรัม วิตามินบี1 0.10 มก. วิตามินบี2 0.25 มก. วิตามินบี3 0.62 มก. วิตามินซี 0 มก. ธาตุแคลเซียม 2 มก. ธาตุฟอสฟอรัส 215 มก.
แล้วก็ธาตุเหล็ก 25.5 มก.

คุณประโยชน์ของยี่หร่า
ยี่หร่าในทางสมุนไพรรวมทั้งการดูแลรักษาโรค นั้น สามารถใช้ได้ทุกส่วน ของยี่หร่า ตั้งแต่ ต้น ใบ ราก ผล ซึ่งเนื้อหาของคุณประโยชน์ของยี่หร่า มีดังนี้
รากยี่หร่า สามารถช่วยกระตุ้นระบบที่ทำหน้าที่ย่อยอาหาร ช่วยแก้อาการท้องอืด ท้องอืดท้องเฟ้อ ลักษณะของการปวดท้อง ช่วยขับลมในไส้
ต้นยี่หร่า สามารถช่วยกระตุ้นระบบที่ทำการย่อยอาหาร ช่วยแก้อาการท้องอืด ท้องอืดท้องเฟ้อ ลักษณะของการปวดท้อง ช่วยขับลมในไส้
ผลของยี่หร่า สามารถช่วยฆ่าเชื้อโรคจุลชีพ
ใบยี่หร่า สามารถช่วยปกป้องโรคมะเร็ง ช่วยขับเหงื่อ ช่วยขัยของเสียออกมาจากร่างกาย แก้คลื้นไส้คลื่นไส้ แก้ท้องขึ้น ขับลม ช่วยเจริญอาหาร ช่วยลดลักษณะของการปวดระดู
โทษของยี่หร่า

สำหรับผู้ที่มีลักษณะแพ้ยี่หร่า อาจมีอาการเคืองร่างกาย เกิดผื่นคัน แม้พบว่ามีลักษณะอาการแพ้ให้หยุดกินในทันที
ยี่หร่า ( Tree Basil ) สมุนไพร รสเผ็ด คุณประโยชน์ทางของกินของใบยี่หร่า คุณประโยชน์ของยี่หร่า ประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากยี่หร่า ช่วยขับลม บำรุงระบบประสาท บำรุงผิวพรรณ ต้นยี่หร่าเป็นเยี่ยงไร ชื่ออื่นๆของยี่หร่า ยี่หร่านำมาเป็นวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมความสวยงาม ทำเครื่องหอม น้ำหอม และก็ เครื่องดื่ม

ว่านหางจระเข้ ( Aloe ) ชื่อทางด้านวิทยาศาสตร์ของว่านหางจระเข้หมายถึงAloe barbadenisi Mill. รูปแบบของต้นว่านหางจระเข้ โทษของว่านหางจรเข้ คุณประโยชน์ของว่านหางจระเข้ ชื่ออื่นๆของว่านหางจระเข้ อาทิเช่น ว่านไฟไหม้ หางจระเข้ สมุนไพร คุณประโยชน์ของว่านหางจระเข้ อาทิเช่น รักษาแผล บำรุงผิว รักษาแผลในกระเพาะอาหาร และก็ บำรุงเส้นผม ว่านหางจระเข้ นิยมประยุกต์ใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับการทำเครื่องสำอางค์ สำหรับบำรุงผิว

ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera)หมายถึงพืชประเภทหนึ่งที่ถูกจัดอยู่ในชนิดไม้ล้มลุก สีเขียว มีลักษณะลำต้นเป็นข้อบ้อง ใบผู้เดียว ใบดกยาวรวมทั้งโคนใบใหญ่ ปลายแหลม ขอบของใบมีหนามห่างกันเป็นระยะ เรียงเป็นชั้น ภายในใบเป็นวุ้นใสสีเขียวอ่อน มีเมือกเหนียว สามารถมีดอกสีแดงอมเหลืองที่ปลายยอดได้ มีบ้านเกิดมาจากแถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและก็ตอนใต้ของทวีปแอฟริกา สามารถปลูกได้ง่ายในดินปนทราย หรือในกระถางก็ได้ เป็นพืชถูกใจน้ำ แต่ว่าควรมีทางระบายน้ำเจริญ ป้องกันไม่ให้อมน้ำมากจนเกินไปจนกระทั่งรากเน่า

รูปแบบของต้นว่านหางจระเข้

ต้นว่านหางจระเข้ เป็น ไม้ล้มลุก ความสูงโดยประมาณ 30 ซ.ม ลักษณะเป็นข้อและข้อสั้น ใบของว่านหางจระเข้ เป็น ใบเดี่ยว ยาว อวบน้ำ มีสีเขียวอ่อน ภายในใบมีวุ้นใส ดอกว่านหางจระเข้ จะเป็นช่อออกตรงกลางต้น ดอกย่อยของว่านหางจระเข้ เป็นหลอดห้อยลง จะมีสีส้ม

คุณประโยชน์ของว่านหางจระเข้

การใช้คุณประโยชน์จากว่านหางจระเข้ ด้านการบำรุงร่างกายรวมทั้งการดูแลรักษาโรค พวกเราจะใช้น้ำยางที่ใบของว่านหางจระเข้มาใช้ ซึ่ง การใช้ว่านหางจระเข้ ทางสมุนไพร มีดังนี้

นำว่านหางจระเข้มารักษาแผลไฟไหม รวมทั้งน้ำร้อนลวก โดย ใช้น้ำยางมาทาผิวของแผล ช่วยรักษาแผล รวมทั้งรักษาแผลได้
การดูแลรักษาสิว โดยใช้ยางว่านหางจระเข้ทาหน้า รักษาสิวให้แห้งและก็หลุดง่าย
บำรุงรักษาผมรวมทั้งหนังหัว โดยใช้ยางว่านหางจระเข้ มาเป็นส่วนประกอบของแชมพู ทำให้ ลดอาการคันหนังหัว ไม่มีรังแค
นำว่านหางจระเข้มารับประทาน ใช้รักษาแผลในกระเพาะ
ผลิตภัณฑ์จากว่านหางจระเข้

เมื่อคุณประโยชน์ของว่านหางจระเข้มีอยู่จำนวนมากรอบด้านขนาดนี้ ผลิตภัณฑ์ต่างๆที่เกิดขึ้นมาจากว่านหางจระเข้ก็ย่อมจะต้องทยอยออกมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ตอนนี้ก็เลยมีผลิตภัณฑ์ที่ถูกดัดแปลงจากว่านหางจระเข้อยู่หลากหลาย ดังต่อไปนี้

เจลว่านหางจระเข้ คุณประโยชน์ ใช้ทาเพื่อลดอาการบวม เป็นครีมทาใต้ตา บำรุงผิวหน้า เพิ่มความชุ่มชื้น ใช้ผสมกับส่วนประกอบต่างๆพอกหน้าแทนวุ้นว่านหางจระเข้ได้ อีกทั้งใช้ทาแผลพุพอง แผลสด เพื่อทุเลาลักษณะของการปวดแสบปวดร้อนได้อีกด้วย เหมาะกับคนที่พึ่งผ่านการยิงเลเซอร์ รวมทั้งมีรอยคราบไหม้แดงบนบริเวณใบหน้า จะมีผลให้บรรทาอาการลงแล้วก็ฟื้นเร็วขึ้น
ครีมว่านหางจระเข้ ก็มีคุณประโยชน์เดียวกันกับเจลว่านหางจระเข้ แตกต่างที่เนื้อสินค้า ที่มีส่วนผสมของมอยส์พบไรเซอร์เข้มข้นกว่า บางทีอาจไม่เหมาะสมกับคนที่มีหน้ามัน เนื่องจากเนื้อครีมจะให้ความรู้ความเข้าใจสึกหนักกว่าเนื้อเจล แต่ว่าค่อนข้างจะเหมาะสมกับคนที่มีหน้าแห้ง เพราะว่าจะให้ความชื้นที่มากกว่า
ดังนี้นอกเหนือจากเจลว่านหางจระเข้และก็ครีมว่านหางจระเข้แบบทั่วๆไปแล้ว ยังถูกต่อยอดออกไปเป็นเจลล้างหน้าล้างตาว่านหางจระเข้ เจลและก็ครีมว่านหางจระเข้แบบผสมสารป้องกันแสงแดด นอกจากนั้นยังมีน้ำว่านหางจระเข้สำหรับดื่มอีกด้วย โดยคุณประโยชน์ไม่ได้แตกต่างจากว่านหางจระเข้สดมากสักเท่าไรนัก

คำแนะนำสำหรับการใช้ว่านหางจระเข้

การเลือกใช้ใบจากต้นว่านหางจระเข้ควรจะเลือกต้นที่แก่มากยิ่งกว่า 1 ขึ้นไป แล้วก็ให้เลือกใบด้านล่างสุดเพราะเหตุว่าจะเจ้าเนื้อโตรวมทั้งมีวุ้นมากยิ่งกว่าใบที่อยู่ข้างบน
เพราะวุ้นของว่านหางจระเข้ไม่มีฤทธิ์สำหรับการฆ่าเชื้อโรค ด้วยเหตุนี้หากเป็นได้ควรจะปอกโดยใช้เคล็ดลับไม่มีเชื้อโรค Aseptic technique เพื่อปกป้องการติดเชื้อ
การนำวุ้นมาใช้เพื่อรักษาแผลต้องล้างน้ำให้สะอาด เพื่อป้องกันน้ำยางจากเปลือกที่มีสารแอนทราควิโนน (Anthraquinone) ด้วยเหตุว่าอาจทำให้กำเนิดอาการแพ้ได้
ว่านหางจระเข้จะมีคุณภาพสูงสุดเมื่อตัดมาแล้วก็ใช้โดยทันที รวมทั้งจะมีคุณประโยชน์ทางยาที่ดียิ่งกว่าผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป
วุ้นของว่านหางจระเข้จะไม่คงตัวเท่าใดนัก โดยเหตุนั้นถ้าหากปอกแล้วจะเก็บไว้ได้เพียงแค่ 6 ชั่วโมงแค่นั้น
ถ้านำว่านหางจระเข้ไปแช่ลงในตู้แช่เย็นจนกระทั่งเย็นก่อนจะมีการประยุกต์ใช้ จะช่วยให้รู้สึกแจ่มใสเย็นสบายเยอะขึ้นเรื่อยๆ
การใช้เพื่อใช้เป็นยาถ่าย ยาระบาย ไม่สมควรใช้กับหญิงท้องหรือหญิงที่กำลังเริ่มจะมีเมนส์ รวมถึงคนที่เป็นโรคริดสีดวงทวารด้วย
การใช้วุ้นจากใบเพื่อใช้เป็นยาทาภายนอก สำหรับบางรายแล้วอาจจะมีการเกิดอาการแพ้ได้ (จากงานค้นคว้าวิจัยพบว่าไม่ถึง 1%) โดยลักษณะของการเกิดอาการแพ้ภายหลังหรือปิดวุ้นลงบนผิวหนัง จะมีผลให้ผิวหนังเป็นผื่นแดงบางๆหรืออาจมีลักษณะของการเจ็บแสบด้วย โดยอาการจะแสดงหลังจากทาไปแล้วโดยประมาณ 2-3 นาที ถ้าหากคุณมีลักษณะอาการแพ้ข้างหลังการใช้วุ้นว่านหางจระเข้ ก็ให้รีบล้างออกโดยใช้น้ำสะอาด แล้วก็เลิกใช้ในทันที
ว่านหางจระเข้ ( Aloe ) รูปแบบของต้นว่านหางจระเข้ เป็นยังไง โทษของว่านหางจรเข้ คุณประโยชน์ของว่านหางจระเข้ ดังเช่น รักษาแผล บำรุงผิวพรรณ ชื่ออื่นๆของว่านหางจระเข้ ตัวอย่างเช่น ว่านไฟไหม้ หางจระเข้

สมอไทย ( Chebulic Myrobalans ) ชื่อวิทยาศาสตร์ของสมอไทย Terminalia chebula Retz. สำหรับชื่อเรียกอื่นๆของ สมอไทย อาทิเช่น หมากแน่ะ , ม่าแน่ , สมออัพยา, ลูกสมอ ฯลฯ ต้นสมอไทย เป็นพืชแคว้น ไม้ยืนต้นขนาดกึ่งกลาง มีคุณประโยชน์ทางยามากมาย โดยยิ่งไปกว่านั้น การขับสารพิษภายในร่างกาย

ฉายา ราชาสมุนไพรเป็นฉายาของสมอไทย ด้วยคุณประโยชน์พิเศษช่วยกำจัดพิษออกมาจากร่างกาย แล้วก็ สามารถรักษาโรคได้หลายโรค ที่สำคัญยังมี วิตามินรวมทั้งแร่ หลายประเภท อาทิเช่น วิตามินเอ วิตามินซี ธาตุแคลเซียม แล้วก็ ธาตุฟอสฟอรัส ต้นสมอไทยเป็นพืชท้องถิ่นในประเทศแถบทวีปเอเชียใต้ ผลสมอไทย ออกจะกลมในผลมีเม็ด สมอไทย สามารถเอามาทำยาได้หลายส่วน ได้แก่ ใบ ดอก ผล เปลือกลำต้น ฯลฯ

ลักษณะของต้นสมอไทย
ต้นสมอไทย เป็นไม้พื้นบ้าน ไม้ยืนต้นขนาดกึ่งกลาง พบตามป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ป่าดงดิบแล้ง หรือ ตามท้องทุ่ง ที่สูงตั้งแต่ใกล้ระดับน้ำทะเลจนกระทั่ง ราวๆ 1000 เมตร สามารถขยายพันธ์ โดยการเพาะเม็ดพันธ์ มีระบบระเบียบรากแก้วแข็งแรง รูปแบบของต้นสมอไทย เป็นยังไง

ลำต้นสมอไทย ลักษณะลำต้นตั้งตรง ไม้เนื้อแข็ง ความสูงราวๆ 20 เมตร ผิวของเปลือกลำต้นขรุขระ สีเทา เนื้อข้างในเปลือกสีเหลืองอ่อน มีน้ำยางสีแดง
ใบสมอไทย ลักษณะเป็นเดี่ยว สีเขียว ลักษณะรีปลายใบแหลม ใบเหนียวเหมือนแผ่นหนัง ผิวใบเป็นมันเงา มีขนคล้ายไหม
ดอกสมอไทย ลักษณะดอกออกเป็นช่อ ดอกมีกลิ่นหอมหวนอ่อนๆกลีบดอกไม้สีขาวอมเหลือง ดอกสมอไทยออกตามซอกใบหรือปลายกิ่ง ดอกสมอไทยออกทุกเดือนม.ย.ถึงเดือนมิถุนายน ของทุกปี
ผลสมอไทย เติบโตมาจากดอกสมอไทย รูปแบบของผลกลมรี ผลอ่อนมีสีเขียว เปลือกของผลลักษณะมัน แข็ง ผิวเนียน ผลแก่สีเขียวอมเหลือง หรือ น้ำตาลทรายแดง ผลสมอไทย ออกราวก.ย.ถึงธ.ค.ของทุกปี
เม็ดสมอไทย ลักษณะรียาว อยู่ในผลสมอไทย เม็ดสมอไทยแข็ง ในหนึ่งผลมีหนึ่งเม็ด
คุณประโยชน์ทางโภชนาการของสมอไทย

ผลสมอไทย มีสารเคมีมากมาย ส่วนประกอบทางเคมีที่สำคัญของลูกสมอไทย มีสารเคมีน่าดึงดูด มี
กรดเอ็งลลิก ( gallic acid ) เป็นกรดที่มีคุณประโยชน์ช่วยต้านทานขบวนการออกซิเดชัน
สารกรุ๊ปฟิโนลิกส์ ( phenolics ) คืิอสารที่มีคุณลักษณะช่วยต้านทานเซลล์การเติบโตของโรคมะเร็ง เป็นต้นว่า กรดเคบูโลนิก ( chebulonic acid )
สารคอริลาจิน ( corilagin ) เป็นสารที่มีคุณประโยชน์ช่วยทุเลาอาหารเจ็บปวด
ยิ่งไปกว่านี้ในลูกสมอไทย ยังมีสารอื่นๆน่าดึงดูด อาทิเช่น terchebin glucogallin ellagic acid sennoside A chebulin catechol และก็ tannic acid

คุณประโยชน์ของสมอไทย
สำหรับในการใช้ประโยชน์จากสมอไทย ด้านการบำรุงร่างกายแล้วก็การดูแลรักษาโรค สามารถใช้ประโยชน์ได้จาก ผลสมอไทย เม็ดสมอไทย ใบ รวมทั้ง เปลือกของลำต้น คุณประโยชน์ของสมอไทย มีดังนี้

ผลและก็เม็ดสมอไทย มีรสเปรี้ยวอมฝาด คุณประโยชน์ช่วยการก้าวหน้าของกิน ช่วยขับเสลด แก้เจ็บคอ แก้ไอ รักษาแผลในปาก แผลร้อนใน รักษาอาการท้องเดิน แก้ท้องขึ้น ช่วยในการย่อยของกิน ช่วยขับลม เป็นยาระบาย ทุเลาโรคหอบหืด ช่วยขับพยาธิ บำรุงตับ บำรุงผิวพรรณ ช่วยขัดผิว ลดรอยหมองคล้ำ รักษากระ รักษาฟ้า ทำให้ผิวพรรณมองแจ่มใส ช่วยขับพิษ แก้อาการหน้ามืดหัว ลดอ้วก – ช่วยทำนุบำรุงกำลัง แก้อ่อนแรง แก้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ แก้ปวดตามข้อ ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ช่วยป้องกันโรคหัว ช่วยสำหรับการผ่อนคาย ลดอาการเครียด ทำให้นอนง่าย ช่วยรักษาโรคฟันผุ ช่วยทำให้รอบเดือนมาปกติ รักษาพิษแมลงสัตว์กัดต่อย
ใบสมอไทย คุณประโยชน์ช่วยแก้ท้องร่วง รักษาผื่นผื่นคัน ช่วยขับฉี่ บำรุงสายตา ช่วยห้ามเลือด รักษาแผลสด แก้อาการท้องอืด ช่วยขับพิษ บำรุงไต
เปลือกลำต้นแล้วก็แก่นไม้สมอไทย คุณประโยชน์แก้ท้องเสีย แก้ปวดท้อง ช่วยขับปัสสาวะ รักษาโรคผิวหนัง รักษาโรคเชื้อราที่ผิวหนัง
โทษของสมอไทย

จากการการศึกษาเล่าเรียนทางพิษวิทยาสมอไทย มีการทำทดลองการใช้สมอไทย กับหนู ซึ่งผลการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้ารวมทั้งการวิจัยเจอความเป็นพิษจากสมอไทย อย่างแจ่มแจ้ง แม้กระนั้นการใช้ผลดีจากสมอไทย จำเป็นต้องใช้ประโยชน์ในจำนวนที่สมควร ไม่ใช้เยอะเกินไป จะไม่นำไปสู่โทษ

สมุนไพรตรีผลา อ่านออกเสียงว่า ตรี-ผะ-ลา ประกอบด้วย พืชสมุนไพร 3 อย่างรวมกันเป็นผลแห้งสมอพิเภก , ผลแห้งสมอไทย , ผลมะขามป้อม คุณประโยชน์ช่วยขับพิษภายในร่างกาย สามารถเอามาทำเครื่องดื่มได้ โดย สูตรของสมุนไพรตรีผลาเป็นสมอพิเภก 100 กรัม สมอไทย 200 กรัม แล้วก็ มะขามป้อม 400 กรัม เอามาต้มน้ำ 6 ลิตร ต้มนาน 30 นาที หลังจากนั้นเพิ่มน้ำตาล 600 กรัมและก็เกลือ 1 ช้อนชา ต้มจนส่วนผสมเข้ากันได้ แล้วต่อจากนั้นเอามากรองให้สะอาด ใช้ดื่มตลอดเวลา เช้าตรู่ ตอนกลางวัน เย็น ตรีผลา คุณประโยชน์ช่วยขะจัดสารพิษตกค้างภายในร่างกาย ตำรับยาตรีผลา ใช้ได้ทุกเพศทุกวัย

คุณประโยชน์ของตรีผลา
สำหรับการใช้ตรีผลา สำหรับในการบำรุงร่างกายรวมทั้งรักษาโรค จะอยู่ในต้นแบบเครื่องดื่ม เอามาดื่ม เป็นเครื่องดื่ม เพื่อสุขภาพ โดยคุณประโยชน์ของตรีผลา มีดังนี้
ป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยต้านทานการเกิดเนื้องอก
คุณประโยชน์เป็นยาอายุวัฒนะ ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ต่างๆภายในร่างกาย ช่วยชะลอวัย
บำรุงผิวพรรณ ช่วยเพิ่มคอลลาเจน ทำให้ผิวพรรณแจ่มใส รักษาสิวอักเสบ
บำรุงร่างกาย ทำให้ร่างกายแจ่มใส แก้อาการร่างกายเมื่อยล้า
บำรุงเลือด ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนระบบเลือดภายในร่างกาย ควบคุมความดันเลือด ช่วยลดน้ำตาลที่อยู่ในเลือด ป้องกันเบาหวาน
ช่วยขับเสลด ป้องกันหวัด
บำรุงเส้นเสียง
ช่วยขับสารพิษตกค้างภายในร่างกาย ล้างน้ำเหลืองเสีย
ช่วยลดความอ้วน
ช่วยลดอาการข้อเข้าอักเสบ บรรเทาอาการของโรคเก๊าฑ์
โทษของตรีผลา

ในการใช้ประโยชน์ การกินตรีผลา จะต้องกินในปริมาณที่สมควร แล้วก็ ไม่รับประทานติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ โดยข้อควรไตร่ตรองสำหรับในการกินตรีผลา มีดังนี้
สิ่งที่ต้องระมัดระวังเป็นความสะอาดของสมุนไพร ที่เอามาทำ ตรีผลา ถ้าสมุนไพร มีการเจือปนเชื้อรา หรือ สิ่งสกปรกที่เป็นพิษต่อสภาพร่างกาย จะส่งผลเสียต่อร่างกายโดยตรง
สำหรับสตรีที่อยู่ในตอนมีระดู ไม่สมควรกินตรีผลา เพราะว่าจะมีผลให้เลือดไหลมากยิ่งขึ้น
สำหรับคนไข้โรคหัวใจ ไม่สมควรกินสมุนไพรตรีผลา
สำหรับ สมุนไพรตรีผลา ไม่สมควรกินติดต่อกันนานๆด้วยเหตุว่า บางทีอาจมีผลต่อร่างกายได้ การบำรุงร่างกายที่เยี่ยมที่สุดหมายถึงการทานอาหาร ที่มีสาระต่อสภาพร่างกาย พักให้พอเพียง รวมทั้ง บริหารร่างกายอย่างสม่ำเสมอ

ต้นทับทิม เป็น ผลไม้ ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิหร่าน แล้วก็ อัฟกานิสถาน ผลไม้ ประเภทนี้จะ ถูกใจอากาศหนาวเป็นพิเศษ ยิ่งหนาวมากแค่ไหน เนื้อทับทิมนั้นจะมีสีแดงเข้มเยอะขึ้นเรื่อยๆเท่านั้น แล้วก็ยังเป็นผลไม้มงคลของชาวจีนอีกด้วย เนื่องจากว่าทับทิมมีเม็ดมากมายก็เลยสื่อความหมายถึงการมีลูกชายมากมายๆด้วยนั่นเอง โดยกิ่งใบของทับทิมก็นำมาใช้ในพิธีการต่างๆที่มีน้ำมนต์สำหรับการประกอบพิธีหรือนำมาใช้พรมน้ำมนต์เพราะเชื่อว่ามีไว้ประจำตัวจะช่วยในหัวข้อการคุ้มครองจากอันตรายต่างๆได้ด้วย

ทับทิม เป็นผลไม้ ที่มีคุณประโยชน์ทางสมุนไพร ที่มีรสชาติหอมหวาน ทับทิม มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Punica granatum Linn ชื่ออื่นๆของทับทิม อาทิเช่น มะแก๊ะ มะก่องแก้ว พิลาขาว หมากลิง พิลา เจียะลิ้ว

คุณประโยชน์ทางโภชนาการของทับทิม
ทับทิม 100 กรัม มีพลังงาน 83 กิโลแคลอรี่ น้ำตาล 13.67 กรัม คาร์โบไฮเดรต 18.7 กรัม เส้นใย 4 กรัม โปรตีน 1.67 กรัม ไขมัน 1.17 กรัม วิตามินบี2 0.053 มก. วิตามินบี1 0.067 มก. วิตามินบี3 0.293 มก. วิตามินบี9 38 ไมโครกรัม วิตามินบี6 0.075 มก. วิตามินบี5 0.377 มก. โคลีน 7.6 มก. วิตามินซี 10.2 มก. วิตามินอี 0.6 มก. วิตามินเค 16.4 ไมโครกรัม แคลเซียม 10 มก. เหล็ก 0.3 มก. แมงกานีส 0.119 มก. แมกนีเซียม 12 มก.โพแทสเซียม 236 มก. ธาตุฟอสฟอรัส 36 มก. สังกะสี 0.35 มก. โซเดียม 3 มก.

รูปแบบของต้นทับทิม
ต้นทับทิม เป็นไม้ยืนต้น ขนาดเล็ก เปลือกลำต้นของทับทิมมีสีเทา กิ่งของทับทิมมีหนามแหลมยาว ใบของทับทิมมีลักษณะเป็นรูปยาวรี ปลายใบเรียวแหลมสั้น ผิวข้างหลังใบเป็นมัน ดอกของทับทิมออกเป็นช่อ สีส้ม สีขาว หรือสีแดง ผลของทับทิมมีลักษณะกลม ผิวเปลือกนอกหนา ผลของทับทิมเมื่อสุกเต็มที่จะมีสีเหลืองผสมแดง ด้านในผลของทับทิมจะมีเม็ดเยอะมากๆ เป็นรูปเหลี่ยม มีสีชมพูสด การขยายพันธุ์ ทับทิม สามารถขยายพันธุ์ด้วยการทำหมันกิ่ง หรือการใช้เม็ด

คุณประโยชน์ของทับทิม
สามารถใช้อีกทั้งส่วน เปลือกของลำต้น ใบ ดอก เปลือกผล เม็ดและก็เปลือกราก เนื้อหาของ คุณประโยชน์ของทับทิม มีดังนี้
ใบของทับทิม นำใบสดมาต้ม และก็กรองเอาน้ำใช้ล้างแผล ที่มีหนองเรื้อรังบนหัว หรือนำใบสอมาตำรวมทั้งพอกแผล
เปลือกของต้นทับทิม ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิได้ดี
เม็ดของทับทิม เอามาบดให้ละเอียด รับประทานเป็นยา รักษาโรคกระเพาะ บำรุงกระเพาะ ทำให้เจริญอาหาร และแก้ท้องเสีย
เปลือกรากของทับทิม ใช้เปลือกรากแห้ง มาต้มกิน เป็นยา แก้ตกขาว แท้งลูก ถ่ายพยาธิ หล่อลื่นลำไส้ แก้ท้องร่วง รวมทั้งโรคบิดเรื้อรัง
ดอกของทับทิม ใช้ดอกแห้งมาต้มกรองเอาน้ำ ดื่มเป็นยา แก้หูอักเสบ หรือใช้ทาแผลที่มีเลือด ช่วยห้ามเลือดได้ดี
เปลือกของผลทับทิม นำเปลือกแห้งมาบดให้ละเอียดหรือต้มน้ำดื่ม ใช้เป็นยา แก้ท้องร่วง บิดเรื้อรัง ถ่ายเป็นเลือด ถ่ายพยาธิตกขาว
ทับทิม ( Pomegranate ) ชื่อวิทยาศาสตร์ของทับทิมหมายถึงPunica granatum Linn พืชลมลุก นิยมกินผล สมุนไพร ประโยชน์ที่ได้รับมาจากทับทิม คุณประโยชน์ของทับทิม รักษาแผล ช่วยเจริญอาหาร แก้ท้องเสีย เป็นยาถ่ายพยาธิ แก้อาการท้องอืด ท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยขับลม รักษาโรคกระเพาะ รักษาลำไส้อักเสบ แก้ท้องร่วง แก้ท้องเสีย ทับทิม ต้นทับทิม แนวทางปลูก ใบทับทิม รูปแบบของแร่ทับทิม การขยายพันธุ์ ทับทิม ดอกทับทิม

ทับทิม ยังนับได้ว่าเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพ โดย ประโยชน์ซึ่งมาจากทับทิม แล้วก็ คุณประโยชน์ของทับทิม นั้นมีจำนวนมาก ด้วย ทับทิม นั้นเป็น ผลไม้ ที่มี รสหวานออกเปรี้ยว น้ำทับทิม ก็เลยมีวิตามินซีสูงรวมทั้งยังมี เกลือแร่ ต่างๆที่มีสาระต่อสุขภาพร่างกาย ก็เลยช่วยต้านทานอนุมูลอิสระได้อย่างดีเยี่ยม และก็นอกจากนั้นยังมีคุณประโยชน์เป็นยารักษาโรคได้อีกด้วย เป็นต้นว่า ทุเลาอาการโรคหัวใจ รักษาภาวะความดันโลหิตสูง ช่วยลดสถานการณ์การแข็งตัวขอเลือด รักษาโรคท้องเสีย โรคบิด ฯลฯ

ทับทิม ( Pomegranate ) พืชลมลุก สมุนไพร ประโยช์จากทับทิม สรรพคุณของทับทิม รักษาแผล ช่วยเจริญอาหาร แก้ท้องเดิน เป็นยาถ่ายพยาธิ แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ใบทับทิม ลักษณะของต้นทับทิม การขยายพันธุ์ มีอะไรบ้าง

ทับทิม เป็นผลไม้ ที่มีคุณประโยชน์ทางสมุนไพร ที่มีรสชาติหอมหวาน ทับทิม มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Punica granatum Linn ชื่ออื่นๆของทับทิม อาทิเช่น มะแก๊ะ มะก่องแก้ว พิลาขาว หมากลิง พิลา เจียะลิ้ว

คุณประโยชน์ทางโภชนาการของทับทิม
ทับทิม 100 กรัม มีพลังงาน 83 กิโลแคลอรี่ น้ำตาล 13.67 กรัม คาร์โบไฮเดรต 18.7 กรัม เส้นใย 4 กรัม โปรตีน 1.67 กรัม ไขมัน 1.17 กรัม วิตามินบี2 0.053 มก. วิตามินบี1 0.067 มก. วิตามินบี3 0.293 มก. วิตามินบี9 38 ไมโครกรัม วิตามินบี6 0.075 มก. วิตามินบี5 0.377 มก. โคลีน 7.6 มก. วิตามินซี 10.2 มก. วิตามินอี 0.6 มก. วิตามินเค 16.4 ไมโครกรัม แคลเซียม 10 มก. เหล็ก 0.3 มก. แมงกานีส 0.119 มก. แมกนีเซียม 12 มก.โพแทสเซียม 236 มก. ธาตุฟอสฟอรัส 36 มก. สังกะสี 0.35 มก. โซเดียม 3 มก.

รูปแบบของต้นทับทิม
ต้นทับทิม เป็นไม้ยืนต้น ขนาดเล็ก เปลือกลำต้นของทับทิมมีสีเทา กิ่งของทับทิมมีหนามแหลมยาว ใบของทับทิมมีลักษณะเป็นรูปยาวรี ปลายใบเรียวแหลมสั้น ผิวข้างหลังใบเป็นมัน ดอกของทับทิมออกเป็นช่อ สีส้ม สีขาว หรือสีแดง ผลของทับทิมมีลักษณะกลม ผิวเปลือกนอกหนา ผลของทับทิมเมื่อสุกเต็มที่จะมีสีเหลืองผสมแดง ด้านในผลของทับทิมจะมีเม็ดเยอะมากๆ เป็นรูปเหลี่ยม มีสีชมพูสด การขยายพันธุ์ ทับทิม สามารถขยายพันธุ์ด้วยการทำหมันกิ่ง หรือการใช้เม็ด

คุณประโยชน์ของทับทิม
สามารถใช้อีกทั้งส่วน เปลือกของลำต้น ใบ ดอก เปลือกผล เม็ดและก็เปลือกราก เนื้อหาของ คุณประโยชน์ของทับทิม มีดังนี้
ใบของทับทิม นำใบสดมาต้ม และก็กรองเอาน้ำใช้ล้างแผล ที่มีหนองเรื้อรังบนหัว หรือนำใบสอมาตำรวมทั้งพอกแผล
เปลือกของต้นทับทิม ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิได้ดี
เม็ดของทับทิม เอามาบดให้ละเอียด รับประทานเป็นยา รักษาโรคกระเพาะ บำรุงกระเพาะ ทำให้เจริญอาหาร และแก้ท้องเสีย
เปลือกรากของทับทิม ใช้เปลือกรากแห้ง มาต้มกิน เป็นยา แก้ตกขาว แท้งลูก ถ่ายพยาธิ หล่อลื่นลำไส้ แก้ท้องร่วง รวมทั้งโรคบิดเรื้อรัง
ดอกของทับทิม ใช้ดอกแห้งมาต้มกรองเอาน้ำ ดื่มเป็นยา แก้หูอักเสบ หรือใช้ทาแผลที่มีเลือด ช่วยห้ามเลือดได้ดี
เปลือกของผลทับทิม นำเปลือกแห้งมาบดให้ละเอียดหรือต้มน้ำดื่ม ใช้เป็นยา แก้ท้องร่วง บิดเรื้อรัง ถ่ายเป็นเลือด ถ่ายพยาธิตกขาว
ทับทิม ( Pomegranate ) ชื่อวิทยาศาสตร์ของทับทิมหมายถึงPunica granatum Linn พืชลมลุก นิยมกินผล สมุนไพร ประโยชน์ที่ได้รับมาจากทับทิม คุณประโยชน์ของทับทิม รักษาแผล ช่วยเจริญอาหาร แก้ท้องเสีย เป็นยาถ่ายพยาธิ แก้อาการท้องอืด ท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยขับลม รักษาโรคกระเพาะ รักษาลำไส้อักเสบ แก้ท้องร่วง แก้ท้องเสีย ทับทิม ต้นทับทิม แนวทางปลูก ใบทับทิม รูปแบบของแร่ทับทิม การขยายพันธุ์ ทับทิม ดอกทับทิม

ทับทิม ยังนับได้ว่าเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพ โดย ประโยชน์ซึ่งมาจากทับทิม แล้วก็ คุณประโยชน์ของทับทิม นั้นมีจำนวนมาก ด้วย ทับทิม นั้นเป็น ผลไม้ ที่มี รสหวานออกเปรี้ยว น้ำทับทิม ก็เลยมีวิตามินซีสูงรวมทั้งยังมี เกลือแร่ ต่างๆที่มีสาระต่อสุขภาพร่างกาย ก็เลยช่วยต้านทานอนุมูลอิสระได้อย่างดีเยี่ยม และก็นอกจากนั้นยังมีคุณประโยชน์เป็นยารักษาโรคได้อีกด้วย เป็นต้นว่า ทุเลาอาการโรคหัวใจ รักษาภาวะความดันโลหิตสูง ช่วยลดสถานการณ์การแข็งตัวขอเลือด รักษาโรคท้องเสีย โรคบิด ฯลฯ

ทับทิม ( Pomegranate ) พืชลมลุก สมุนไพร ประโยช์จากทับทิม สรรพคุณของทับทิม รักษาแผล ช่วยเจริญอาหาร แก้ท้องเดิน เป็นยาถ่ายพยาธิ แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ใบทับทิม ลักษณะของต้นทับทิม การขยายพันธุ์ มีอะไรบ้าง

ต้นเก๋ากี่ หรือ โกจิเบอรี่ ( Wolfberry )เป็นผลไม้เมืองหนาว ชื่อเรียกอื่นๆของเก๋ากี้ อาทิเช่น พินอิน คำว่า “เก๋ากี้” เป็นภาษาจีน นิยมนำผลรับประทานใหม่ๆหรือ อบแห้ง ผลเก๋ากี้ คุณประโยชน์ทางยามากมาย คนจีน นิยมนำเก๋ากี้มาตุ๋นทำยาจีน ทำเป็น ยาบำรุง ชื่อวิทยาศาสตร์ของเก๋ากี้หมายถึงLycium barbarum ชื่อเรียกอื่นๆของเก๋ากี้ อาทิเช่น ฮ่วยกี้ เก่ากี้ ฯลฯ

ถิ่นกำเนิดโกจิเบอร์รี่ หรือ บ้านเกิดของเก๋ากี้ อยู่ที่ ตำบลต้องหนิง เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ย จีน เก๋ากี้ ได้รับการการันตีว่ามีคุณภาพเหมาะสมที่สุดเป็นเก๋ากี้ ที่ปลูกที่ เขตเหอเป่ย์ บริเวณซานตง เขตเจียงซู เขตเจ้อเจียง

รูปแบบของต้นเก๋ากี้
ต้นเก๋ากี้ เป็นพืชเมืองหนาว ขนาดเล็ก ซึ่ง ความสูง ไม่เกิน 2 เมตร รูปแบบของลำต้นเป็นทรงพุ่ม มีหนามคม รูปแบบของใบ เป็นใย คนเดียว ออกเรียงสลับกันเป็นกลุ่ม ใบทรงรี ขอบของใบเรียบ ลักษณะดอก เป็นดอกเดี่ยว กลีบดอกไม้สีเหลือง ทรงไข่ ปลายแหลม รูปแบบของผล ทรงกลมรี ผลสุกมีเนื้อผลนุ่ม ผลสีแดง มีเม็ดภายในผล ขนาดเล็ก มีเป็นจำนวนมาก

คุณค่าทางโภชนาการของเก๋ากี้
เก๋ากี้ มีสารอาหารสำคัญหลายแบบ มี กรดอะมิโน 19 ประเภท แร่ต่างๆ21 จำพวก อย่างเช่น ธาตุสังกะสี ธาตุเหล็ก ธาตุทองแดง ธาตุแคลเซี่ยม ธาตุฟอสฟอรัส ซิลีเนียม รวมทั้ง พบร์มาเนียม วิตามินต่างๆเป็นต้นว่า วิตามินซี วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี6 รวมทั้ง วิตามินอี

สารอาหารต่างๆได้แก่ สารโพลี่แซคคาไรด์ สารพบร์มาเนี่ยม ( Germanium ) สารซิแซนทิน ( Zeaxanthin ) เบต้า-ไซโตสเตอรอล ( Beta – sitosterol ) สารไซเพอโรน ( Cyperone ) สารไฟซาลิน ( Physalin ) สารบีรเทน ( Betaine ) และก็ สารต้านอนุมูลอิสระ ( Antioxidant )

คุณประโยชน์เก๋ากี้
สำหรับในการใช้ประโยชน์จากเก๋ากี้ หรือ โกจิเบอร์รี่ ด้านการบำรุงร่างกายและก็การดูแลรักษาโรค นั้น ใช้ประโยชน์จากผลเก๋ากี้ ซึ่งใช้อีกทั้งผลสดรวมทั้งผลตากแห้ง คุณประโยชน์ของเก๋ากี้ มีเนื้อหา ดังต่อไปนี้
คุณประโยชน์บำรุงร่างกาย ช่วนให้มีกำลัง แก้อาการเมื่อยล้า เสริมสร้างภูมิต้านทานโรค ทำให้มีความรู้สึกมีชีวิตชีวา บรรเทาอาการนอนไม่หลับ
คุณประโยชน์บำรุงหัวใจ ลดระดับความดันเลือด
คุณประโยชน์เพิ่มความสามารถทางเพศ ช่วยระบบเจริญพันธุ์ ช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโตสเตอโรน ( Testosterone ) ในเลือด
คุณประโยชน์สำหรับสตรีมีครรภ ช่วยคุ้มครองปกป้องอาการอาเจียนคลื่นไส้
คุณประโยชน์บำรุงกระดูกและก็กล้ามเนื้อ ช่วยลดอาการไขข้ออักเสบ เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
คุณประโยชน์บำรุงสมอง ลดความเคร่งเครียด แก้ปวดหัว แก้วิงเวียน ช่วยในเรื่องความจำ
คุณประโยชน์บำรุงสายตา ป้องกันเลนส์ตาเสื่อม รักษาโรคตาบอดช่วงกลางคืน ช่วยรักษาอาการเยื่อบุตาแห้ง
คุณประโยชน์บำรุงเลือด ช่วยกระตุ้นให้เซลเม็ดเลือดขาวปฏิบัติงานเจริญขึ้น สร้างเสริมความแข็งแรงของเม็ดเลือด ลดน้ำตาลในเลือด ช่วยลดคอเลสเตอรอล
คุณประโยชน์บำรุงผิวพรรณ ช่วยชะลอวัย
โทษของเก๋ากี้

ในการใช้ประโยชน์จากเก๋ากี้ มีข้อพึงระวังสำหรับในการใช้งาน ดังต่อไปนี้
เก๋ากี้ คุณประโยชน์ช่วยลดการแข็งตัวของเลือด ทำให้เลือดหยุดไหลช้า
มีอาการป่วยด้วยไข้ตัวร้อน มีลักษณะอักเสบ หรือ ท้องร่วง ไม่เหมาะสมที่จะกิน เก๋ากี้ ด้วยเหตุว่า อาจจะทำให้อาการหนักขึ้น