หมวดหมู่: สถานที่ท่องเที่ยวยุโรปตะวันออก

ขึ้นชื่อลือนามเรื่องสวนสัตว์ระดับนานาชาติกับสวนสัตว์ประเทศสิงคโปร์ที่มีสัตว์ป่านานาชนิดให้ชมกันกว่า 2,800 ชีวิต โดยบัตรนี้รวมค่ารถรางสำหรับท่องเที่ยวดูด้านในสวนสัตว์ประเทศสิงคโปร์ อย่าลืมแวะทักกับเหล่ายีราฟแสนน่ารักน่าเอ็นดูรวมทั้งดูห้องกระจกใต้น้ำสุดพิศวง รับประกันว่าจะเพลินใจได้ตลอดทั้งวันเลยเชียวล่ะ คนไหนสายรักสัตว์จะต้องมาเยี่ยมสักหนึ่งครั้ง

เวลาทำการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08:30 – 18:00 น.
เช็คราคาหรือซื้อบัตรเข้าชม >>> สวนสัตว์สิงคโปร์พร้อมนั่งรถราง

มีชื่อเสียง โด่งดัง เป็นที่รู้จักกันดีกับสวนสนุกยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ อีกทั้งความน่ารักของเหล่าคาแร็คเตอร์ดังแล้วก็ความสนุกสนานร่าเริงกับกิจกรรมจำนวนมาก หรือความระทึกใจหวาดเสียวกับเครื่องเล่นสุดหวาดเสียว แม้จะขนาดเล็กกว่าสาขาอื่นแต่ว่าก็ใช้เวลาได้ตลอดทั้งวันกับตรงนี้ ไม่ต้องเสียเวลาต่อแถวซื้อบัตรนาน จัดทริปแล้วจองเลย ท่องเที่ยวก่อนไม่รอคอยแล้วนะ

เวลาทำการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10:00 – 18:00 น.
เช็คราคาหรือซื้อบัตรเข้าชม >>> สวนสนุกยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ สิงคโปร์ (Universal Studios Singapore®)

นับว่าเป็นเมืองที่ได้รับความนิยมที่หลายๆคนถูกใจนิยมท่องเที่ยวเป็นลำดับต้นๆก็คือเมืองฮาโกเน่ เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากเมืองโตเกียวมากสักเท่าไรนัก สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวแบบวันเดียวไปกลับก็ได้ แต่ว่าหากคนไหนมีเวลาก็ต้องการจะแนะนำให้ลองค้างที่ฮาโกเน่ รวมทั้งจองที่พักแบบเรียวกัง แช่ออนเซ็นกันสักหนึ่งคืน เพราะว่าความเด่นของบ่อออนเซ็นที่ฮาโกเน่ ก็จะเป็นบ่อออนเซ็นกลางแจ้ง ซึ่งสามารถเห็นวิวภูเขาไฟไปในตัวด้วย ข้างในฮาโกเน่นี้ ก็จะมีออนเซ็นให้เลือกสูงถึง 20 แห่งด้วยกัน

แผนที่ : https://www.traveloka.com/th-th/activities/japan/product/mount-fuji-and-hakone-tour-1000628410413

คนใดกันได้โอกาสได้ท่องเที่ยวคันไซ หรือแถบโอซาก้า เสนอแนะว่าถ้าเกิดต้องการทดลองแช่ออนเซ็นแบบถึงถิ่นกันมองสักหนึ่งครั้ง ชี้แนะให้ไปที่ “อาริมะออนเซ็น ไทโกะ-โนะ-ยุ” เนื่องจากนับว่าเป็นแหล่งออนเซ็นชื่อตามที่โบราณ จัดว่าเป็นแหล่งน้ำพุร้อนมีชื่อเสียงของคันไซแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ สามารถนั่งรถไฟท่องเที่ยวแบบวันเดย์ทริปจากเกียวโต หรือโอซาก้าก็ได้เหมือนกัน สำหรับออนเซ็นของตรงนี้ก็จะมีให้แช่หลายที่ร่วมกัน เช้าใจกันว่าจะช่วยลดความเจ็บปวดเมื่อยล้า และก็ทำให้เลือดลมไหลเวียนดีเป็นอย่างยิ่ง

แผนที่ : https://www.traveloka.com/th-th/activities/japan/product/arima-onsen-taiko-no-yu-2000157896205

รูปปั้นพระเยซูคริสต์ ตั้งอยู่ที่ยอดดอยกอร์โกวาดู ประเทศบราซิล นอกเหนือจากที่จะเป็นสิ่งปลูกสร้างที่สื่อความหมายถึงเชื่อถือที่ยิ่งใหญ่ ยังเป็นเครื่องหมายที่ทำให้เมือง ริโอ เดอ จาเนโร ดังไปทั่วทั้งโลกอีกด้วย

รูปปั้นพระคริสต์นี้มีความสูงถึง 38 เมตร ได้รับการออกแบบโดยเอโตร์ ดา สิลวา กอชตา ชาวบราซิล และก็สร้างโดยปอล ลันดอฟสกี นักปั้นชาวประเทศฝรั่งเศสถึง 5 ปีร่วมกัน ตรงนี้นับว่าเป็นอนุสาวรีย์ที่โด่งดังสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก รวมทั้งเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตของชาวบราซิลอีกด้วย ทำให้ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้ราว 1.8 ล้านคนทีเดียว

ที่ตั้ง : Parque Nacional da Tijuca – Alto da Boa Vista, Rio de Janeiro – RJ, Brazil
เปิดให้เข้าชม : 08.00-19.00 น.

ชิเชนอิตซา เป็นภาษามายา แสดงว่า ต้นทางที่ความสุขความสบายของประชากร ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของเม็กซิโก เป็นแหล่งโบราณคดีวิทยาที่ผลิตขึ้นโดยชาวมายาซึ่งทำขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกนึกถึงของเทพเจ้า

• 

ชิเชนอิตซา มีทรงเป็นสามเหลี่ยมลดขั้นเป็นชั้นๆดูไปดูมาคล้ายกับพีระมิดที่อิยิปต์ แต่ว่าการสร้าง รวมทั้งสิ่งของนั้นต่างออกไป ตรงนี้มีพื้นที่ราว 6.4 ตารางกิโลเมตร วิหารที่ใหญ่สุดมีชื่อว่า วิหารที่นักรบ ทำขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 12 หลังจากสร้างวิหารเก่าแห่งชักโมล กึ่งกลางสร้างเป็นพระราชวังเหลี่ยมทึบสูงมากขึ้นไป ใช้เป็นที่ทำพิธีสังเวยเทพเจ้าโดยใช้เด็กสาวโยนลงไปมอบเทพเจ้าในที่นั้น นอกจากนั้นในส่วนของพีระมิดที่ทวยเทพเทวดาคูปะทุลคาน ซึ่งนับว่าเป็นพีระมิดแห่งสุดท้าย และก็เป็นพีระมิดที่เรียกได้ว่ายิ่งใหญ่ที่สุดของอารยธรรมมายาด้วย

ที่ตั้ง : Yucatan, Mexico
เปิดให้เข้าชม : 08.00-16.30 น.

เมื่อทราบดีว่าจะต้องมาลงหยุดที่ดินแดนแห่งนี้ ทำให้หัวใจของนักท่องเที่ยวนั้นเต้นระทึกและก็พองโตด้วยความระทึกใจ เนื่องจากประเทศโปแลนด์เป็นประเทศที่มีความน่าดึงดูดใจไม่น้อย หาใช่เรื่องราวของประวัติศาสตร์ศิลปไม่ แม้กระนั้นมันเป็นดินแดนที่ประวัติศาสตร์สงครามโลกอีกทั้งครั้งอันดับที่หนึ่งและก็ครั้งลำดับที่สอง

เป็นดินแดนที่ต่อสู้รวมทั้งป้องกันเอกราชของชาติมาด้วยเลือดรวมทั้งชีวิตนับล้าน เป็นชาติเดียวของยุโรป ที่จะต้องทำศึกกับหัวหน้าระบอบคอมมิวนิสต์จากสองประเทศเป็น สตาลินที่รัสเซีย และก็ฮิตเลอร์ที่เยอรมัน ในเวลาพร้อม แต่ว่าสิ่งที่จูงใจให้จำต้องร่อนมาตะลอนในดินแดนที่นี้ ก็เนื่องจากว่าต้องการอยากทราบเรื่องราวของประวัติศาสตร์ ที่ล่ำลือกันว่าโหดแบบเมืองนรกบนดินที่ค่าย เอาชวิตซ์ ซึ่งมันเป็นที่จองจำตัวประกันนับแสนนับล้านคน เรื่องราวจะเป็นยังไง ติดปีกแล้วตามกันมาได้เลย

Poland (ประเทศโปแลนด์) หรือสาธารณรัฐประเทศโปแลนด์ ตั้งอยู่ศูนย์กลางของยุโรป มีเพื่อนบ้านถึง 7 ประเทศ โดยที่ทิศตะวันตกใกล้กับเยอรมันนี ทิศใต้ใกล้กับสาธารณรัฐเช็กและก็สโลวาเกีย ทิศตะวันออกติดยูเครนและก็เบลาลุส ทิศเหนือติดสมุทรบอลว่ากล่าวก ลิทัวเนีย แล้วก็ประเทศติดอยู่ลีนินกราดของเมืองเซีย ประเทศโปแลนด์เคยเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของเมืองเซียในครั้งสงครามโลก

ประเทศโปแลนด์เป็นประเทศหนึ่งในประเทศที่มีเงินมีทอง และก็มีอำนาจเยอะที่สุดในยุโรป ซึ่งจัดตั้งเมื่อกว่า 1,000 ปีกลาย โดยวงศ์สกุลเปียสต์ แต่ว่าตอนสงครามโลกครั้งที่ 1 ประเทศโปแลนด์ก็ถูกแบ่งเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของ เมืองเซีย ออสเตรีย รวมทั้งปรัสเซีย แต่ว่าก็ได้รับเอกราชภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 สิ้นสุดลง แม้กระนั้นสายลมหวลก็กลับมาอีกทีภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศโปแลนด์ได้เปลี่ยนเป็นบริวารลัทธิคอมมิวนิสต์ของโซเวียต ถัดมาข้างหลังสงครามโลกสิ้นสุดลง ชาวประเทศโปแลนด์ได้ดิ้นรนต่อสู้เพื่ออิสระ จนกระทั่งท้ายที่สุดหัวหน้าที่เป็นข้างระบอบคอมมิวนิสต์ได้พ่ายไป ประเทศโปแลนด์ก็เลยได้ความอิสระ และก็ได้เข้ามาเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรปจากนั้นมา มองเอาเถอะ…บ้านคนไหนกัน คนใดกันก็รัก

ประเทศโปแลนด์มีเมืองหลวงเป็น กรุงวอร์ซอ พื้นที่เกือบจะทั่วทั้งประเทศเป็นที่ราบ เว้นเสียแต่ทางตอนใต้ติดชายแดนเป็นเทือกเขา แล้วก็เทือกเขาที่สูงสุดเป็น Rysy ที่อยู่เหนือจากระดับน้ำทะเลถึง 8,200 ฟุต ส่วนหน้าหนาวตอนมกราคม มีอุณหภูมิติดลบ 1-5 องศาเซลเซียส ส่วนหน้าร้อนตอนก.ค.มีอากาศเย็นสบาย อุที่ภูเขาไม่เฉลี่ยอยู่ที่ 16-19 องศาเซลเซียส ซึ่งเสมือนหน้าหนาวในกรุงเทพเลย

ประวัติศาสตร์ของประเทศโปแลนด์นี่ทำให้ซาบซึ้งใจจับใจ ทำให้ยิ่งต้องการทราบว่าความเป็นอยู่ในตอนนี้เป็นกันเช่นไร เลยจำต้องลงพื้นที่ตรวจกันที่เมืองหลวงก่อนเป็นขั้นแรก

วอร์ซอ เป็นเมืองศูนย์กลางอุตสาหกรรมหนัก ได้แก่ รถยนต์ เหล็ก และก็เครื่องจักรอุตสาหกรรม เมืองวอร์ซอมีการผสมของสถาปัตยกรรมแบบเก่าแล้วก็ใหม่ ราวกับมีเมืองเก่ารวมทั้งเมืองใหม่อยู่ในเมืองใหญ่ที่เดียวกัน ซึ่งบริเวณเมืองเก่า หรือ Old Town ได้ถูกประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติไปแล้ว เนื่องมาจากสถาปัตยกรรมของเมืองวอร์ซอถูกผลิตราวศตวรรษที่ 13 รวมทั้งมีหลายแห่งที่ได้รับความทรุดโทรมจากสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ว่าก็ได้รับการบูรณะจนกระทั่งตอนนี้

Old Town (จัตุรัสเมืองเก่า) เป็นสถานที่เที่ยวที่สวยสดงดงามแห่งหนึ่งของประเทศโปแลนด์ ซึ่งสามารถเย้ายวนใจนักเดินทางได้ทุกปี ด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุโรปตะวันออกแท้ๆและก็กิจกรรมที่โล่งแจ้งในตอนหน้าร้อน ตลาดนัดที่โล่งแจ้งที่ขายสินค้ามากมาย ทั้งยังของโบราณรวมทั้งของใหม่ มีช่างวาดเขียนมานั่งรับจ้างเขียนภาพเสมือน มีโต๊ะรับจ้างขัดรองเท้า รวมทั้งอีกเพียบเลย ยิ่งกว่านั้น ยังมีบริการรถม้าพาชมรอบเมืองเก่า ซึ่งเป็นสีสันที่ชีวิตฤดูร้อนที่สวยทีเดียว

น้ำตกวิกตอเรีย ตั้งอยู่รอบๆชายแดนประเทศแซมเบียรวมทั้งประเทศซิมบับเว อยู่บนทางของแม่น้ำแซมบีซี นับได้ว่าเป็นน้ำตกที่ยิ่งใหญ่ตระการตาสูงที่สุดในแอฟริกา เนื่องจากว่ามีขนาดความกว้างสูงถึง 1,700 เมตร สูงตั้งแต่ 80-108 เมตร !!

รูปแบบของน้ำตกวิกตอเรีย เป็นหน้าผาสูงแบบตั้งฉาก มวลน้ำมหาศาลมากยิ่งกว่า 500,000,000 ลูกบาศก์เมตรต่อนาทีจากแม่น้ำแซมบีซี จะไหลผ่านมายังจุดที่เป็นหน้าผาอันกว้างขวางนี้ จนกระทั่งเปลี่ยนเป็นน้ำตกขนาดใหญ่โตมโหฬาร ซึ่งด้วยความสวยสดงดงามตระการตาของน้ำตกวิกตอเรีย ตรงนี้ก็เลยได้รับการเขียนทะเบียนให้เป็นมรดกโลก โดยองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ เมื่อปี คริสต์ศักราช 1989

ในการท่องเที่ยวดูน้ำตกวิกตอเรียนั้น สามารถท่องเที่ยวดูได้ตลอดทั้งปี ตอนเมษายนจะเป็นตอนที่น้ำตกมีจำนวนน้ำสูงที่สุด ด้วยเหตุว่าเป็นตอนๆปลายฤดูฝนของประเทศแซมเบียรวมทั้งซิมบับเว ส่วนตอนต.ค.-พ.ย. จะเป็นตอนที่มีน้ำต่ำที่สุด (แต่ว่าก็ยังสวยสดงดงามยอดเยี่ยม)

โดยหินปูนทรงทรงหกเหลี่ยมที่ตั้งเรียงรายกันนี้ มีเป็นจำนวนมากกว่า 40,000 ต้น แต่ละต้นมีขนาดกว้างโดยประมาณ 46 ซม. และก็สูงโดยประมาณ 1-2 เมตร มีระยะทางราวๆ 3 กม.อย่างยิ่งจริงๆ

ในตำนานเล่าว่า ฟินน์ แม็กคูล ยักษ์ที่ไอร์แลนด์ได้สร้างทางเท้านี้ขึ้นมา แต่ว่าตามหลักวิทยาศาสตร์ชี้แจงไว้ว่า หินทรงทรงหกเหลี่ยมพวกนี้เกิดขึ้นจากการเย็นตัวของหินภูเขาไฟที่ปะทุในสมุทรเมื่อโดยประมาณ 60 ล้านปีกลาย โดยก่อนภูเขาไฟจะระเบิดมันจะปลดปล่อยลาวาออกมากระทั่งท่วมพื้นดินแล้วเย็นตัวลงกระทั่งแข็งไปสุดท้าย เมื่อมีลาวาไหลออกมาใหม่ก็จะทับถมพื้นหินบะซอลต์และก็หดตัวอย่างอืดอาด แม้แม้กระนั้นเป็นประจำ แรงกดดันที่เกิดในลาวาที่กำลังเย็นตัว จะกระจัดกระจายออกไปในอัตราที่เสมอกัน โน่นก็เลยทำให้เสาหินกำเนิดเป็นรูปร่างทรงหกเหลี่ยม เจ็ดเหลี่ยม แปดเหลี่ยมอย่างที่พวกเรามองเห็น

คาวาอีเจี้ยน (Kawah Ijen) เป็นภูเขาไฟที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะชวา ภูเขาไฟที่นี้เป็นจุดมุ่งหมายอันดับหนึ่งของนักเดินทางผู้ประทับใจการเสี่ยงอันตรายทั้งหลายแหล่ที่เดินทางมาเยี่ยมอินโดนีเซีย เพราะเหตุว่ารอบๆปากปล่องนั้นมีความพิศวงที่ธรรมชาติอยู่ 2 อย่างหมายถึง1. การปรากฏเปลวสีน้ำเงินจากเหมืองกำมะถัน (สามารถมองเห็นได้ในช่วงกลางคืนเพียงแค่นั้น) รวมทั้ง 2. ทะเลสาบกำมะถันสีเทอร์ควอยซ์ที่งดงามมากมายๆแต่ว่าก็อันตรายอย่างยิ่งเหมือนกัน เพราะเหตุว่ามีความเป็นกรดมากที่สุดในโลก !

ส่วนการเดินทางไปดูนั้น แน่ๆว่าไม่ง่าย เพราะว่าระยะทางจากตีนเขาไปถึงปากปล่องนั้นไกลโดยประมาณ 3-4 กิโล จำเป็นต้องเดินเท้าโดยประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งผู้รักการเสี่ยงภัยโดยมากชอบเดินทางขึ้นเขาปากปล่องในตอนเช้ามืด เพื่อได้ยลทั้งยังเปลวสีน้ำเงินยามที่ฟ้ายังไม่สว่างอยู่ รวมทั้งความสวยงามของทะเลสาบเมื่อตะวันขึ้นนั่นเอง