Design a site like this with WordPress.com
เริ่มได้

สตุ๊ตการ์ต vs โคโลญจน์

สตุ๊ตการ์ท
“ม้าขาว” ของกุนซือ เปลเลกริโน่ มาตารัซโซ่ ผลงานเริ่มดีขึ้นเก็บไป 7 คะแนนจาก 3 นัดหลังสุดทั้งที่ออกสตาร์ตฤดูกาลใหม่ด้วยการแพ้คาบ้านต่อ ไฟร์บวร์ก

ความพร้อมล่าสุดจะไม่มี คลินตัน โมล่า, มักซีม อาวูฌ่า, เอริค โธมมี่, บอร์น่า โซซ่า, ดาร์โก้ ชูร์ลินอฟ, คอนสตาตินอส มาฟโรพานอส, โรแบร์โต้ มัสซิโม่ และ ฟิลิปป์ ฟอร์สเตอร์ ที่บาดเจ็บทั้งหมด

แต่ข่าวดีคือได้ วาตารุ เอ็นโดะ กองกลางชาวญี่ปุ่นหายเจ็บกลับมาเป็นตัวเลือก เช่นเดียวกับ เกรกอร์ โคเบล ผู้รักษาประตู

ซาช่า คาลายซิช ดาวยิงออสเตรียที่ซัดไปแล้ว 3 ประตู ยังคงเป็นความหวังในเกมรุกต่อไป ขณะที่ ดาเนียล ดิดาวี่ พร้อมปั้นเกมร่วมกับ กอนซาโล่ กาสโตร

โคโลญจน์
“แพะบ้า” ของกุนซือ มาร์คุส กิสโดล เพิ่งมีคะแนนแรกในเกมยันเสมอ แฟร้งค์เฟิร์ต 1-1 นัดล่าสุดหลังก่อนหน้านี้แพ้รวด 3 นัด

ความพร้อมล่าสุดยังไม่มี โยนาส เฮ็คตอร์ กัปตันทีม, โฟลเรียน ไคนซ์, คริสเตียน เคลเมนส์ และ ยาน ธีลมันน์ ที่กำลังอยู่ระหว่างเรียกความฟิต

ออนเดรย์ ดูด้า ที่ยิงประตูตีเสมอให้ทีมนัดล่าสุดพร้อมลงทำเกมร่วมกับ มาริอุส โวล์ฟ และ อิสมาอิล ยาค็อบส์ ขณะที่หน้าเป้าใช้ เซบาสเตียน อันเดอร์สสัน

11 ผู้เล่นตามคาด
สตุ๊ตการ์ท (3-4-2-1) : เกรกอร์ โคเบล – ปาสกาล ชเตนเซิ่ล, อตาคาน คาราซอร์, มาร์ค-โอลิเวอร์ เคมฟ์ – ซิลาส วาร์นันกิตูก้า, โอเรล ม็องกาล่า, วาตารุ เอ็นโดะ, นิโกลัส กอนซาเลซ – ดาเนียล ดิดาวี่, กอนซาโล่ กาสโตร – ซาช่า คาลายซิช

โคโลญจน์ (4-2-3-1) : ติโม ฮอร์น – คิงส์ลี่ย์ เอฮิซิบูเอ้, ราฟาเอล ซิโชส, เซบาสเตียน บอร์เนา, ยานเนส ฮอร์น – เอลลีเยส สคิรี่, ซาลีห์ เอิซชาน – มาริอุส โวล์ฟ, ออนเดรย์ ดูด้า, อิสมาอิล ยาค็อบส์ – เซบาสเตียน อันเดอร์สสัน

สนาม : เมอร์ซีเดส เบนซ์ อารีน่า 

โวล์ฟสแบร์เกอร์ vs ซีเอสเคเอ มอสโก

โวล์ฟสแบร์เกอร์
มีผลงานที่ไม่ดีเท่าไหร่ในลีกแพ้สองเกมรวด ส่วนผลงานล่าสุดเสมอต้องรอถึงการดวลจุดโทษกว่าจะเอาชนะ เอสเฟา รีด มาได้

สภาพทีม มานูเอล คุททิน นายด่านวัย 26 ปีเจ็บจากเกมล่าสุดคงลงนัดนี้ไม่ไหวแน่นอน แนวรุกน่าจะวาง มิชาเอล ลีนเดิล ทำเกมข้างหลัง ดาริโอ วีซิงเกอร์ กับ เดยัน โยเวลยิช สองกองหน้า

ซีเอสเคเอ มอสโก
วิคเตอร์ กอนชาเรนโก้ ผลงานดีขึ้นหลังจากเอาชนะสองเกมที่ผ่านมา ล่าสุดเปิดรังสอย ดินาโม ซาเกร็บ 3-1

ความพร้อมในนัดนี้ วาดิม คาปอฟ กองหลังตัวหลักบาดเจ็บจากเกมลีกนัดที่ผ่านมา รวมไปถึง อาร์นอร์ ซิเกิร์ดส์สัน เจ็บบริเวณข้อเท้าสโมสรให้แยกซ้อมเดี่ยวไม่มีชื่อเดินทาง

แต่ทาง ฮอร์ดูร์ แม็กนุสสัน พ้นโทษแบนจากเกมลีกกลับมาเป็นตัวเลือกในนัดนี้ได้

11 ผู้เล่นตามคาด
โวล์ฟสแบร์เกอร์ (4-3-1-2) : มาร์โก ซอลโด้ – คริสโตเฟอร์ แวร์นิตซ์นิก, โดมินิค เบาท์การ์ทเนอร์, ลูก้า โลคอชวิลลี่, โยนาธาน แชร์เซอร์ – มัทเธาส์ ทาแฟร์เนอร์, มาริโอ ไลท์เก็บ, สเวน สปรานเกลอร์ – มิชาเอล ลีนเดิล – ดาริโอ วีซิงเกอร์, เดยัน โยเวลยิช

ซีเอสเคเอ มอสโก (4-2-3-1) : อีกอร์ อาคินเฟเยฟ – วิคเตอร์ วาซิน, อีกอร์ ดีเวเยฟ, ฮอร์ดูร์ แม็กนุสสัน, บัคติยอร์ ไซนุตดินอฟ – คอนสแตนติน มาราดิชวิลลี่, อิวาน โอเบลียคอฟ – ชิเดร่า เอจูค, นิโคล่า วลาชิช, คอนสแตนติน คูชาเยฟ – เฟดอร์ ชาลอฟ

แมนฯ ซิตี้ vs ปอร์โต้

แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เฮดโค้ช แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพิ่งพาทีมเปิดบ้านชนะ อาร์เซน่อล 1-0 เป็นชัยชนะเกมที่สองจากสี่นัดแรก มีอยู่ 7 คะแนน แต่แข้งน้อยกว่าทีมอื่นๆ หนึ่งนัด
สภาพทีมจะได้ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ กลับมาอยู่ในทีม, อิลคาย กุนโดกัน ก็มีชื่อสำรองเกมล่าสุดแล้ว ที่ลงเล่นไม่ได้จึงเหลือ เควิน เดอ บรอยน์, กาเบรียล เชซุส, อายเมริก ลาปอร์เต้, เบนฌาแม็ง เมนดี้
เอฟซี ปอร์โต้
แซร์โจ้ คอนไซเซา เทรนเนอร์ ปอร์โต้ ผ่านเกมหนักในลีก บุกเสมอ สปอร์ติ้ง 2-2 มี 7 คะแนนจาก 4 เกมแรก เป็นรองจ่าฝูงตาม เบนฟิก้า ที่
เก็บ 12 แต้มจากการชนะรวด
สภาพทีมไม่มี อีบัน มาร์กาโน่ กองหลัง กับ มูฮาเหม็ด เอ็มบาย ผู้รักษาประตูที่บาดเจ็บ นอกนั้นไม่มีปัญหา แดนหน้าพร้อมใช้งาน มุสซ่า มาเรก้า เป็นความหวังในการทำประตู

11 ผู้เล่นตามคาด
แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) : เอแดร์ซอน – ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, นาธาน อาเก้, ชูเอา กานเชโล่ – โรดรี้, อิลคาย กุนโดกัน – ริยาด มาห์เรซ, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ราฮีม สเตอร์ลิง – เซร์คิโอ อเกวโร่
ปอร์โต้ (4-2-3-1) : อากุสติน มาร์เคซิน – วิลสัน มานาฟา, เปเป้, ชานเซล เอ็มเบมบา, ไซดู ซานูซี่ – มาเตอุส อูรีเบ, แซร์โจ้ โอลิเวร่า – เฮซุส โกโรน่า, โอตาวีโอ, ลุยส์ ดิอาซ – มุสซ่า มาเรก้า

บาร์เซโลน่า vs เฟเรนซ์วารอส

บาร์เซโลน่า
โรนัลด์ คูมัน ไม่มี มาร์ค อันเดร แทร์ ชเตเก้น, ซามูแอล อุมตีตี้ กับ จอร์ดี้ อัลบา สภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ ขณะเดียวกันเทรนเนอร์ชาวดัตช์ยังหมุนเวียนนักเตะด้วยการสลับส่ง อันซู ฟาตี, มิราเล็ม เปียนิช, ฟิลิปเป้ กูตินโญ่, ฟรานซิสโก้ ตรินเกา, โรนัลด์ อาเราโฮ, เอคตอร์ จูเนียร์ ฟีร์โป, มาร์ติน เบรตเวธ, รีกี ปุช หรือ การ์เลส อาเลนญ่า ลงสนามเพื่อเก็บตัวหลักไว้เล่นกับ เรอัล มาดริด วันเสาร์นี้

อองตวน กรีซมันน์ จะเล่นหน้าเป้า โดยมี ฟรานซิสโก้ ตรินเกา, ฟิลิปเป้ กูตินโญ่, อันซู ฟาตี เดินเกมรุก ขณะที่ มิราเล็ม เปียนิช จะคุมแดนกลางกับ เฟรงกี้ เดอ ย็อง ส่วน แซร์จินโญ่ เดสต์, โรนัลด์ อาเราโฮ, เกลม็องต์ ล็องเล่ต์, เอคตอร์ จูเนียร์ ฟีร์โป จะลงคุมแนวรับ โดยมี นอร์แบร์โต้ มูราร่า เนโต้ เฝ้าเสา

เฟเรนซ์วารอส
เซอร์เก เรบรอฟ จะปรับทัพด้วยการส่ง มีฮา บลาชิช ลงคุมแนวรับแทน อัดนาน โควาเชวิช ส่วน โรเบิร์ต มัค, เอ็นเดร บ็อตก้า, โอเล็กซานเดอร์ ซุบคอฟ, เอลดาร์ ชีวิช, แวร์จีตอน ดู โรซาริโอ โซมาเลีย หรือ มีร์โต อูซูนี่ ยังเป็นสำรอง

ฟร้องค์ โบลี่ จะเล่นหน้าเป้า โดยมี ไอส์ซ่า ไลดูนี่, ดาวิด ซีเกอร์, ท็อคมัค ยูเอน เดินเกมรุก ขณะที่ อีซาเอล ดา ซิลวา จะคุมแดนกลางกับ อีกอร์ คาราติน ส่วน เกอร์โก้ ลอฟเรนซ์ซิช, มีฮา บลาชิช, อบราฮัม ฟริมปง, มาร์เซล ไฮส์เตอร์ จะลงคุมแนวรับ โดยมี เดเนส ดีบุสซ์ เฝ้าเสา

11 ผู้เล่นตามคาด
บาร์เซโลน่า (4-2-3-1) : นอร์แบร์โต้ มูราร่า เนโต้ – แซร์จินโญ่ เดสต์, โรนัลด์ อาเราโฮ, เกลม็องต์ ล็องเล่ต์, เอคตอร์ จูเนียร์ ฟีร์โป – มิราเล็ม เปียนิช, เฟรงกี้ เดอ ย็อง – ฟรานซิสโก้ ตรินเกา, ฟิลิปเป้ กูตินโญ่, อันซู ฟาตี – อองตวน กรีซมันน์

เฟเรนซ์วารอส (4-2-3-1) : เดเนส ดีบุสซ์ – เกอร์โก้ ลอฟเรนซ์ซิช, มีฮา บลาชิช, อบราฮัม ฟริมปง, มาร์เซล ไฮส์เตอร์ – อีซาเอล ดา ซิลวา, อีกอร์ คาราติน – ไอส์ซ่า ไลดูนี่, ดาวิด ซีเกอร์, ท็อคมัค ยูเอน – ฟร้องค์ โบลี่

ดิฌง vs แรนส์

ดิฌง
สเตฟาน โชบาร์ มีเพียงแต้มเดียวจาก 6 เกมที่ผ่านมา หลังจากบุกแพ้ บอร์กโดซ์ แบบยับเยิน 0-3 ในเกมล่าสุด

เกมนี้จะพลาดใช้งาน รวมไปถึง ยาสซีน เบนเซีย (มือ), โรแม็ง อามาลฟิตาโน่ (เจ็บกล้ามเนื้อ พัก 2-3 สัปดาห์) และล่าสุด โรเชร์ อสซาเล่ แข้งทีมชาติไอวอรี่ โคสต์ ได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้อพลาดลงช่วยทีมในนัดนี้

แรนส์
ฌูเลียง สเตฟ็อง หยุดสถิติทำผลงานเอาชนะได้ 4 เกมติดต่อกัน โดยนัดที่ผ่านมาเปิดบ้านเสมอ แร็งส์ 2-2

สภาพทีมจะขาด เกอร์ซีโน่ เนียมซี่ กองหลังที่เจ็บ รวมไปถึง เจมส์ เลอา ซีลีกี้ ที่ยังไม่หายดีจากอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อ ส่งผลให้ทั้งสองรายพลาดมีส่วนร่วมในนัดนี้

ส่วน เฟตูต์ มาอูอัสซ่า เจ็บจากเกมพบโมนาโก ในราย อัลเฟร็ด โกมิส ประตูรายใหม่มีปัญหากล้ามเนื้อลงไม่ได้ นอกจากนั้น สตีเว่น เอ็นซองซี่ กับ ดาเมียง ดา ซิลวา ติดโทษแบน 1 เกม

11 ผู้เล่นตามคาด
ดิฌง (4-3-3) : ซาตูร์แน็ง อัลลักเบ้ – ฟูอัด ชาฟิก, บรูโน่ เอกูเอเล่ ม็องก้า, โจนาธาน แพนโซ่, อานีบาล ชาล่า – เอริค เอบิมบ์, ป๊าป เช็ก ดิย็อป, ดีดีเย่ร์ เอ็นดง – เฟรเดริก ซ็อมมารีตาโน่, มาม่า บัลเด้, มูนีร์ ชูเอียร์

แรนส์ (4-3-3) : โรแม็ง ซาแล็ง – อามารี่ ตราโอเร่, นาเยฟ เฌเรมี่ เฌแล็ง, ดานิเอเล่ รูกานี่, อาเดรียง ตรุฟแฟร์ – ยานน์ โบโอ, แบ็งฌาแม็ง บูรีโกด์, เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า – มาร์กแต็ง แตร์รีเย่ร์, เซรู กีราสซี่, เฌเรมี่ โดกู

นอร์เวย์ vs ไอร์แลนด์เหนือ

นอร์เวย์
ลาร์ส ลาเกอร์บัค ยังไม่ปรับทัพจากเกมชนะ โรมาเนีย 4-0 นั่นหมายความว่าทั้ง โจชัว คิง, มอร์เท่น ธอร์สบี้, เฟรดริค มิดต์สโย, มาร์ติน ลินเนส, มาร์คุส เฮนริคเซ่น, โยนาส สเวนส์สัน หรือ เยนส์ เพ็ตเตอร์ เฮาก์ ยังเป็นสำรอง

เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ จะลงเล่นกองหน้าคู่ อเล็กซานเดอร์ ซอร์ลอธ แดนกลางมี มาร์ติน โอเดการ์ด, ซานเดอร์ แบร์ก, มาธีอัส นอร์มันน์, โมฮาเหม็ด เอลยูนุสซี่ ลงทำเกม ส่วน โอมาร์ เอลับเดลาอุย, สเตฟาน สตรานด์เบิร์ก, คริสโตเฟอร์ อาเยอร์, บีร์เกอร์ เมลิ่ง จะลงคุมแนวรับ โดยมี รูเน่ ยาร์สไตน์ เฝ้าเสา

ไอร์แลนด์เหนือ
เอียน บาราคลัฟ ไม่มี จามาล ลูอิส แบ็กซ้ายจาก นิวคาสเซิ่ล ที่้เจ็บข้อเท้า ขณะที่ แดเนียล บอลลาร์ด จะได้ออกสตาร์ทแทน เคร็ก แคธคาร์ต หรือ จอนนี่ อีแวนส์ ส่วน คอรี่ อีแวนส์, คอเนอร์ วองชิงตัน, จอช แม็คเจนนีส, ไนออลล์ แม็คกินน์, เลียม บอยซ์ หรือ ทอม ฟลานาแกน พร้อมสลับลงสนาม

คอเนอร์ วอชิงตัน จะลงเล่นกองหน้าคู่ จอร์จ แม็คเจนนีส แดนกลางมี คอรี่ อีแวนส์, สตีเว่น เดวิส, จอร์จ เซวิลล์, ไนออลล์ แม็คกินน์ ลงทำเกม ส่วน สจ๊วร์ต ดัลลาส, แดเนียล บอลลาร์ด, จอนนี่ อีแวนส์, เชน เฟอร์กูสัน จะลงคุมแนวรับ โดยมี ไบลี่ย์ พีค็อค ฟาร์เรลล์ เฝ้าเสา

11 ผู้เล่นตามคาด

นอร์เวย์ (4-4-2) : รูเน่ ยาร์สไตน์ – โอมาร์ เอลับเดลาอุย, สเตฟาน สตรานด์เบิร์ก, คริสโตเฟอร์ อาเยอร์, บีร์เกอร์ เมลิ่ง – มาร์ติน โอเดการ์ด, ซานเดอร์ แบร์ก, มาธีอัส นอร์มันน์, โมฮาเหม็ด เอลยูนุสซี่ – เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์, อเล็กซานเดอร์ ซอร์ลอธ

ไอร์แลนด์เหนือ (4-4-2) : ไบลี่ย์ พีค็อค ฟาร์เรลล์ – สจ๊วร์ต ดัลลาส, แดเนียล บอลลาร์ด, จอนนี่ อีแวนส์, เชน เฟอร์กูสัน – คอรี่ อีแวนส์, สตีเว่น เดวิส, จอร์จ เซวิลล์, ไนออลล์ แม็คกินน์ – คอเนอร์ วอชิงตัน, จอร์จ แม็คเจนนีส

ตุรกี vs เซอร์เบีย

ตุรกี
เซโนล กูเนส เทรเนอร์ของตุรกี ยังไม่ชนะใครใน 3 เกมแรก นัดนี้ไม่มี เชงค์ โตซุน ที่บาดเจ็บ ด้าน โอซาน คาบัค ติดโทษแบน
เกมนี้จะมี เมิร์ต กูน็อค เฝ้าเสาต่อ กองหลังมี เซกี เชลิค, ชากลาร์ โซยุนชู, เมริห์ เดมิราล และ อูมุต เมราส กองกลาง โอคาย โยคุสลู ที่เป็นสำรองเกมที่แล้วคุมเกมกับ โอซาน ตูฟาน โดยมี เชนกีซ อุนแดร์, ฮาคาน ชาลาโนลู และ เคนาน คารามาน ทำเกม กองหน้า บูรัค ยิลมาซ ยืนตัวเป้า

เซอร์เบีย
ลูบิซ่า ทุมบาโควิช กุนซือทัพเซอร์เบีย เก็บได้แค่แต้มเดียวจากสามเกมแรก เกมนี้จะได้ อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ พ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีม ส่วนที่เหลือพร้อมลงสนาม
กองหน้าจะถอด ลูก้า โยวิช เป็นสำรองให้ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ล่าตาข่ายโดยมี เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช กับ ดูซาน ทาดิช ปั้นเกม มิไฮโล ริสติค, เนมันย่า มัคซิโมวิช, ลูก้า มิลิโวเยวิช และ มิยาต กาซิโนวิช คุมแดนกลางให้ นิโกล่า มิเลนโควิช, สเตฟาน มิโตรวิช และ อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ เป็นสามประสานในแนวรับ เปแดร็ก รายโควิช ยืนผู้รักษาประตู

11 ผู้เล่นตามคาด
ตุรกี (4-2-3-1) : เมิร์ต กูน็อค – เซกี เชลิค, ชากลาร์ โซยุนชู, เมริห์ เดมิราล, อูมุต เมราส – โอคาย โยคุสลู, โอซาน ตูฟาน – เชนกีซ อุนแดร์, ฮาคาน ชาลาโนลู, เคนาน คารามาน – บูรัค ยิลมาซ

เซอร์เบีย (3-4-2-1) : เปแดร็ก รายโควิช – นิโกล่า มิเลนโควิช, สเตฟาน มิโตรวิช, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ – มิไฮโล ริสติค, เนมันย่า มัคซิโมวิช, ลูก้า มิลิโวเยวิช, มิยาต กาซิโนวิช – เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช, ดูซาน ทาดิช – อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช

โปแลนด์ vs อิตาลี

โปแลนด์
เยอร์ซี่ เบอร์เซชเซ็ค นายใหญ่ของ โปแลนด์ พาทีมอุ่นเครื่องงามเลยเกมปัจจุบันกระหน่ำ ฟินแลนด์ 5-0 โดยเกมนี้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กลับมาติดกลุ่มอีกรอบข้างหลังได้พักเพิ่มจากเกมเดือนที่ผ่านมา แต่ว่า พิโอเตอร์ ซีลินสกี้ ไม่มีชื่อจากปัญหาติดเชื้อโรคโควิด-19

เกมนี้จะมี วอยเชี๊ยค เชสนี่ ยืนเฝ้าเสา กองหลัง บาร์ตอส เบเรสซินสกี้, คามิล กลิค, เซบาสเตียน วาลูคีวิชซ์ และก็ มิชาล คาร์บอฟนิค คุมเกม กองกลาง ดาเมี่ยน คัดซิออร์, เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวี๊ยค, มาเตอุสซ์ คลิช รวมทั้ง คามิล โกรซิชกี้ ปฏิบัติหน้าที่ แนวรุก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ล่าตาข่ายกับ คริสตอฟ พิออนเท็ค

อิตาลี
โรแบร์โต้ มันชินี่ นายใหญ่อิตาลี ฝึกซ้อมกระหน่ำ มอลโดวา 6-0 โดยกลุ่มไม่มี กาเอตาโน่ คาสโตรวิลลี่ ที่เจ็บถอนตัวไป ด้าน ลอเรนโซ่ อินซินเย่, อเล็กซ์ เมเร็ต และก็ โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ สามเพื่อนจาก ทุ่งนาโปลี ไม่มีชื่อจากปัญหาเชื้อไวรัสโควิดกับสมาพันธ์ รวมทั้ง นิโกโล่ ซานิโอโล่ ที่เจ็บไป ปัจจุบัน หน้าจอร์โจ้ คิเอลลินี่ เจ็บเข่าบางครั้งก็อาจจะให้พักไว้เกมใหญ่กับ ฮอลแลนด์ ในนัดหมายต่อไปเลย

เกมนี้กลุ่มจะกลับมาใช้ชุดใหญ่เต็มสูบหลังส่งสำรองเล่นในเกมที่แล้ว แนวรุกจะมี เฟเดริโก้ เคียซ่า, ชิโร่ อิมโมบิเล่ และก็ สเตฟาน เอล ชาราวี เป็นสามประสาน ดินแดนกึ่งกลาง มาร์โก แวร์รัตติ, จอร์จินโญ่ แล้วก็ นิโกโล่ บาเรลล่า ปฏิบัติหน้าที่ อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, ฟรานเชสโก้ อาแชร์บี้ และก็ คริสเตียโน่ บิรากี้ ยืนแนวรับ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า เฝ้าเสา

11 ผู้เล่นตามคาด
โปแลนด์ (4-4-2) : วอยเชี๊ยค เชสนี่ – บาร์ตอส เบเรสซินสกี้, ติดอยู่ไม่ล กลิค, เซบาสเตียน วาลูคีวิชซ์, มิชาล คาร์บอฟนิค – ดาเมี่ยน คัดเลือกซิออร์, เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวี๊ยค, มาเตอุสซ์ คลิช, คามิล โกรซิชกี้ – โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, คริสตอฟ พิออนเท็ค

อิตาลี (4-3-3) : จานลุยจิ ดอนนารุมม่า – อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, ฟรานเชสโก้ อาแชร์บี้, คริสเตียโน่ บิรากี้ – มาร์โก แวร์รัตติ, จอร์จินโญ่, นิโกโล่ บาเรลล่า – เฟเดริโก้ เคียซ่า, ชิโร่ อิมโมบิเล่, สเตฟาน เอล ชาราวี

ราชบุรี vs แบงค็อก ยูไนเต็ด

ราชบุรี มิตรผล
ราชันมังกร ที่ไม่ชนะใครเลยใน 3 เกมหลังสุด ความพร้อมเกมนี้ จะไม่มี จักรพันธ์ พรใส ที่ปิดเทอมยาวไปแล้ว และ จิตปัญญา ทิสุด ส่วนรายอื่นนั้นไม่มีปัญหา แดนหน้า สตีเฟน ล็องจิล ยานนิก โบลี ยังพร้อมป่วนคู่แข่งเช่นเดิม

ทรู แบงค็อกฯ
แข้งเทพ ที่บุกไปถูกฉลามกัดเป็นแผลในนัดก่อน สภาพความพร้อมนัดนี้จะต้องรอเช็กความฟิตของทาง เบรนเนอร์ มาร์ลอส กองหน้าตัวเป้า ส่วนรายอื่นนั้นไม่น่าจะมีปัญหา ในแดนหน้า 3 ประสานอย่าง วานเดอร์ หลุยส์, ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม และ อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ น่าจะได้ทำงานร่วมกันไปก่อน

11 ผู้เล่นตามคาด

ราชบุรี มิตรผล (4-2-3-1) อุกฤษฏ์ วงศ์มีมา – ฟิลิป โรเลอร์, โย ซัง-แฮ, ปวีร์ ตัณฑะเตมีย์, เกียรติศักดิ์ เจียมอุดม – กฤษณนน ศรีสุวรรณ, ปฐมชัย เสือสกุล – นูรูล ศรียาเก็ม, ลอสเซมี คาราบูเอ, สตีเฟน ล็องจิล – ยานนิก โบลี

ทรู แบงค็อกฯ (4-2-3-1) ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด – ทริสตอง โด, มานูเอล ทอม, เอเวอร์ตัน กอนซัลเวส, พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา – แอนโทนี อำไพพิทักษ์วงศ์, ฮาจิเมะ โฮโซไก – อานนท์ อมรเลิศศักดิ์, ปกเกล้า อนันต์, วานเดอร์ หลุยส์ – ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม

สนาม : มิตรผล สเตเดียม

ราชบุรี vs แบงค็อก ยูไนเต็ด

ราชบุรี มิตรผล
ราชันมังกร ที่ไม่ชนะใครเลยใน 3 เกมหลังสุด ความพร้อมเกมนี้ จะไม่มี จักรพันธ์ พรใส ที่ปิดเทอมยาวไปแล้ว และ จิตปัญญา ทิสุด ส่วนรายอื่นนั้นไม่มีปัญหา แดนหน้า สตีเฟน ล็องจิล ยานนิก โบลี ยังพร้อมป่วนคู่แข่งเช่นเดิม

ทรู แบงค็อกฯ
แข้งเทพ ที่บุกไปถูกฉลามกัดเป็นแผลในนัดก่อน สภาพความพร้อมนัดนี้จะต้องรอเช็กความฟิตของทาง เบรนเนอร์ มาร์ลอส กองหน้าตัวเป้า ส่วนรายอื่นนั้นไม่น่าจะมีปัญหา ในแดนหน้า 3 ประสานอย่าง วานเดอร์ หลุยส์, ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม และ อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ น่าจะได้ทำงานร่วมกันไปก่อน

11 ผู้เล่นตามคาด
ราชบุรี มิตรผล (4-2-3-1) อุกฤษฏ์ วงศ์มีมา – ฟิลิป โรเลอร์, โย ซัง-แฮ, ปวีร์ ตัณฑะเตมีย์, เกียรติศักดิ์ เจียมอุดม – กฤษณนน ศรีสุวรรณ, ปฐมชัย เสือสกุล – นูรูล ศรียาเก็ม, ลอสเซมี คาราบูเอ, สตีเฟน ล็องจิล – ยานนิก โบลี

ทรู แบงค็อกฯ (4-2-3-1) ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด – ทริสตอง โด, มานูเอล ทอม, เอเวอร์ตัน กอนซัลเวส, พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา – แอนโทนี อำไพพิทักษ์วงศ์, ฮาจิเมะ โฮโซไก – อานนท์ อมรเลิศศักดิ์, ปกเกล้า อนันต์, วานเดอร์ หลุยส์ – ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม